วานนี้(22 ก.พ.55)นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ นายเลิศวิโรจน์ วงศ์วัฒนะ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้นายชลิต ดำรงศักดิ์ จากอธิบดีกรมชลประทาน ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุของการโยกย้ายครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายชลิตล้มเหลวกับการป้องกันน้ำท่วม หรือกรณีผลักดันการประมูลในกรมชลประทานล่าช้า สำหรับนายเลิศวิโรจน์ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานใกล้ชิดกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การโยกย้ายไม่ได้เป็นแพะแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวบ่นว่าเหนื่อยอยากขอพัก เพราะที่ผ่านมาก็ต่ออายุในตำแหน่งไว้ 1 ปี หากสิ้นก.ย.ก็ต้องปรับใหม่ เพราะฉะนั้นขณะนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะได้คนใหม่มาเตรียมรู้งานเพื่อรับมือป้องกันอุทกภัยร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารทรัพยากรน้ำ(กยน.) เหมือนนักกีฬา เขาวิ่งมาเหนื่อย ก็ให้เขาพัก
มีรายงานว่าการโยกย้ายนายชลิตเพื่อวางตัวเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯคนต่อไปแทนนางสาวสุพัตรา ธนเสนียวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ คนปัจจุบันจะเกษียณในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมานายชลิตอยู่ระหว่างต่ออายุในตำแหน่งอธิบดี 1 ปี นับแต่ ต.ค. 2554
แหล่งข่าวกรมชลประทานเปิดเผยว่า นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวง ซึ่งจะมาเป็นอธิบดีกรมชลประทานคนใหม่ สนิทกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นบุคคลที่ถูกวางตัวจะให้เป็นอธิบดีกรมชลประทานมาตั้งแต่ปี 2554 แต่รมว.เกษตรฯ ได้ขอให้นายชลิตอยู่ช่วยงานกันก่อนจึงได้ต่ออายุในตำแหน่งอธิบดีกรมชลฯให้อีก 1ปี และในช่วงปลายปี 2554 ก็เกิดมหาอุทกภัย
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ท่านปฏิบัติภารกิจมาพอสมควรแล้ว มีการขยับไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ก็ยังกำกับดูแลกรมชลประทานอยู่
ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้เกิดจากการบริหารน้ำผิดพลาดจากปัญหาอุกทกภัยปีที่ผ่านมาหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงเป็นนโยบายที่จะปรับเปลี่ยนคนทำงาน และคนใหม่ที่มาแทนในกระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีความเชี่ยวชาญด้านน้ำ มีบุคคลากรที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานกันได้ ถือเป็นเรื่องปกติในการทำงาน ไม่ใช่ว่านายชลิต ไม่สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาน้ำ เพราะทำงานสุดความสามารถมาตลอด และหากจะถูกครหาว่าโยกย้ายเพื่อสังเวยความผิดพลาดในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นข้อครหาจากฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ซึ่งก็เป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว การตัดสินใจในการบริหาร เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบจะพิจารณาดำเนินการ ซึ่งไม่มีเรื่องอะไรที่สลับซับซ้อนและเพื่อความเหมาะสมตามสถานการณ์ แค่เปลี่ยนผู้เล่น นายชลิต ก็ไม่ได้หลุดออกจากสนาม ความรู้ความสามารถก็ยังเป็นประโยชน์ต่อกระทรวงเกษตรฯในเรื่องของกรมชลประทานต่อไป
ที่ผ่านมากรมชลประทานถูกมองว่ามีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ มีความขัดแย้งให้ข้อมูลที่ส่วนทาง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์แต่การตัดสินใจอยู่ที่ผู้บริหาร คงไม่เอาเสียงวิจารณ์มาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณา
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเหตุผล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แต่ยิ้มและเดินแหวกวงล้อมผู้สื่อข่าวเพื่อขึ้นรถยนต์เดินทางไปยังสนามบินอุดรธานีเพื่อเดินทางกลับ กทม.ทันที.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเงินช่วยเหลือภาคเอกชน ในการสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งของรัฐบาลว่า ปัญหายังวนเวียนอยู่ที่การบริหารจัดการ แต่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการออก พรก. เพราะการให้เงินช่วยเหลือภาคเอกชน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่จะปล่อยเป็นเงินกู้โดยธนาคาร ซึ่งยังติดปัญหาเรื่องการคืนเงิน และส่วนที่ 2 เป็นส่วนของเงินช่วยเหลือจากภาครัฐแบบให้เปล่า ซึ่งต้องหาวิธีการใช้เงินงบประมาณไปช่วยเหลือภาคเอกชนให้เท่าเทียม และโปร่งใส ทั้งนี้สำคัญว่าจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ประเด็นว่าจะออกเป็นพรก. หรือไม่ เพราะเรื่องเงินให้เปล่าจะต้องบอกให้ชัดว่าเอาไปให้กับทางเอกชนเขาได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นหากหมู่บ้านจัดสรรบอกอยากจะมีเขื่อนบ้างรัฐบาลจะช่วยหรือไม่ และรัฐบาลจะตรวจสอบเรื่องแบบและราคาที่เหมาะสมอย่างไร เพราะทำท่าเหมือนจะไม่ได้เป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐเลย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุของการโยกย้ายครั้งนี้ อาจเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายชลิตล้มเหลวกับการป้องกันน้ำท่วม หรือกรณีผลักดันการประมูลในกรมชลประทานล่าช้า สำหรับนายเลิศวิโรจน์ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานใกล้ชิดกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การโยกย้ายไม่ได้เป็นแพะแต่อย่างใด เพราะเจ้าตัวบ่นว่าเหนื่อยอยากขอพัก เพราะที่ผ่านมาก็ต่ออายุในตำแหน่งไว้ 1 ปี หากสิ้นก.ย.ก็ต้องปรับใหม่ เพราะฉะนั้นขณะนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมจะได้คนใหม่มาเตรียมรู้งานเพื่อรับมือป้องกันอุทกภัยร่วมกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบบริหารทรัพยากรน้ำ(กยน.) เหมือนนักกีฬา เขาวิ่งมาเหนื่อย ก็ให้เขาพัก
มีรายงานว่าการโยกย้ายนายชลิตเพื่อวางตัวเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯคนต่อไปแทนนางสาวสุพัตรา ธนเสนียวัฒน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ คนปัจจุบันจะเกษียณในปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมานายชลิตอยู่ระหว่างต่ออายุในตำแหน่งอธิบดี 1 ปี นับแต่ ต.ค. 2554
แหล่งข่าวกรมชลประทานเปิดเผยว่า นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ รองปลัดกระทรวง ซึ่งจะมาเป็นอธิบดีกรมชลประทานคนใหม่ สนิทกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นบุคคลที่ถูกวางตัวจะให้เป็นอธิบดีกรมชลประทานมาตั้งแต่ปี 2554 แต่รมว.เกษตรฯ ได้ขอให้นายชลิตอยู่ช่วยงานกันก่อนจึงได้ต่ออายุในตำแหน่งอธิบดีกรมชลฯให้อีก 1ปี และในช่วงปลายปี 2554 ก็เกิดมหาอุทกภัย
นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ท่านปฏิบัติภารกิจมาพอสมควรแล้ว มีการขยับไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่ก็ยังกำกับดูแลกรมชลประทานอยู่
ส่วนการโยกย้ายครั้งนี้เกิดจากการบริหารน้ำผิดพลาดจากปัญหาอุกทกภัยปีที่ผ่านมาหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงเป็นนโยบายที่จะปรับเปลี่ยนคนทำงาน และคนใหม่ที่มาแทนในกระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถและมีความเชี่ยวชาญด้านน้ำ มีบุคคลากรที่สามารถปรับเปลี่ยนการทำงานกันได้ ถือเป็นเรื่องปกติในการทำงาน ไม่ใช่ว่านายชลิต ไม่สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาน้ำ เพราะทำงานสุดความสามารถมาตลอด และหากจะถูกครหาว่าโยกย้ายเพื่อสังเวยความผิดพลาดในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ก็น่าจะเป็นข้อครหาจากฝ่ายตรงข้ามมากกว่า ซึ่งก็เป็นปกติธรรมดาอยู่แล้ว การตัดสินใจในการบริหาร เป็นเรื่องที่ผู้รับผิดชอบจะพิจารณาดำเนินการ ซึ่งไม่มีเรื่องอะไรที่สลับซับซ้อนและเพื่อความเหมาะสมตามสถานการณ์ แค่เปลี่ยนผู้เล่น นายชลิต ก็ไม่ได้หลุดออกจากสนาม ความรู้ความสามารถก็ยังเป็นประโยชน์ต่อกระทรวงเกษตรฯในเรื่องของกรมชลประทานต่อไป
ที่ผ่านมากรมชลประทานถูกมองว่ามีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ มีความขัดแย้งให้ข้อมูลที่ส่วนทาง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์แต่การตัดสินใจอยู่ที่ผู้บริหาร คงไม่เอาเสียงวิจารณ์มาเป็นองค์ประกอบในการพิจารณา
ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเหตุผล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แต่ยิ้มและเดินแหวกวงล้อมผู้สื่อข่าวเพื่อขึ้นรถยนต์เดินทางไปยังสนามบินอุดรธานีเพื่อเดินทางกลับ กทม.ทันที.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเงินช่วยเหลือภาคเอกชน ในการสร้างเขื่อนรอบนิคมอุตสาหกรรม 7 แห่งของรัฐบาลว่า ปัญหายังวนเวียนอยู่ที่การบริหารจัดการ แต่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการออก พรก. เพราะการให้เงินช่วยเหลือภาคเอกชน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่จะปล่อยเป็นเงินกู้โดยธนาคาร ซึ่งยังติดปัญหาเรื่องการคืนเงิน และส่วนที่ 2 เป็นส่วนของเงินช่วยเหลือจากภาครัฐแบบให้เปล่า ซึ่งต้องหาวิธีการใช้เงินงบประมาณไปช่วยเหลือภาคเอกชนให้เท่าเทียม และโปร่งใส ทั้งนี้สำคัญว่าจะทำสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อยู่ที่ประเด็นว่าจะออกเป็นพรก. หรือไม่ เพราะเรื่องเงินให้เปล่าจะต้องบอกให้ชัดว่าเอาไปให้กับทางเอกชนเขาได้อย่างไร ไม่อย่างนั้นหากหมู่บ้านจัดสรรบอกอยากจะมีเขื่อนบ้างรัฐบาลจะช่วยหรือไม่ และรัฐบาลจะตรวจสอบเรื่องแบบและราคาที่เหมาะสมอย่างไร เพราะทำท่าเหมือนจะไม่ได้เป็นกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในภาครัฐเลย.