ในยุทธจักรการเมืองในหลายปีที่ผ่านมาชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงเป็นที่จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งยืนยันได้จากบรรดาเจ้าของโรงน้ำแข็งที่สามารถปั้นน้ำเป็นตัวได้ หรือบรรดานักมายากลผู้สามารถทำให้ไอ้ปืดจากมีตัวตนหรือไม่มีตัวตนหายตัวได้ ว่าเคยได้ยินชื่อเฉลิมหรือคำว่า ฉะ-เหลิม อย่างแน่นอน
เมื่อประเทศไทยถูกประกาศขึ้นบัญชีดำจากคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force on Money Laundering-FATF) ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือในการออกกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism - AML / CFT) สมาชิกของ FATF จำนวน 40 ประเทศ จึงลงมติว่า ประเทศไทย ปากีสถาน อินโดนีเซีย กานา และแทนซาเนียเป็นอีก 5 ประเทศที่ต้องขึ้นบัญชีดำต่อจากประเทศโบลิเวีย คิวบา เซาโตเมแอนด์ปรินซิเป เอธิโอเปีย ไนจีเรีย เคนยา ตุรกี ซีเรีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ศรีลังกา และพม่า
วันที่ 21 ก.พ. ท่านรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สัมภาษณ์ในหนังสือกรุงเทพธุรกิจ ด้วยความมาดมั่นว่า “องค์กร FATF เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสหประชาชาติหรือยูเอ็น ไม่ใช่เทวดาที่ไหนที่จะมาสั่งเรา ที่ผ่านมารัฐบาลตื่นเต้น เป็นพวกห่านที่ตกใจง่าย ตนศึกษาเรื่องนี้มาตลอดโดยการจะออกกฎหมายใดต้องคำนึงถึงประเพณี วัฒนธรรมของกฎหมายไทย เรื่องนี้ทาง ปปง.เคยเสนอมาแล้ว ตนเคยบอกเลขาฯ ปปง.ไปแล้วว่าไม่ได้ แค่เตรียมการจะทำก็ถือว่าความผิดสำเร็จและถ้าไปมีอำนาจเหนือศาล ตนไม่เห็นด้วย มีอำนาจไปยึดทรัพย์สินในธนาคารและอำนาจอื่นๆ อีกมาก จะทำเพื่อเอาใจ FATF ไม่ได้”
“ผมพร้อมที่จะชี้แจงทุกเวที เพราะกฎหมายเมื่อออกมาแล้วต้องใช้ในเมืองไทยด้วย อย่างกรณีที่มีการไปแก้กฎหมายก่อการร้ายที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยออกเอาไว้ ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวต่ออีกว่า “ถ้าจะออกกฎหมายสองฉบับ ต้องแก้กฎหมายก่อการร้ายในเมืองไทยก่อน ถ้าไปแก้ฉบับที่ FATF เรียกร้องก่อนที่จะมีการชุมนุม คนในเมืองไทยก็จะถูกยึดทรัพย์กันหมด แม้แต่กระท่อมที่จังหวัดอุดรธานี ก็ถูกยึดด้วย พวกไม่รู้ก็ทำกระดี๊กระด๊าว่าจะต้องเร่งรัด แต่ผมไม่เร่งรัดและไม่ต้องไปทำหนังสือชี้แจง FATF เพราะเขาไม่ใช่เจ้านายประเทศเรา ทำไมจะต้องเอากฎหมายฉบับนี้มาแทรกแซงประเทศเรา แล้วเขาก็ไม่ได้บอกว่าเราถูกขึ้นแบล็กลิสต์ แต่ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากอิสราเอลและสหรัฐฯ เขาโกรธอิหร่านว่าตั้งระเบิดนิวเคลียร์และอิหร่านกับเราผูกพันกันมาหลายร้อยปี คนอิหร่านมีมรดกตกทอดมาเป็นคนไทยเยอะแยะ มันต้องศึกษาประวัติศาสตร์ อย่าไปตื่นเต้น”
จากคำพูด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ข้างต้นทำให้คิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” แต่พอมีปัญหาบรรดาสาวกทักษิณเรียกหา “บิดายูเอ็น” เป็นแถวๆ และที่สำคัญเรื่องราวที่ ปปง.เสนอไปแล้วนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับรู้และปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ได้... จะทำเพื่อเอาใจ FATF ไม่ได้ ทั้งให้เหตุผลถึงการออกกฎหมายและร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยกตัวอย่างที่น่าสนใจอย่าง
“กรณีที่มีการไปแก้กฎหมายก่อการร้ายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยออกเอาไว้ ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย”
การอธิบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ทำให้ผู้เขียนถึงบางอ้อว่าที่คนมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้ายหรือโดนข้อหาการก่อการร้าย จากฝีมือออกกฎหมายยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนี่เอง
การสัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง บอกได้เลยว่ามีหลายส่วนที่ถูกใจผู้เขียน มีหลายส่วนที่ไขข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์อย่างการแก้กฎหมายก่อการร้าย “ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย” เป็นความกระจ่างว่าเป็นฝีมือรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งการอธิบายการเมืองระหว่างประเทศคงไม่ถูกใจเจ้านายกระทรวงต่างประเทศ จึงทำให้ผู้เขียนอยากชวนผู้อ่านตั้งคำถามแบบ “คุณเชื่อหรือไม่” ว่า อีกไม่นานคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่รายงานข่าวจะกลายเป็น “ไฉน” ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ได้เปลี่ยนชื่อตามนักมายากลคนดังอย่าง “ไฉน” หรือคุณไฉน แสงทองสุข แต่ทุกคำพูดจะถูกดูดไปกับสายลม หายไปได้เร็วยิ่งกว่าการเล่นมายากลหรือไม่ก็มีแพะคือผู้สื่อข่าวรายงานผิดๆๆๆ...ครับ
เมื่อประเทศไทยถูกประกาศขึ้นบัญชีดำจากคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน (Financial Action Task Force on Money Laundering-FATF) ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือในการออกกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (Anti-Money Laundering and Combating the Financing of Terrorism - AML / CFT) สมาชิกของ FATF จำนวน 40 ประเทศ จึงลงมติว่า ประเทศไทย ปากีสถาน อินโดนีเซีย กานา และแทนซาเนียเป็นอีก 5 ประเทศที่ต้องขึ้นบัญชีดำต่อจากประเทศโบลิเวีย คิวบา เซาโตเมแอนด์ปรินซิเป เอธิโอเปีย ไนจีเรีย เคนยา ตุรกี ซีเรีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ ศรีลังกา และพม่า
วันที่ 21 ก.พ. ท่านรองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สัมภาษณ์ในหนังสือกรุงเทพธุรกิจ ด้วยความมาดมั่นว่า “องค์กร FATF เป็นองค์กรที่ปรึกษาของสหประชาชาติหรือยูเอ็น ไม่ใช่เทวดาที่ไหนที่จะมาสั่งเรา ที่ผ่านมารัฐบาลตื่นเต้น เป็นพวกห่านที่ตกใจง่าย ตนศึกษาเรื่องนี้มาตลอดโดยการจะออกกฎหมายใดต้องคำนึงถึงประเพณี วัฒนธรรมของกฎหมายไทย เรื่องนี้ทาง ปปง.เคยเสนอมาแล้ว ตนเคยบอกเลขาฯ ปปง.ไปแล้วว่าไม่ได้ แค่เตรียมการจะทำก็ถือว่าความผิดสำเร็จและถ้าไปมีอำนาจเหนือศาล ตนไม่เห็นด้วย มีอำนาจไปยึดทรัพย์สินในธนาคารและอำนาจอื่นๆ อีกมาก จะทำเพื่อเอาใจ FATF ไม่ได้”
“ผมพร้อมที่จะชี้แจงทุกเวที เพราะกฎหมายเมื่อออกมาแล้วต้องใช้ในเมืองไทยด้วย อย่างกรณีที่มีการไปแก้กฎหมายก่อการร้ายที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยออกเอาไว้ ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวต่ออีกว่า “ถ้าจะออกกฎหมายสองฉบับ ต้องแก้กฎหมายก่อการร้ายในเมืองไทยก่อน ถ้าไปแก้ฉบับที่ FATF เรียกร้องก่อนที่จะมีการชุมนุม คนในเมืองไทยก็จะถูกยึดทรัพย์กันหมด แม้แต่กระท่อมที่จังหวัดอุดรธานี ก็ถูกยึดด้วย พวกไม่รู้ก็ทำกระดี๊กระด๊าว่าจะต้องเร่งรัด แต่ผมไม่เร่งรัดและไม่ต้องไปทำหนังสือชี้แจง FATF เพราะเขาไม่ใช่เจ้านายประเทศเรา ทำไมจะต้องเอากฎหมายฉบับนี้มาแทรกแซงประเทศเรา แล้วเขาก็ไม่ได้บอกว่าเราถูกขึ้นแบล็กลิสต์ แต่ปัญหาทั้งหมดมันเกิดจากอิสราเอลและสหรัฐฯ เขาโกรธอิหร่านว่าตั้งระเบิดนิวเคลียร์และอิหร่านกับเราผูกพันกันมาหลายร้อยปี คนอิหร่านมีมรดกตกทอดมาเป็นคนไทยเยอะแยะ มันต้องศึกษาประวัติศาสตร์ อย่าไปตื่นเต้น”
จากคำพูด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ข้างต้นทำให้คิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” แต่พอมีปัญหาบรรดาสาวกทักษิณเรียกหา “บิดายูเอ็น” เป็นแถวๆ และที่สำคัญเรื่องราวที่ ปปง.เสนอไปแล้วนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รับรู้และปฏิเสธไปแล้วว่าไม่ได้... จะทำเพื่อเอาใจ FATF ไม่ได้ ทั้งให้เหตุผลถึงการออกกฎหมายและร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยกตัวอย่างที่น่าสนใจอย่าง
“กรณีที่มีการไปแก้กฎหมายก่อการร้ายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยออกเอาไว้ ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย”
การอธิบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ทำให้ผู้เขียนถึงบางอ้อว่าที่คนมาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้ายหรือโดนข้อหาการก่อการร้าย จากฝีมือออกกฎหมายยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนี่เอง
การสัมภาษณ์ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง บอกได้เลยว่ามีหลายส่วนที่ถูกใจผู้เขียน มีหลายส่วนที่ไขข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์อย่างการแก้กฎหมายก่อการร้าย “ทำให้การเรียกร้องประชาธิปไตยกลายเป็นการก่อการร้าย” เป็นความกระจ่างว่าเป็นฝีมือรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งการอธิบายการเมืองระหว่างประเทศคงไม่ถูกใจเจ้านายกระทรวงต่างประเทศ จึงทำให้ผู้เขียนอยากชวนผู้อ่านตั้งคำถามแบบ “คุณเชื่อหรือไม่” ว่า อีกไม่นานคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่รายงานข่าวจะกลายเป็น “ไฉน” ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไม่ได้เปลี่ยนชื่อตามนักมายากลคนดังอย่าง “ไฉน” หรือคุณไฉน แสงทองสุข แต่ทุกคำพูดจะถูกดูดไปกับสายลม หายไปได้เร็วยิ่งกว่าการเล่นมายากลหรือไม่ก็มีแพะคือผู้สื่อข่าวรายงานผิดๆๆๆ...ครับ
