วานนี้ (21 ก.พ.55)นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเรื่อง ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช ....ต่อประธานรัฐสภา เพื่อขอให้เลื่อนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญออกไปก่อน เนื่องจากประเด็นที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นเงื่อนไขสำคัญใน กระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยและการแก้ไขความขัดแย้งทางการเมือง หากไม่ได้รับการยอมรับ อาจไม่ชอบธรรมได้ พร้อมกันนี้ ยังเสนอความเห็น 3 ข้อคือ ที่มาของ ส.ส.ร.ต้องหลากหลาย ต้องทำประชามติและการกำหนดวาระพิจารณาไม่ควรเร่งรีบ และเปิดกว้างการพิจารณาทุกร่างที่มีการยื่นไว้
ทั้งนี้ ยังอ้างถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ในการเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอย่างเหมาะสมต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาดำเนินการด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่ควรเร่งเวลาทำร่างฯ และเสนอกำหนดกรอบ 300 วัน
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ประเด็นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจการตัดสินใจของตน เพราะได้บรรจุลงในระเบียบการประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว ดังนั้นกรณีนี้จะได้รับการพิจารณาหรือไม่นั้น ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา
ที่โรงแรมนภาลัย จังหวัดอุดรธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดีเบตเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไหนก็ได้พร้อมเสมอ และเห็นว่าอย่าจิตใจคับแคบ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งสิ้น เพราะกระบวนการมีตั้งแต่การตั้งส.ส.ร.ไปจนถึงการทำประชามติ
ส่วนกรณี มวลชนที่จะมาคัดค้าน เชื่อว่าตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีเหตุรุนแรง และยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสถียรภาพอ่อนแอลง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงว่า ได้ขอความร่วมมือ ส.ส. ให้เข้าประชุมร่วมกัน เพื่อจะให้มีองค์ประชุมให้ครบ ป้องกันการตีรวนของ ส.ส.ฝ่าย
ส่วนที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา 10 คน ส่วนตัวมองแล้วไม่สบายใจ ที่มีชื่อของนายนรนิติ เศรษฐบุตร อดีตสสร. ปี 50 และอีกหลายคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย และถือเป็นทางตันควรพิจารณาหาผู้ที่มีความเหมาะสมและหลากหลายกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการท้าดีเบตว่า อยู่ในสภาฯกันอยู่แล้ว อย่าหนีสภาฯก็แล้วกัน
ส่วนข้อเสนอที่กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์เสนอให้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี50ทั้งฉบับแทนที่จะปรับปรุงบางมาตรานั้น เห็นว่าการแก้ไขครั้งนี้ยกร่างทั้งฉบับอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐสภาและ ส.สร.
อีกด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านมีมติไม่เข้าร่วมเจรจาวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดกรอบเวลา เพราะที่ผ่านมาเคยมีการตกลงกันไว้แล้ว แต่รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตาม โดยอาศัยเสียงข้างมากปิดการอภิปราย ดังนั้นจนกว่าจะมีหลักประกันจากรัฐบาลว่าเมื่อเจรจาแล้วจะเป็นไปตามข้อตกลงจึงจะร่วมด้วยทั้งนี้ ยังไม่สบายใจที่ประธานรับสภา และวิปรัฐบาล จะเปิดโอกาสให้อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียง 1 วัน เพราะแม้จะมีการแก้ไขเพียง 1 มาตรา แต่มีผลต่อการแก้ไขทั้งฉบับ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพยายามเร่งรัดทุกขั้นตอน
แม้ฝ่ายค้านจะประกาศไม่ร่วม นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล พร้อมกับ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิสภา ร่วมกันแถลงข่าวหลังกำหนดกรอบระยะเวลาในการอภิปรายว่า จากการหารือทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่าจะให้สิทธิ์ฝ่ายค้านในการอภิปราย โดยจะแบ่งเวลาให้ทั้ง 3 ฝ่ายได้อภิปรายฝ่ายละ 8 ชั่วโมงและจะให้โอกาสรัฐบาลในการเสนอร่าง 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนร่างของพรรคชาติไทยพัฒนา จะให้ใช้เวลาในส่วนของรัฐบาล
ด้านนายนิคม ระบุว่าจะใช้เวลาในการอภิปรายในวันที่ 23-24 ก.พ.นี้ รวมทั้งสิ้น 25 ชั่วโมงครึ่ง โดยไม่รวมกับเวลาในการประท้วงต่างๆ หากยังไม่เสร็จวันที่ 24 ก.พ. จะมีการนัดวิปทั้ง 3 ฝ่าย มาประชุมร่วมกันอีกก่อนจตั้งคณะกรรมาธิการของรัฐสภาจำนวน 45 คน ตามสัดส่วนสว. 10 คน และ ส.ส. 35 คน และจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11
วันเดียวกันนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะแก้รธน. เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่พรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ 10 คน โดยผู้เสนอร่างจะไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ สถาบันศาล และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนสนับสนุนให้มีการแก้ไข และเชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา หรือ เหตุการณ์ประท้วงวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 11.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะ แถลงท่าทีที่บ้านพระอาทิตย์
อีกเรื่อง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เว็บไซต์เอเชีย ไทม์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้เตรียมมวลชนเพื่อทำสงครามรอบใหม่ในกลางปีนี้ว่าน่าจะเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะมีความรุนแรง และมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งเตรียมพร้อม โดยเห็นได้จากแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาปั้นข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นระลอก รวมทั้งการระดมคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆหลายจังหวัดทั้งนี้ หากเป็นความจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าวิตกที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเลิกราที่จะกินรวบทั้งอำนาจรัฐ และอำนาจประชาชน โดยจะเป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคมไม่จบสิ้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ มีความจริงใจ ก็ควรยุติและล้มเลิกแนวคิดนี้เสีย มิฉะนั้น การสร้างภาพปรองดองในงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" จะเป็นการละลายงบประมาณ และสูญเปล่าใน เพราะเป็นแค่การสร้างภาพ
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าประเทศไทยจะเกิดภาวะวิกฤตอีกครั้งในช่วงกลางปี จากหลายปัญหาที่รัฐบาลไม่ใส่ใจ แต่กลับไปขยายหมู่บ้านคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.อุดรธานี กว่า 1,000 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแบ่งแยกประชาชน และสวนทางกับนโยบายปรองดองของรัฐบาล
ส่วนกรณีร.ต.อ.เฉลิมจะนำร่างพ.ร.บ.ปรองดองไปสอบถามความคิดเห็นประชาชนนั้น เห็นว่า รัฐบาลมีสภาอยู่แล้ว อีกทั้งยังตั้งกรรมการอิสระขึ้น ถ้าไปทำอย่างอื่นก็แสดงว่าไม่จริงใจ ถ้าปรองดองจริง ก็ไม่ควรแบ่งแยกประชาชน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามไปยังพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยืนยันว่า ไม่มีการตั้งวอร์รูม ซึ่งรายงานข่าวชิ้นนี้เป็นเรื่องที่เหลวไหลโดยสิ้นเชิง และเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนวิเคราะห์เท่านั้น วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จำเป็นต้องตั้งห้องวอร์รูมอะไรมีแต่ห้องคาราโอเกะ เพราะมีน้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และขณะนี้บรรยากาศของประเทศก็กำลังกลับเข้าสู่การปรองดอง
อีกเรื่อง นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มชมรมคนเสื้อแดงอุดรธานี กล่าวถึงกรณีกลุ่มของนายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการสหพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง จะไม่มาร่วมชุมนุมหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ช่วงครม.สัญจรว่า ตนประกาศมาตลอดว่าการทำงานโปร่งใส และเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลและไม่ใช่เป็นองค์กรภาคประชาชนที่อยากดัง ฉะนั้นอย่าไปใส่กลุ่มนายอานนท์ถือว่าไร้ราคาที่สุด
“อย่าไปฟัง กลุ่มชมรมคนรักอุดรฯจะมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ศรัทธาประชาชนนี่คือสิ่งจะประกาศได้ ถามหน่อยว่าเดินบนถนนได้หรือไม่ อยากดังอยากเด่นโจมตีลูกพี่เก่า ตนไม่อยากตอบโต้ ตนเป็นผู้ใหญ่พอ แต่มันพูดมากเกินไป ไปให้สัมภาษณ์ว่ามาพบภรรยาตน ตอแหลสิ้นเชิง วันนี้ไม่อยากดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ไม่อยากให้เป็นเหยื่อฝ่ายตรงข้าม”
ทั้งนี้ ตนเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือน ต.ค.ไม่เคยไปรบกวน พ.ต.ท.ทักษิณ แม้แต่การจัดเวทีวันนี้ก็ไม่ได้แจ้งส.ส.หรือพล.ต.อ.ประชา พรมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นความต้องการของตน แม้แต่ป้ายหลังเวที “บ้านนี้ต้องการทักษิณกลับประเทศไทย” มีการจำหน่ายแผ่นละ 100บาท ติดตามหมู่บ้านต่าง
นอกจากนี้กลุ่มเสื้อแดงอุดรฯจะไม่ไปชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันยื่นแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากตนกับนปช.ไม่ได้ประชุมร่วมกันมานานแล้ว จึงไม่ทราบแนวทางของนปช. จึงไม่มีความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญเท่าไหร่ แต่เราเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะมีหลายมาตราที่หมกเม็ดเอาไว้
วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม ถือโอกาสใช้เวทีดังกล่าว ประกาศว่า จะแก้รัฐธรรมนูญภายใน 180 วัน และจะนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยให้ได้ อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเนื้อหาพ.ร.บปรองดอง แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยังอ้างถึงอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ในการเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายอย่างเหมาะสมต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาดำเนินการด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่ควรเร่งเวลาทำร่างฯ และเสนอกำหนดกรอบ 300 วัน
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ประเด็นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจการตัดสินใจของตน เพราะได้บรรจุลงในระเบียบการประชุมร่วมรัฐสภาแล้ว ดังนั้นกรณีนี้จะได้รับการพิจารณาหรือไม่นั้น ต้องเป็นการตัดสินใจร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา
ที่โรงแรมนภาลัย จังหวัดอุดรธานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวท้าทายให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดีเบตเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไหนก็ได้พร้อมเสมอ และเห็นว่าอย่าจิตใจคับแคบ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนทั้งสิ้น เพราะกระบวนการมีตั้งแต่การตั้งส.ส.ร.ไปจนถึงการทำประชามติ
ส่วนกรณี มวลชนที่จะมาคัดค้าน เชื่อว่าตำรวจจะควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่มีเหตุรุนแรง และยืนยันว่าจะไม่ทำให้เสถียรภาพอ่อนแอลง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงว่า ได้ขอความร่วมมือ ส.ส. ให้เข้าประชุมร่วมกัน เพื่อจะให้มีองค์ประชุมให้ครบ ป้องกันการตีรวนของ ส.ส.ฝ่าย
ส่วนที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา 10 คน ส่วนตัวมองแล้วไม่สบายใจ ที่มีชื่อของนายนรนิติ เศรษฐบุตร อดีตสสร. ปี 50 และอีกหลายคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย และถือเป็นทางตันควรพิจารณาหาผู้ที่มีความเหมาะสมและหลากหลายกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการท้าดีเบตว่า อยู่ในสภาฯกันอยู่แล้ว อย่าหนีสภาฯก็แล้วกัน
ส่วนข้อเสนอที่กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์เสนอให้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี50ทั้งฉบับแทนที่จะปรับปรุงบางมาตรานั้น เห็นว่าการแก้ไขครั้งนี้ยกร่างทั้งฉบับอยู่แล้ว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐสภาและ ส.สร.
อีกด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า กรณีฝ่ายค้านมีมติไม่เข้าร่วมเจรจาวิป 3 ฝ่ายเพื่อกำหนดกรอบเวลา เพราะที่ผ่านมาเคยมีการตกลงกันไว้แล้ว แต่รัฐบาลไม่ได้ปฏิบัติตาม โดยอาศัยเสียงข้างมากปิดการอภิปราย ดังนั้นจนกว่าจะมีหลักประกันจากรัฐบาลว่าเมื่อเจรจาแล้วจะเป็นไปตามข้อตกลงจึงจะร่วมด้วยทั้งนี้ ยังไม่สบายใจที่ประธานรับสภา และวิปรัฐบาล จะเปิดโอกาสให้อภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียง 1 วัน เพราะแม้จะมีการแก้ไขเพียง 1 มาตรา แต่มีผลต่อการแก้ไขทั้งฉบับ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลพยายามเร่งรัดทุกขั้นตอน
แม้ฝ่ายค้านจะประกาศไม่ร่วม นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล พร้อมกับ นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานวิปวุฒิสภา ร่วมกันแถลงข่าวหลังกำหนดกรอบระยะเวลาในการอภิปรายว่า จากการหารือทั้ง 2 ฝ่ายแล้วเห็นว่าจะให้สิทธิ์ฝ่ายค้านในการอภิปราย โดยจะแบ่งเวลาให้ทั้ง 3 ฝ่ายได้อภิปรายฝ่ายละ 8 ชั่วโมงและจะให้โอกาสรัฐบาลในการเสนอร่าง 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนร่างของพรรคชาติไทยพัฒนา จะให้ใช้เวลาในส่วนของรัฐบาล
ด้านนายนิคม ระบุว่าจะใช้เวลาในการอภิปรายในวันที่ 23-24 ก.พ.นี้ รวมทั้งสิ้น 25 ชั่วโมงครึ่ง โดยไม่รวมกับเวลาในการประท้วงต่างๆ หากยังไม่เสร็จวันที่ 24 ก.พ. จะมีการนัดวิปทั้ง 3 ฝ่าย มาประชุมร่วมกันอีกก่อนจตั้งคณะกรรมาธิการของรัฐสภาจำนวน 45 คน ตามสัดส่วนสว. 10 คน และ ส.ส. 35 คน และจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11
วันเดียวกันนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะแก้รธน. เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่พรรคได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ 10 คน โดยผู้เสนอร่างจะไม่แตะต้องหมวดพระมหากษัตริย์ สถาบันศาล และองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ตนสนับสนุนให้มีการแก้ไข และเชื่อว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา หรือ เหตุการณ์ประท้วงวุ่นวาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 11.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะ แถลงท่าทีที่บ้านพระอาทิตย์
อีกเรื่อง นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เว็บไซต์เอเชีย ไทม์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้สั่งให้เตรียมมวลชนเพื่อทำสงครามรอบใหม่ในกลางปีนี้ว่าน่าจะเป็นความเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับสถานการณ์การเมืองที่หลายฝ่ายประเมินว่าจะมีความรุนแรง และมีความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง จึงทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งเตรียมพร้อม โดยเห็นได้จากแกนนำคนเสื้อแดงที่ออกมาปั้นข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นระลอก รวมทั้งการระดมคนเสื้อแดงในพื้นที่ต่างๆหลายจังหวัดทั้งนี้ หากเป็นความจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าวิตกที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมเลิกราที่จะกินรวบทั้งอำนาจรัฐ และอำนาจประชาชน โดยจะเป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคมไม่จบสิ้น หากพ.ต.ท.ทักษิณ มีความจริงใจ ก็ควรยุติและล้มเลิกแนวคิดนี้เสีย มิฉะนั้น การสร้างภาพปรองดองในงาน "รักเมืองไทย เดินหน้าประเทศไทย" จะเป็นการละลายงบประมาณ และสูญเปล่าใน เพราะเป็นแค่การสร้างภาพ
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่าประเทศไทยจะเกิดภาวะวิกฤตอีกครั้งในช่วงกลางปี จากหลายปัญหาที่รัฐบาลไม่ใส่ใจ แต่กลับไปขยายหมู่บ้านคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.อุดรธานี กว่า 1,000 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแบ่งแยกประชาชน และสวนทางกับนโยบายปรองดองของรัฐบาล
ส่วนกรณีร.ต.อ.เฉลิมจะนำร่างพ.ร.บ.ปรองดองไปสอบถามความคิดเห็นประชาชนนั้น เห็นว่า รัฐบาลมีสภาอยู่แล้ว อีกทั้งยังตั้งกรรมการอิสระขึ้น ถ้าไปทำอย่างอื่นก็แสดงว่าไม่จริงใจ ถ้าปรองดองจริง ก็ไม่ควรแบ่งแยกประชาชน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนได้โทรศัพท์สอบถามไปยังพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยืนยันว่า ไม่มีการตั้งวอร์รูม ซึ่งรายงานข่าวชิ้นนี้เป็นเรื่องที่เหลวไหลโดยสิ้นเชิง และเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนวิเคราะห์เท่านั้น วันนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่จำเป็นต้องตั้งห้องวอร์รูมอะไรมีแต่ห้องคาราโอเกะ เพราะมีน้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว และขณะนี้บรรยากาศของประเทศก็กำลังกลับเข้าสู่การปรองดอง
อีกเรื่อง นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มชมรมคนเสื้อแดงอุดรธานี กล่าวถึงกรณีกลุ่มของนายอานนท์ แสนน่าน เลขานุการสหพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง จะไม่มาร่วมชุมนุมหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ช่วงครม.สัญจรว่า ตนประกาศมาตลอดว่าการทำงานโปร่งใส และเป็นองครักษ์พิทักษ์รัฐบาลและไม่ใช่เป็นองค์กรภาคประชาชนที่อยากดัง ฉะนั้นอย่าไปใส่กลุ่มนายอานนท์ถือว่าไร้ราคาที่สุด
“อย่าไปฟัง กลุ่มชมรมคนรักอุดรฯจะมากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ศรัทธาประชาชนนี่คือสิ่งจะประกาศได้ ถามหน่อยว่าเดินบนถนนได้หรือไม่ อยากดังอยากเด่นโจมตีลูกพี่เก่า ตนไม่อยากตอบโต้ ตนเป็นผู้ใหญ่พอ แต่มันพูดมากเกินไป ไปให้สัมภาษณ์ว่ามาพบภรรยาตน ตอแหลสิ้นเชิง วันนี้ไม่อยากดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ไม่อยากให้เป็นเหยื่อฝ่ายตรงข้าม”
ทั้งนี้ ตนเคลื่อนไหวมาตั้งแต่เดือน ต.ค.ไม่เคยไปรบกวน พ.ต.ท.ทักษิณ แม้แต่การจัดเวทีวันนี้ก็ไม่ได้แจ้งส.ส.หรือพล.ต.อ.ประชา พรมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นความต้องการของตน แม้แต่ป้ายหลังเวที “บ้านนี้ต้องการทักษิณกลับประเทศไทย” มีการจำหน่ายแผ่นละ 100บาท ติดตามหมู่บ้านต่าง
นอกจากนี้กลุ่มเสื้อแดงอุดรฯจะไม่ไปชุมนุมหน้ารัฐสภาในวันยื่นแก้รัฐธรรมนูญ เนื่องจากตนกับนปช.ไม่ได้ประชุมร่วมกันมานานแล้ว จึงไม่ทราบแนวทางของนปช. จึงไม่มีความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญเท่าไหร่ แต่เราเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะมีหลายมาตราที่หมกเม็ดเอาไว้
วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม ถือโอกาสใช้เวทีดังกล่าว ประกาศว่า จะแก้รัฐธรรมนูญภายใน 180 วัน และจะนำพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาประเทศไทยให้ได้ อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเนื้อหาพ.ร.บปรองดอง แต่อย่างใด