ASTVผู้จัดการรายวัน - ไข่ไก่ฉีกหน้า “บุญทรง” ขึ้นราคาสวนคำสั่งห้ามฟองละ 50-80 สตางค์ ดิ้นกันพร่าน เรียกหารืออีกรอบ ผู้ผลิตย้อนถามไหนบอกจะช่วยวัตถุดิบราคาถูก แต่วันนี้ยังนิ่งสนิท ส่วนร้านอาหารธงฟ้า นำร่องเปิด 500 แห่ง ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 8 พันแห่ง หวังดึงราคาอาหารปรุงสำเร็จ เจอพ่อค้าแม่ค้าสวนขายไม่ได้ ต้นทุนด้านอื่นพุ่งสูงลิ้ว ทั้งค่าเช่า ค่าแรง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันให้ร้านอาหารธงฟ้าเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแข่งขันกับร้านอาหารที่ขายราคาแพง และช่วยดึงราคาอาหารปรุงสำเร็จให้ลดลงมา โดยเบื้องต้นได้มีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการแล้ว 500 แห่ง และตั้งเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ถึง 8,000 แห่ง ในจำนวนนี้จะเป็นร้านอาหารในเขตกรุงเทพฯ ประมาณ 1,000 แห่ง เพราะเป็นพื้นที่ประชาชนร้องเรียนปัญหาอาหารจานด่วนราคาแพงมากที่สุด
ทั้งนี้ ร้านอาหารธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงฯ จะให้กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ช่วยจัดหาและกระจายสินค้าวัตถุดิบในการประกอบอาหารราคาถูกให้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุน เช่น ข้าวถุงอคส. ขนาด 5 กก. จะขายให้ 70 บาท และยังมีน้ำมันพืช น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่จะขายให้ในราคาถูกอีกด้วย
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มของใช้ส่วนตัว และของใช้ทั่วไป จะเข้าไปดูแลให้มีราคาเป็นธรรม และอาจใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแลเพิ่มเติม เช่น กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ส่วนปัญหาไข่ไก่ ยอมรับว่าขณะนี้เบอร์ขนาดใหญ่ได้มีการปรับราคาสูงขึ้น เพราะอยู่ระวางการเปลี่ยนแม่ไก่ยืนกรง ทำให้ไข่ขนาดใหญ่ออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาสูงขึ้น
ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งหาแนวทางแก้ไขแล้ว
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ค้าภายในจังหวัดเร่งจัดหาแหล่งวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูกในแต่ละพื้นที่ เพื่อจัดส่งให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการร้านอาหารธงฟ้า ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะให้ส่วนกลางดูแล เพราะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก คาดว่าจะทำได้ใน
เร็วๆ นี้ ขณะที่การดูแลราคาอาหารจานด่วนในศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า สำนักงาน และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ได้หารือกับผู้ประกอบการเรียบร้อยแล้ว และภายในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะเห็นทุกแห่งขายอาหารที่อยู่ในรายการราคาอาหารแนะนำไม่เกินจานละ 35 บาทแน่นอน
ส่วนปัญหาไข่ไก่ราคาสูง เร็วๆ นี้ จะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไก่ไข่ และจำหน่ายไข่ไก่มาหารือกันอีกครั้ง เพื่อขอทราบเหตุผลว่าเพราะอะไรไข่ไก่จึงขายแพงเกินกว่าราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนด เพราะขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งจัดหาแหล่งอาหารสัตว์ราคาถูกเพื่อช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงให้แล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ราคาไข่ไก่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ ขายแพงกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนดไม่ต่ำกว่าฟองละ 50-80 สตางค์ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 3 ที่นิยมใช้ในการบริโภค ราคาตลาดอยู่ที่ฟองละ 3.10-3.20 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่ฟองละ 2.60 บาท ส่วนไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาในตลาดฟองละ 3.50 บาท ราคาแนะนำฟองละ 2.80 บาท และเบอร์ 0 ราคา 3.80 บาท ราคาแนะนำ 3.00 บาท
ก่อนหน้านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ปรับขึ้นราคาไข่คละหน้าฟาร์มจากฟองละ 2.20 บาทเป็น 2.60 บาท แต่นายบุญทรงได้สั่งห้ามปรับขึ้นราคา และหาทางช่วยเหลือต้นทุนโดยมอบหมายให้อคส.จัดหาอาหารสัตว์ราคาถูกให้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนผู้เลี้ยงต้องปรับขึ้นราคาไข่ไก่สูงเกินกว่าราคาแนะนำที่กำหนด
สำหรับการตรวจสอบราคาอาหารสำเร็จรูปตามตลาดสดและร้านอาหารทั่วไป พบว่า ส่วนใหญ่ราคาขายเริ่มต้นที่เมนูละ 30-35 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนด 5-10 บาท และส่วนใหญ่ยืนยันว่าจะไม่ปรับลดราคา และเข้าร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้า โดยอ้างในเรื่องต้นทุนอื่นๆ ที่สูงขึ้น ทั้งค่าเช่าพื้นที่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สูงขึ้น เช่น ค่าภาชนะ ค่าแรงงาน
ส่วนราคาเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว และไก่เนื้อ ก็มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้น หลังเข้าสู่หน้าร้อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ควรจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย ไม่ใช่แค่ทำรายละเอียดต้นทุนเฉพาะแค่วัตถุดิบออกมา
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าหมายผลักดันให้ร้านอาหารธงฟ้าเกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแข่งขันกับร้านอาหารที่ขายราคาแพง และช่วยดึงราคาอาหารปรุงสำเร็จให้ลดลงมา โดยเบื้องต้นได้มีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการแล้ว 500 แห่ง และตั้งเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ถึง 8,000 แห่ง ในจำนวนนี้จะเป็นร้านอาหารในเขตกรุงเทพฯ ประมาณ 1,000 แห่ง เพราะเป็นพื้นที่ประชาชนร้องเรียนปัญหาอาหารจานด่วนราคาแพงมากที่สุด
ทั้งนี้ ร้านอาหารธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงฯ จะให้กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ช่วยจัดหาและกระจายสินค้าวัตถุดิบในการประกอบอาหารราคาถูกให้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุน เช่น ข้าวถุงอคส. ขนาด 5 กก. จะขายให้ 70 บาท และยังมีน้ำมันพืช น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ที่จะขายให้ในราคาถูกอีกด้วย
สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มของใช้ส่วนตัว และของใช้ทั่วไป จะเข้าไปดูแลให้มีราคาเป็นธรรม และอาจใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแลเพิ่มเติม เช่น กฎหมายการแข่งขันทางการค้า ส่วนปัญหาไข่ไก่ ยอมรับว่าขณะนี้เบอร์ขนาดใหญ่ได้มีการปรับราคาสูงขึ้น เพราะอยู่ระวางการเปลี่ยนแม่ไก่ยืนกรง ทำให้ไข่ขนาดใหญ่ออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาสูงขึ้น
ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งหาแนวทางแก้ไขแล้ว
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ค้าภายในจังหวัดเร่งจัดหาแหล่งวัตถุดิบประกอบอาหารราคาถูกในแต่ละพื้นที่ เพื่อจัดส่งให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการร้านอาหารธงฟ้า ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะให้ส่วนกลางดูแล เพราะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก คาดว่าจะทำได้ใน
เร็วๆ นี้ ขณะที่การดูแลราคาอาหารจานด่วนในศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า สำนักงาน และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ได้หารือกับผู้ประกอบการเรียบร้อยแล้ว และภายในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จะเห็นทุกแห่งขายอาหารที่อยู่ในรายการราคาอาหารแนะนำไม่เกินจานละ 35 บาทแน่นอน
ส่วนปัญหาไข่ไก่ราคาสูง เร็วๆ นี้ จะมีการเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไก่ไข่ และจำหน่ายไข่ไก่มาหารือกันอีกครั้ง เพื่อขอทราบเหตุผลว่าเพราะอะไรไข่ไก่จึงขายแพงเกินกว่าราคาแนะนำที่กรมฯ กำหนด เพราะขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งจัดหาแหล่งอาหารสัตว์ราคาถูกเพื่อช่วยลดต้นทุนในการเลี้ยงให้แล้ว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ราคาไข่ไก่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ ขายแพงกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนดไม่ต่ำกว่าฟองละ 50-80 สตางค์ เช่น ไข่ไก่เบอร์ 3 ที่นิยมใช้ในการบริโภค ราคาตลาดอยู่ที่ฟองละ 3.10-3.20 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่ฟองละ 2.60 บาท ส่วนไข่ไก่เบอร์ 1 ราคาในตลาดฟองละ 3.50 บาท ราคาแนะนำฟองละ 2.80 บาท และเบอร์ 0 ราคา 3.80 บาท ราคาแนะนำ 3.00 บาท
ก่อนหน้านี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ปรับขึ้นราคาไข่คละหน้าฟาร์มจากฟองละ 2.20 บาทเป็น 2.60 บาท แต่นายบุญทรงได้สั่งห้ามปรับขึ้นราคา และหาทางช่วยเหลือต้นทุนโดยมอบหมายให้อคส.จัดหาอาหารสัตว์ราคาถูกให้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนผู้เลี้ยงต้องปรับขึ้นราคาไข่ไก่สูงเกินกว่าราคาแนะนำที่กำหนด
สำหรับการตรวจสอบราคาอาหารสำเร็จรูปตามตลาดสดและร้านอาหารทั่วไป พบว่า ส่วนใหญ่ราคาขายเริ่มต้นที่เมนูละ 30-35 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนด 5-10 บาท และส่วนใหญ่ยืนยันว่าจะไม่ปรับลดราคา และเข้าร่วมเป็นร้านอาหารธงฟ้า โดยอ้างในเรื่องต้นทุนอื่นๆ ที่สูงขึ้น ทั้งค่าเช่าพื้นที่ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่สูงขึ้น เช่น ค่าภาชนะ ค่าแรงงาน
ส่วนราคาเนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อหมู เนื้อวัว และไก่เนื้อ ก็มีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้น หลังเข้าสู่หน้าร้อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ควรจะเข้ามาดูแลในส่วนนี้ด้วย ไม่ใช่แค่ทำรายละเอียดต้นทุนเฉพาะแค่วัตถุดิบออกมา