ASTVผู้จัดการรายวัน – “ซัมซุง” ปรับเกมรุกกลุ่มบีทูบี ปรับโครงสร้างใหม่ รวบสินค้าทุกกลุ่มไว้ด้วยกัน หวังบริการต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ชิงเม็ดเงินตลาดรวม 32,000 ล้านบาท
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะให้ธุรกิจในกลุ่มบีทูบี (Business to Businesssin หรือบีทูบี) หรือลูกค้าองค์กร เติบโตได้มากขึ้นในอนาคต เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดจริงจัง เพราะศักยภาพของลูกค้าองค์กรมีโอกาสเติบโตได้มากในอนาคต และมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท เติบโต 10% ทุกปี
ทั้งนี้บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กรใหม่ โดยนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ในเครือทุกกลุ่มมารวมไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสินค้าไอที เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มให้แก่ลูกค้าองค์กรแบบครบวงจร และมีความต่อเนื่องมากขึ้น เช่น กรณีที่บริษัท อาจจะขายอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าในสำนักงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น ก็อาจจะทำโปรโมชั่นขายโทรศัพท์มือถือให้แก่พนักงานในบริษัทนั้นด้วย เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมมากที่สุด
ส่วนพนักงานในองค์กรที่อยู่ในกลุ่ม บีทูบี จะมีจำนวนมากกว่า 40 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีจำนวน 35 คน ส่วนการบริการ จะมีทั้งทีมเทคนิคอล ซัพพอร์ท เพื่อให้บริการธุรกิจแก้ปัญหา บริการคอลเซ็นเตอร์ให้แก่ลูกค้าองค์กร และจะเพิ่มศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
โดยกลุ่มลูกค้าองค์กร 8 กลุ่มที่จะเน้นขยายตลาดจากนี้คือ ธนาคาร สถาบันการเงิน และประกันภัย, โรงพยาบาลและร้านค้าปลีก, หน่วยงานราชการ, สถาบันการศึกษา และองค์กร, ธุรกิจโทรคมนาคมและยานยนต์, ธุรกิจแฟชั่น บันเทิง ร้านอาหาร, โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์
ส่วนแผนการตลาด จะใช้งบในสัดส่วน 10% เพื่อรุกทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้าองค์กรอย่างต่อเนื่อง วางเป้าหมายในอนาคต ซัมซุง จะต้องขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจ บีทูบี ของไทย ขณะที่ ยอดขายของบริษัท ในกลุ่มธุรกิจ บีทูบี ในปีก่อน เติบโต 50% เป็นผลมาจาก บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในปีก่อน และกลุ่มลูกค้าหลักมาจาก โรงแรม รองลงมาเป็น อสังหาริมทรัพย์
นายบุญเลิศกล่าวว่า การขยายธุรกิจลูกค้าองค์กรมากขึ้น จะทำให้รายได้ของบริษัทจากกลุ่ม ธุรกิจบีทูบี เติบโต 30-35% และตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปีจากนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจ บีทูบี จะมีสัดส่วน 10% เมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งบริษัท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ที่มีสัดส่วนประมาณ 6%
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะให้ธุรกิจในกลุ่มบีทูบี (Business to Businesssin หรือบีทูบี) หรือลูกค้าองค์กร เติบโตได้มากขึ้นในอนาคต เพราะมองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดจริงจัง เพราะศักยภาพของลูกค้าองค์กรมีโอกาสเติบโตได้มากในอนาคต และมีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท เติบโต 10% ทุกปี
ทั้งนี้บริษัทฯได้ปรับโครงสร้างกลุ่มลูกค้าธุรกิจองค์กรใหม่ โดยนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ในเครือทุกกลุ่มมารวมไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ภาพและเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และสินค้าไอที เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มให้แก่ลูกค้าองค์กรแบบครบวงจร และมีความต่อเนื่องมากขึ้น เช่น กรณีที่บริษัท อาจจะขายอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าในสำนักงานให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น ก็อาจจะทำโปรโมชั่นขายโทรศัพท์มือถือให้แก่พนักงานในบริษัทนั้นด้วย เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมมากที่สุด
ส่วนพนักงานในองค์กรที่อยู่ในกลุ่ม บีทูบี จะมีจำนวนมากกว่า 40 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ที่มีจำนวน 35 คน ส่วนการบริการ จะมีทั้งทีมเทคนิคอล ซัพพอร์ท เพื่อให้บริการธุรกิจแก้ปัญหา บริการคอลเซ็นเตอร์ให้แก่ลูกค้าองค์กร และจะเพิ่มศูนย์บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
โดยกลุ่มลูกค้าองค์กร 8 กลุ่มที่จะเน้นขยายตลาดจากนี้คือ ธนาคาร สถาบันการเงิน และประกันภัย, โรงพยาบาลและร้านค้าปลีก, หน่วยงานราชการ, สถาบันการศึกษา และองค์กร, ธุรกิจโทรคมนาคมและยานยนต์, ธุรกิจแฟชั่น บันเทิง ร้านอาหาร, โรงแรม และอสังหาริมทรัพย์
ส่วนแผนการตลาด จะใช้งบในสัดส่วน 10% เพื่อรุกทำกิจกรรมร่วมกับลูกค้าองค์กรอย่างต่อเนื่อง วางเป้าหมายในอนาคต ซัมซุง จะต้องขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจ บีทูบี ของไทย ขณะที่ ยอดขายของบริษัท ในกลุ่มธุรกิจ บีทูบี ในปีก่อน เติบโต 50% เป็นผลมาจาก บริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ในปีก่อน และกลุ่มลูกค้าหลักมาจาก โรงแรม รองลงมาเป็น อสังหาริมทรัพย์
นายบุญเลิศกล่าวว่า การขยายธุรกิจลูกค้าองค์กรมากขึ้น จะทำให้รายได้ของบริษัทจากกลุ่ม ธุรกิจบีทูบี เติบโต 30-35% และตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปีจากนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจ บีทูบี จะมีสัดส่วน 10% เมื่อเทียบกับรายได้รวมทั้งบริษัท เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ที่มีสัดส่วนประมาณ 6%