xs
xsm
sm
md
lg

"พาณิชย์"บุกงานไบโอแฟค นำข้าวอินทรีย์โปรโมตขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”บุกงานไบโอแฟค นำข้าวอินทรีย์และข้าวหอมมะลิอินทรีย์โปรโมต หวังเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้สูงและใส่ใจในสุขภาพ
นางปราณี ศิริพันธ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 13-20 ก.พ.2555 กรมฯและผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ จะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารและเกษตรอินทรีย์นานาชาติ (Biofach) ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานที่มีผู้ประกอบการจากทั่วโลกกว่า 2,500 รายร่วมงาน และผู้เข้าชมงานกว่า 44,000 ราย เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมประชาสัมพันธ์ข้าวอินทรีย์และข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และกระตุ้นความต้องการบริโภคในตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ให้เพิ่มมากขึ้น หลังจากเล็งเห็นว่าตลาดอียู เป็นตลาดที่ใส่ใจในด้านสุขภาพ รักษาสิ่งแวดล้อมและป้องกันโลกร้อน ข้าวอินทรีย์และข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทย จึงมีโอกาสในการขยายตลาดได้เพิ่มขึ้น
“ในปี 2554 ที่ผ่านมา อียูนำเข้าข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากไทยประมาณ 3,200 ตัน คิดเป็น 67% ของการส่งออกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทยทั้งหมด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีผู้บริโภคชาวยุโรปและผู้บริโภคเชื้อสายเอเชียในยุโรป ที่บริโภคข้าวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เพราะคนเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ จึงเป็นโอกาสของข้าวไทย ที่จะขายเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีรายได้เหล่านี้”นางปราณีกล่าว
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน ตลาดอียูเป็นตลาดที่นำเข้าข้าวไทยอยู่แล้ว แต่สำหรับตลาดข้าวอินทรีย์และข้าวหอมมะลิอินทรีย์ถือเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในเยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส เดนมาร์ค และเบลเยี่ยม ซึ่งกรมฯ จะเร่งส่งเสริมให้มีการสั่งซื้อเพิ่มขึ้น เพราะเป็นตลาดที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง และคำนึงในด้านสุขภาพอนามัยในระดับสูง โดยข้าวอินทรีย์มีประโยชน์ ปลอดภัยต่อสุขภาพมนุษย์ และยังช่วยปรับสมดุลของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และช่วยลดภาวะโลกร้อน
ขณะนี้การผลิตข้าวอินทรีย์ของไทย มีการพัฒนาและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ส่วนข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทยก็มีคุณลักษณะพิเศษที่นอกจากจะมีความโดดเด่นในเรื่องความหอมและความอ่อนนุ่มแล้ว ยังเป็นข้าวที่ผลิตโดยไม่มีสารเคมีเจือปน จึงมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดต่างๆ ได้ทุกภูมิภาค และไทยเองยังมีข้าวคุณลักษณะพิเศษและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกจำนวนมาก เช่น ข้าวไรซ์เบอรี่ และข้าวสินเหล็ก เป็นต้น รวมถึงข้าวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เช่น ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวฮางหอมสกลทวาปี เป็นต้น
สำหรับช่องทางการจำหน่ายข้าวอินทรีย์ยังจำกัดเฉพาะในตลาด Niche Market ทำให้ราคาจำหน่ายข้าวอินทรีย์สูงกว่าปกติมากประมาณ 1-2 เท่า แต่ความต้องการของตลาดที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวจะมีประมาณ 10-15% ต่อปี
กำลังโหลดความคิดเห็น