ASTVผู้จัดการรายวัน-"อุตฯ" เตรียมเสนอครม.กันพื้นที่แหล่งหินน้ำมันแม่สอด จ.ตากไว้เป็นสำรองพลังงานชาติในอนาคตและศึกษาต่อยอดด้านอื่น หลังกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและกฟผ.ศึกษาแล้วไม่คุ้มทุนที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำมันและเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าจึงเตรียมขอคืนพื้นที่
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อยู่ระหว่างการประสานกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการขอกันพื้นที่พัฒนาแหล่งหินน้ำมัน (Oil Shale) พื้นที่ประมาณ 65,000 ไร่หรือ 104 ตารางกิโลเมตร บริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตากไว้เพื่อทำการศึกษาต่อยอดในการนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ พร้อมกับรักษาพื้นที่ไว้ให้เป็นแหล่งสำรองพลังงานในอนาคตของประเทศ
“กำลังพิจารณาร่วมกันอยู่ว่าจะขอคืนมาแล้วกันพื้นที่ไว้ศึกษาให้กว้างขึ้น เพราะอาจจะใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรมได้ และรวมถึงกันไว้เพื่อป้องกันการพัฒนาประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบให้พื้นที่ดังกล่าวถูกใช้ไปในทางอื่นๆ เช่น การก่อสร้างอาคาร โรงงาน ซึ่งเมื่ออนาคตหินน้ำมันมีประโยชน์และคุ้มค่าจะลงทุนก็จะไม่สามารถนำมาพัฒนาได้ เช่น แร่หลายชนิดที่เกิดขึ้นกับไทยที่อดีตไร้ค่า แต่นานไปกลับมีค่า แต่ไทยกลับนำมาพัฒนาไม่ได้ เพราะถูกสิ่งปลูกสร้างทับพื้นที่ไปหมดแล้ว”แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับการพัฒนาแหล่งหินน้ำมันดังกล่าวเป็นไปตามความร่วมมือระหว่างกพร. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมติครม. 11 ธ.ค.2550 อนุมัติให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและกฟผ.เป็นผู้ศึกษา สำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาแหล่งหินน้ำมันเป็นเวลา 4 ปีนับตั้งแต่ครม.อนุมัติ
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ตามมติครม.ที่ให้เข้าไปศึกษา ขณะนี้ครบกำหนดตั้งแต่ธ.ค.2554 แล้ว ซึ่งผลการศึกษายอมรับว่าไม่คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ที่จะนำมาผลิตน้ำมันหรือเชื้อเพลิงหรือการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น ขณะนี้จึงร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการขอยุติ และจะนำเสนอครม.ขอคืนพื้นที่ดังกล่าวไปยังกพร.
“เรากำลังทำเรื่องอยู่ โดยส่วนของเรา ก็จะขอยุติการศึกษาแหล่งหินน้ำมันที่จะไปกลั่นน้ำมันหรือใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเพราะไม่คุ้มทุน แต่ในแง่ของการใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม เราเองไม่เชี่ยวชาญ จึงจะส่งต่อให้กพร. ขอกันพื้นที่นี้ไปศึกษาต่อ”นายทรงภพกล่าว
สำหรับผลศึกษาด้านการทำเหมืองหินน้ำมัน โดยวิธีเหมืองเปิด ซึ่งเป็นวิธีคล้ายเหมืองถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พบว่าหินน้ำมันทั้ง 2 ชั้น มีค่าความร้อนเฉลี่ย 957 กิโลแคลอรี/กิโลกรัม มีปริมาณสำรอง 32 ล้านตัน หากกำหนดอายุเหมือง 30 ปี ผลิตหินน้ำมันปีละ 1.08 ล้านตัน คำนวณต้นทุนการผลิตหินน้ำมันที่อัตรา 1,270.18 บาท/ตัน
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) อยู่ระหว่างการประสานกับกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการขอกันพื้นที่พัฒนาแหล่งหินน้ำมัน (Oil Shale) พื้นที่ประมาณ 65,000 ไร่หรือ 104 ตารางกิโลเมตร บริเวณอำเภอแม่สอด จังหวัดตากไว้เพื่อทำการศึกษาต่อยอดในการนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ พร้อมกับรักษาพื้นที่ไว้ให้เป็นแหล่งสำรองพลังงานในอนาคตของประเทศ
“กำลังพิจารณาร่วมกันอยู่ว่าจะขอคืนมาแล้วกันพื้นที่ไว้ศึกษาให้กว้างขึ้น เพราะอาจจะใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรมได้ และรวมถึงกันไว้เพื่อป้องกันการพัฒนาประเทศที่อาจจะส่งผลกระทบให้พื้นที่ดังกล่าวถูกใช้ไปในทางอื่นๆ เช่น การก่อสร้างอาคาร โรงงาน ซึ่งเมื่ออนาคตหินน้ำมันมีประโยชน์และคุ้มค่าจะลงทุนก็จะไม่สามารถนำมาพัฒนาได้ เช่น แร่หลายชนิดที่เกิดขึ้นกับไทยที่อดีตไร้ค่า แต่นานไปกลับมีค่า แต่ไทยกลับนำมาพัฒนาไม่ได้ เพราะถูกสิ่งปลูกสร้างทับพื้นที่ไปหมดแล้ว”แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับการพัฒนาแหล่งหินน้ำมันดังกล่าวเป็นไปตามความร่วมมือระหว่างกพร. กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมติครม. 11 ธ.ค.2550 อนุมัติให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและกฟผ.เป็นผู้ศึกษา สำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาแหล่งหินน้ำมันเป็นเวลา 4 ปีนับตั้งแต่ครม.อนุมัติ
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ตามมติครม.ที่ให้เข้าไปศึกษา ขณะนี้ครบกำหนดตั้งแต่ธ.ค.2554 แล้ว ซึ่งผลการศึกษายอมรับว่าไม่คุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ที่จะนำมาผลิตน้ำมันหรือเชื้อเพลิงหรือการผลิตไฟฟ้า ดังนั้น ขณะนี้จึงร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการขอยุติ และจะนำเสนอครม.ขอคืนพื้นที่ดังกล่าวไปยังกพร.
“เรากำลังทำเรื่องอยู่ โดยส่วนของเรา ก็จะขอยุติการศึกษาแหล่งหินน้ำมันที่จะไปกลั่นน้ำมันหรือใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเพราะไม่คุ้มทุน แต่ในแง่ของการใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรม เราเองไม่เชี่ยวชาญ จึงจะส่งต่อให้กพร. ขอกันพื้นที่นี้ไปศึกษาต่อ”นายทรงภพกล่าว
สำหรับผลศึกษาด้านการทำเหมืองหินน้ำมัน โดยวิธีเหมืองเปิด ซึ่งเป็นวิธีคล้ายเหมืองถ่านหินแม่เมาะ จังหวัดลำปาง พบว่าหินน้ำมันทั้ง 2 ชั้น มีค่าความร้อนเฉลี่ย 957 กิโลแคลอรี/กิโลกรัม มีปริมาณสำรอง 32 ล้านตัน หากกำหนดอายุเหมือง 30 ปี ผลิตหินน้ำมันปีละ 1.08 ล้านตัน คำนวณต้นทุนการผลิตหินน้ำมันที่อัตรา 1,270.18 บาท/ตัน