ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผู้ว่าฯอุดรธานี คนเก่าสุดแสบ ในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ลงนามทิ้งทวนให้ประกาศเขตพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตซ อุดรฯ เพียง 1 วันก่อนย้าย ไปเป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี กลุ่มอนุรักษ์ฯ ไม่หวั่นตั้งโต๊ะล่ารายชื่อค้านยกหมู่บ้าน โวยรายชื่อหายอื้อ โฉนดไม่ตรงตามข้อเท็จจริงหลายราย พบพิรุธอบต.ในท้องที่ยังไม่ปิดประกาศ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี นำโดย นางมณี บุญรอด พร้อมด้วยสมาชิกกว่า 10 คนนำเอกสารการปิดประกาศเขตพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตซ จ.อุดรธานี และแบบฟอร์มการคัดค้านมาตั้งโต๊ะให้ชาวบ้านโนนสมบูรณ์และหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินร่วมลงชื่อคัดค้านการประกาศ ที่ศาลากลางบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ที่ 12 ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี โดยวันแรกมีผู้มาร่วมลงชื่อมากกว่า 400 ราย
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน ได้มีการปิดประกาศเขตเหมือง ณ ที่ทำการกำนันตำบลห้วยสามพาด และตำบลนาม่วง หลังจากที่มีการปิดประกาศไปแล้ว ณ ที่ว่าการอำเภอประจักษ์ศิลปาคม เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.เพื่อให้ผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้โต้แย้งภายใน 20 วัน ตามมาตรา 49 ใน พ.ร.บ.แร่ 2510 แต่อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการปิดประกาศ ณ ที่ทำการ อบต.
ทั้งนี้ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น.ชาวบ้านได้มารอกันอย่างเนืองแน่นที่ศาลากลางบ้านเพื่อจะดูเอกสารการปิดประกาศเขตเหมือง พร้อมนำหลักฐาน เอกสาร เช่น บัตรประชาชน โฉนดที่ดินเพื่อมาตรวจเช็กเปรียบเทียบ และกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการคัดค้าน แต่ก็เกิดความโกลาหลตามมาเมื่อชาวบ้านหลาย 10 รายได้ทักท้วงว่าชื่อของตนตกหล่น ข้อมูลตรงตามเอกสาร และบางรายก็ถูกรายชื่อคนอื่นซ้อนทับในที่ดินแปลงของตน
โดย นางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ต.ห้วยสามพาด กล่าวว่า กลุ่มอนุรักษ์ฯ พบว่า มีข้อผิดพลาดอยู่หลายประการ ในการปิดประกาศเขตเหมืองแร่โปแตชอุดร ซึ่งกลุ่มฯก็กำลังรวบรวมประเด็น เพื่อทำการคัดค้าน โดยจะใช้วิธีการเดินสายให้ข้อมูลกับพี่น้องในพื้นที่และถ้าหากใครที่เห็นด้วยกับเราก็ให้มาตรวจเช็คดูเอกสารและร่วมลงชื่อคัดค้านได้
“ประกาศนี้ผู้ว่าฯคนเก่าได้เซ็นเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.แล้วก็เผ่นไปเป็นผู้ว่าฯชลบุรี ซึ่งได้สร้างภาระ ปัญหาให้กับชาวบ้านในเขตเหมืองบนเนื้อที่กว่า 2.6 หมื่นไร่ ให้ต้องลุกขึ้นมาคัดค้านเอาเอง แต่ทั้งนี้ พวกเราก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าคนอุดรฯไม่ต้องการเหมือง และจะทำการคัดค้านในทุกขั้นตอนจนถึงที่สุด” นางมณีกล่าว
ด้าน นายวรากร บำรุงชีพโชต หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า เอกสารการปิดประกาศเขตเหมืองแร่โปแตซอุดร จากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้ถูกส่งมาถึงสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด เมื่อวันที่ 17 พ.ย.หลังจากนั้น ตนก็ทำการตรวจสอบก่อนจะนำเรียนให้ผู้ว่าราชการ ในฐานะเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ลงนามปิดประกาศ
“เมื่อผู้ว่าฯ ลงนามแล้วก็เป็นหน้าที่ของตนที่จะปิดประกาศและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป”
นายวรากร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า พื้นที่เหมืองแร่โปแตซตามที่ประกาศนั้น ครอบคลุม 5 ตำบล ภายใน 2 อำเภอ คือ อ.เมือง และ อ.ประจักษ์ฯ ซึ่งตนได้ส่งเอกสารการปิดประกาศไปให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
ในส่วนของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ตนได้นำเอกสารไปส่งให้เองกับมือ ทั้งนี้ หากมีการค้านตนก็จะคอยทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและนำเอกสารส่งกรมฯ ต่อไป โดยหน้าที่ของส่วนราชการก็จะจบเพียงเท่านี้ เพราะถ้ามีการค้าน กระบวนการประทานบัตรก็เดินหน้าไม่ได้ จนกว่าบริษัทกับชาวบ้านเคลียร์กันได้