ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -หมอกควันคลุ้งเหนือแม่สอด-เมียวดี พบป่า 5 อำเภอชายแดนเกิดไฟป่าหลายจุด ส่วนที่เชียงใหม่เดือน ม.ค.คุณภาพอากาศปานกลาง ส่วนไฟป่า-Hotspot พบ อ.ฮอด ตัวเลขพุ่งเหตุชาวบ้านเผาป่าหาผักหวาน-เห็ดถอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1 ก.พ.) ได้เกิดปัญหาหมอกควันเป็นบริเวณกว้าง ทั้งอ.แม่สอด จ.ตาก และจ.เมียวดี ประเทศพม่า เนื่องมาจากการเผาป่าทำไร่และมีบางส่วนต้องการทำไร่เลื่อนลอย มีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อเผาประกอบกับปัญหาภัยแล้ง และมีการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นจนป่าไม้แห้งและเกิดการลุกไหม้ได้ง่าย
ทั้งนี้ สถานีควบคุมไฟป่าแม่สอดจได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจทางอากาศ พบป่าไม้ทั้งในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตป่าไม้อื่นๆ ด้าน 5 อำเภอชายแดน เช่น แม่สอด พบพระ อุ้มผาง แม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง รวมถึงชายแดนที่ติดต่อกับพม่า มี HOT SPOT ให้เห็นหลายแห่งแล้ว สถานีควบคุมไฟป่าแม่สอดจึงต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในการช่วยป้องกัน ควบคุมและประชาสัมพันธ์ถึงผลเสียหายและผลกระทบจากการเกิดไฟป่า
นายอุดมศักดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด กล่าวว่า ขณะนี้ได้เกิดมีหมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณอ.แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง ส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศและมลพิษอย่างมาก จึงต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าจุดไฟเผาป่า เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นจะมากระทบต่อเราโดยตรง ทั้งระบบทางเดินหายใจและการเดินทางสัญจรไปมาเนื่องจากจะมีหมอกควันไฟ จึงต้องเพิ่มความระมัดระวัง
อ.ฮอด ของเชียงใหม่ยอดเผาป่าพุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส่วนสภาพอากาศในตัวเมืองเชียงใหม่ วานนี้(1 ก.พ.)มีฟ้าหลัวเกือบตลอดทั้งวัน ทำให้การมองเห็นในระยะไกลไม่ชัดเจนเหมือนปกติ เนื่องจากฝุ่นและควันที่ปกคลุมทั่ว
อย่างไรก็ตาม ข้อรายงานมูลคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ที่ตั้งอยู่ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 15.00 น.ระบุว่า ค่าดัชนีคุณภาพอากาศวัดได้ 67 โดยตามค่ามาตรฐานนั้น คุณภาพอากาศที่ดีจะต้องวัดค่าดังกล่าวได้ไม่เกิน 100
ด้านนายประหยัด อนันต์ประดิษฐ์ หัวหน้ากลุ่มงานสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าของ จ.เชียงใหม่ ช่วงระหว่างวันที่ 1-30 ม.ค.2555 ว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในช่วงดังกล่าว พบค่าสูงสุดจากการตรวจวัดที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 9 ม.ค.โดยมีค่า PM10 หรือฝุ่นขนาดเล็กที่มีอนุภาคเล็กกว่า 10 ไมครอน อยู่ที่ 58.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศที่ 89 ส่วนค่าต่ำสุดพบจากการตรวจวัดที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วันที่ 4 ม.ค.โดยมีค่า PM10 อยู่ที่ 26.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศที่ 46
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากมาตรฐานค่า PM10 ที่มีค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าดัชนีคุณภาพอากาศซึ่งไม่ควรเกิน 100 แล้ว ถือว่าคุณภาพอากาศโดยรวมของ จ.เชียงใหม่อยู่ในระดับปานกลาง
ส่วนสถานการณ์ไฟป่า พบว่า มีสถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟป่า ตั้งแต่วันที่ 1-29 ม.ค.รวมทั้งสิ้น 44 ครั้ง โดย ต.หางดง อ.ฮอด เป็นจุดที่มีสถิติการเกิดไฟป่ามากที่สุด รวม 18 ครั้ง มีพื้นที่ได้รับความเสียหายรวม 115 ไร่ ส่วนจำนวนการเกิด Hotspot ในช่วงเวลาเดียวกันมีจำนวนทั้งสิ้น 66 จุด โดย อ.ฮอดเป็นพื้นที่ที่เกิดจุด Hotspot มากที่สุด ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาในพื้นที่ เนื่องจากประชาชนเชื่อว่าจะทำให้ผักหวานงอกงามขึ้นเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงเห็ดเผาะหรือเห็ดถอบด้วย