ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ยันหมอกควันและไฟป่าเหนือฟ้าเชียงใหม่ยังไม่วิกฤต คุณภาพอากาศยังไม่ทะลุเพดาน แต่มีไฟป่าแล้วตลอดเดือน พื้นที่ป่าเสียหาย 130 ไร่ หนักสุดอยู่ในเขตอำเภอฮอด รองผู้ว่าฯ ย้ำทุกหน่วยช่วยเร่งมือรณรงค์ร่วมแก้ปัญหา หวั่นกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวที่กำลังคึกคัก
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด และตัวแทน 25 อำเภอของเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ผลการแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ผ่าน VDO Conference ณ ห้อง POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานนั้น
พบว่า ระหว่างวันที่ 1-24 ม.ค.55 ค่าฝุ่นละอองในเชียงใหม่ยังไม่เกินมาตรฐาน โดยสภาพอากาศที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 9 ม.ค. มีค่า PM10 (ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง) สูงสุด 58.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เมื่อ 4 ม.ค.มีค่าต่ำสุด 26.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
สถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟ มีจำนวน 22 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่ารวม 130 ไร่ เกิดขึ้นสูงสุดที่บริเวณตำบลหางดง อำเภอฮอด จำนวน 13 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 76 ไร่ จำนวน Hotspot เกิดขึ้น 41 ครั้ง เกิดขึ้นสูงสุดเมื่อ 22 ม.ค.55 จำนวน 9 จุด ในพื้นที่ อำเภอฮอด 4 จุด ดอยเต่า แม่ออน อำเภอละ 2 จุด และอมก๋อย 1 จุด
สำหรับแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและประชาชน ในการควบคุมการเผาในที่โล่ง งดการเผาขยะ กิ่งไม้ใบไม้ ตอซังฟางข้าว และเศษวัสดุเหลือใช้ภาคการเกษตรอื่นๆ รวมถึงการล้างถนน การฉีดน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อลดฝุ่นละอองในเขตเมือง การดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ รถยนต์ อย่างเคร่งครัด ในส่วนของสถาบันการศึกษาได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักในการป้องกันปัญหาหมอกควัน ไฟป่าผ่านนิสิต นักศึกษา เพื่อเป็นเครือข่ายไปประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกในครอบครัว รวมถึงประชาชนในชุมชนตนเองเกิดความตระหนักและร่วมกันป้องกันปัญหา
ทั้งนี้ ผู้แทนสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ทุกสถาบันได้ร่วมประชุมเพื่อร่วมหาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาด้วย แจ้งว่า ได้มีการเผยแพร่องค์ความรู้ในการกำจัดขยะโดยงดเว้นการเผา และเพิ่มมูลค่าของขยะในพื้นที่ชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้สถาบันการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของตัวแทนทุกอำเภอได้รายงานสภาพอากาศและปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ว่ายังคงมีสภาพอากาศดี ไม่มีปัญหาหมอกควันไฟป่าแต่อย่างใด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดให้มีการประชุมผ่านระบบ VDO Conference ระหว่างหน่วยงานระดับจังหวัดและ 25 อำเภอทุกวันพุธ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและหาแนวทางป้องกันปัญหาร่วมกัน
นอกจากนั้น ได้ประชาสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ที่ประชาชนที่พบเห็นการเกิดเหตุไฟป่าสามารถแจ้งเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าไประงับเหตุไฟป่าได้อย่างทันท่วงที ลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น โดยสามารถแจ้งเหตุได้ที่ สถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ โทร.0-5323-2019 ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ โทร. 08-1980-6412 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) โทร. 0-5327-1610 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 โทร. 0-5323-2019 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0-5311-2725-6 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โทร.0-5340-9345
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังย้ำอีกว่า ในขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของทัศนียภาพจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงร่วมชมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2554 จำนวนมาก ขณะนี้มียอดผู้มาร่วมชมงานแล้วกว่า 1 ล้านคน
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการร่วมกันป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของการท่องเที่ยวและทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจจังหวัดเชียงใหม่ตลอดไป
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับจังหวัด และตัวแทน 25 อำเภอของเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ผลการแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่า ผ่าน VDO Conference ณ ห้อง POC ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานนั้น
พบว่า ระหว่างวันที่ 1-24 ม.ค.55 ค่าฝุ่นละอองในเชียงใหม่ยังไม่เกินมาตรฐาน โดยสภาพอากาศที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 9 ม.ค. มีค่า PM10 (ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง) สูงสุด 58.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย เมื่อ 4 ม.ค.มีค่าต่ำสุด 26.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
สถิติรับแจ้งเหตุและปฏิบัติการดับไฟ มีจำนวน 22 ครั้ง พื้นที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่ารวม 130 ไร่ เกิดขึ้นสูงสุดที่บริเวณตำบลหางดง อำเภอฮอด จำนวน 13 ครั้ง พื้นที่เสียหาย 76 ไร่ จำนวน Hotspot เกิดขึ้น 41 ครั้ง เกิดขึ้นสูงสุดเมื่อ 22 ม.ค.55 จำนวน 9 จุด ในพื้นที่ อำเภอฮอด 4 จุด ดอยเต่า แม่ออน อำเภอละ 2 จุด และอมก๋อย 1 จุด
สำหรับแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหา ได้ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและประชาชน ในการควบคุมการเผาในที่โล่ง งดการเผาขยะ กิ่งไม้ใบไม้ ตอซังฟางข้าว และเศษวัสดุเหลือใช้ภาคการเกษตรอื่นๆ รวมถึงการล้างถนน การฉีดน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อลดฝุ่นละอองในเขตเมือง การดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์ รถยนต์ อย่างเคร่งครัด ในส่วนของสถาบันการศึกษาได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักในการป้องกันปัญหาหมอกควัน ไฟป่าผ่านนิสิต นักศึกษา เพื่อเป็นเครือข่ายไปประชาสัมพันธ์ให้สมาชิกในครอบครัว รวมถึงประชาชนในชุมชนตนเองเกิดความตระหนักและร่วมกันป้องกันปัญหา
ทั้งนี้ ผู้แทนสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ทุกสถาบันได้ร่วมประชุมเพื่อร่วมหาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาด้วย แจ้งว่า ได้มีการเผยแพร่องค์ความรู้ในการกำจัดขยะโดยงดเว้นการเผา และเพิ่มมูลค่าของขยะในพื้นที่ชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้สถาบันการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของตัวแทนทุกอำเภอได้รายงานสภาพอากาศและปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ว่ายังคงมีสภาพอากาศดี ไม่มีปัญหาหมอกควันไฟป่าแต่อย่างใด
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดให้มีการประชุมผ่านระบบ VDO Conference ระหว่างหน่วยงานระดับจังหวัดและ 25 อำเภอทุกวันพุธ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานและหาแนวทางป้องกันปัญหาร่วมกัน
นอกจากนั้น ได้ประชาสัมพันธ์หมายเลขโทรศัพท์ที่ประชาชนที่พบเห็นการเกิดเหตุไฟป่าสามารถแจ้งเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าไประงับเหตุไฟป่าได้อย่างทันท่วงที ลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น โดยสามารถแจ้งเหตุได้ที่ สถานีควบคุมไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ โทร.0-5323-2019 ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคเหนือ โทร. 08-1980-6412 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) โทร. 0-5327-1610 สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 โทร. 0-5323-2019 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0-5311-2725-6 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยจังหวัดเชียงใหม่ โทร.0-5340-9345
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ยังย้ำอีกว่า ในขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของทัศนียภาพจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงร่วมชมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ 2554 จำนวนมาก ขณะนี้มียอดผู้มาร่วมชมงานแล้วกว่า 1 ล้านคน
ดังนั้น จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการร่วมกันป้องกันปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของการท่องเที่ยวและทำให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจจังหวัดเชียงใหม่ตลอดไป