ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กรมควบคุมมลพิษประกาศเตือนสถานการณ์หมอกควันหลายจังหวัดภาคเหนือตอนบนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว หลังตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก-ดัชนีคุณภาพอากาศพุ่งเกินค่ามาตรฐาน จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องและประชาชนงดเผา เพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหา ขณะที่ เชียงใหม่อ่วมเตือนประชาชนงดกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ส่วนสัปดาห์หน้าเตรียมระดมฉีดพ่นน้ำพร้อมกันทั้ง 25 อำเภอเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(18 ก.พ. 2555) กรมควบคุมมลพิษได้ออกประกาศสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ วันที่ 18 ก.พ. 2555 ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ (http://aqnis.pcd.go.th)โดยระบุว่า จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 18 ก.พ. 2555 พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 68.4 - 208.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ สถานีส่วนใหญ่พบฝุ่นละอองสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลดและควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะการงดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่าและไฟป่ารวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตรและกิ่งไม้ใบหญ้า เป็นต้น เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
สำหรับสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่าวันนี้(18 ก.พ. 2555) ยังคงมีแนวโน้มที่จะรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติสูงสุดในช่วงเช้าวันนี้ พบว่าเมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10ได้ 180.62 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 126 ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าPM10 ได้ 165.26 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 120
ขณะที่ผลการตรวจวัดล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น.ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10ได้ 176.11 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 124 ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าPM10 ได้ 161.50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 118 ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวพบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM10 ของจังหวัดเชียงใหม่เกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่ค่าดัชนีคุณภาพอากาศเกินค่ามาตรฐานมาร่วมสัปดาห์แล้ว
ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่กำลังประสบอยู่ในเวลานี้ สาเหตุมาจากฟ้าหลัว และลมสงบไม่พัดผ่านเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่มีภูเขาล้อมรอบเหมือนแอ่งกระทะ ทำให้หมอกควันตกค้างสะสมอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่แอ่งเชียงใหม่-ลำพูน จนกระทั่งค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ
ทั้งนี้ผลจากการที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 และดัชนีคุณภาพอากาศสูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแล้วนั้น นายคมสัน กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคระบบทางเดินหายใจ หญิงตั้งครรภ์ คนแก่ และเด็ก ให้หลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกบ้านหรืออาคาร ส่วนคนปกติหากต้องออกทำกิจกรรมนอกบ้านควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน และควรงดการออกกำลังกายชั่วคราวในช่วงที่มีปัญหานี้
นอกจากหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นอย่างมาก โดยได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ลงไปถึงระดับหมู่บ้านตำบลทุกแห่งด้วย ให้ช่วยกันควบคุมดูแลป้องกันไม่ให้มีการเผาทุกชนิดเพราะเป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหา ซึ่งในวันที่ 22 ก.พ. 2555 นี้จะมีการเรียกประชุมนายอำเภอทุกอำเภออีกครั้งเพื่อกำชับในเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน นายคมสัน เผยว่า ในวันที่ 24 ก.พ. 2555 ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดให้ทั้ง 25 อำเภอ จัดกิจกรรมเพิ่มความชื้นในอากาศขึ้นพร้อมกัน ด้วยการจัดรถบรรทุกน้ำออกฉีดพ่นในพื้นที่ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันฉีดรดน้ำในพื้นที่บ้านและที่อยู่อาศัยของตัวเอง เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ และบรรเทาความรุนแรงของปัญหาหมอกควันลงอีกทางหนึ่ง ส่วนเรื่องการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น จะต้องมีการติดตามสถานการณ์และประเมินความรุนแรงของปัญหาอีกครั้งหนึ่ง