ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - วิกฤตควันพิษภาคเหนือเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ฝุ่นละอองขนาดเล็กเหนือฟ้าลำปาง-แม่เมาะ ทะลุเกิน 200 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เมตรแล้ว ขณะที่เมืองแพร่-ลำพูน-พะเยา ตามมาติดๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คุณภาพอากาศหลายจังหวัดภาคเหนือ วิกฤตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง จนถึงเช้าวันนี้(17 ก.พ.) มีค่าระหว่าง 83.4-235.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ขณะที่ค่ามาตรฐานไม่เกิน 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ไปจนถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน อีกทั้งปริมาณฝุ่นละออง ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเกือบทุกสถานีวัด
โดยเฉพาะที่จังหวัดลำปาง บริเวณสถานีวัดศาลหลักเมืองลำปาง เป็นจุดที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงที่สุดในประเทศ ถึง 235.53 ไมโครกรัม/ลบ.ม., โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสบป้าด 211.30 ไมโครกรัม/ลบ.ม., รพ.สต.ท่าสี 181.75 ไมโครกรัม/ลบ.ม.และ สนง.กปภ.แม่เมาะ 192.33 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
รองลงมาคือ ที่จังหวัดแพร่ บริเวณสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.แพร่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก ได้สูงถึง 218.08 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ส่วนที่สนามกีฬา อบจ.ลำพูน ก็มีปริมาณฝุ่นละออง มากถึง 194.17 ไมโครกรัม/ลบ.ม.ขณะที่อุทยานการเรียนรู้กว๊านพะเยา วัดได้ 121.46 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
สำหรับจังหวัดเชียงใหม่ จนถึงเวลาประมาณ 11.00 น.วันนี้ (17 ก.พ.) ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าได้ 108.87 ไมโครกรัม/ลบ.ม.และที่โรงเรียนยุพราช กลางเมืองเชียงใหม่ วัดได้ 86.87 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ส่วนที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก กับจังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ก็เกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณ ส่งผลทำให้อากาศเป็นพิษประชาชนได้รับผลกระทบจากควันไฟ ทำให้มีอาการแสบตาและไอ มีผลต่อระบบทางเดินหายใจและปอด เนื่องจากขณะนี้พบว่ามีไฟป่าทั้งฝั่งไทย และฝั่งพม่า ลุกลามขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังพบว่ามีประชาชนที่เป็นเจ้าของที่ดิน ทั้ง 2 ฝั่ง ได้จุดไฟเผาหญ้าเพื่อทำการเกษตร ทำให้หมอกควันฟุ้งกระจายส่งผลต่อทัศนวิสัยการเดินทางโดยรถยนต์และจักรยานยนต์
ด้าน นายอุดมศักดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด ได้จัดชุดลาดตระเวนออกดับไฟป่าและขอความร่วมมือโดยสร้างความเข้าใจกับเกษตรกรที่จุดไฟเผาป่าและที่ดินของตัวเองเพื่อทำไร่ เพราะจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโยรวมมากกว่าได้ประโยชน์และการเผาที่ดินพื่อทำการเกษตรทำให้หน้าดินเสียหาย ปุ๋ยธรรมชาติหมดไป
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ ได้ประกาศให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการลด-ควบคุมการเผาในที่โล่งอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะให้งดการเผาริมทาง งดการเผาในพื้นที่ป่า และไฟป่า รวมถึงการขอความร่วมมือจากประชาชนงบเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร และกิ่งไม้ใบหญ้า เพื่อลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น
