xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่ส่อเผชิญวิกฤตหมอกควันไฟป่า - ค่า AQI พุ่งเกินมาตรฐาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่ส่อเค้าเสี่ยงเผชิญปัญหาคุณภาพอากาศซ้ำ หลังตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ถูกหมอกควันไฟป่าคลุมทั้งเมือง ล่าสุด บ่ายวันนี้ (15 ก.พ.) วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 109 พุ่งทะลุเกินค่ามาตรฐาน จนอยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า วันนี้ (15 ก.พ.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันอย่างเห็นได้ชัดตลอดทั้งวัน โดยยอดดอยสุเทพที่ตามปกติจะสามารถมองเห็นจากระยะไกลได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะอยู่ในจุดใดของเมืองเชียงใหม่ก็ไม่สามารถมองเห็นได้เหมือนเช่นเคย สภาพดังกล่าวนี้เกิดขึ้นติดต่อกันมาตลอดนานนับสัปดาห์แล้ว

นอกจากนี้ ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ ที่รายงานจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ณ เวลา 14.00 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ตรวจวัดค่า AQI ได้ 109 ซึ่งทะลุเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 100 ไปแล้ว

ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 วัดได้ 98.95 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งตามข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษระบุว่าค่า AQI ในช่วงระหว่าง 101-200 ถือว่าอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว รวมทั้งมีข้อแนะนำว่าผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังภายนอกอาคาร ส่วนบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ไม่ควรทำกิจกรรมภายนอกอาคารเป็นเวลานาน

ขณะที่ นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าของจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ภาพรวมสถานการณ์ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง โดยข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจจัดทั้ง 2 แห่ง คือ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ และโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ก.พ.55 ยังไม่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศนั้น วานนี้ (14 ก.พ.) ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าได้ 100 เท่ากับค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ว่าดัชนีคุณภาพอากาศที่ดีจะต้องมีค่าไม่เกิน 100 พอดี ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวนี้นับเป็นค่าที่ตรวจวัดได้สูงสุดในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.55 เป็นต้นมา

ส่วนที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่า AQI ได้ 93 ซึ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยจากค่าดัชนีคุณภาพที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวยอมรับว่าเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งมากขึ้น ในการป้องกันและบรรเทาความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น

สำหรับสถานการณ์การเผาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น นายบรรพต กล่าวว่า จากข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-14 ก.พ.55 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีการเผาและนำกำลังเข้าดับไฟป่าจำนวนทั้งสิ้น 120 ครั้ง มีพื้นที่ป่าที่ได้รับความเสียหายจากการเผาทั้งสิ้น 716 ไร่ ขณะที่ข้อมูลจุด Hot Spot สะสมในช่วงเวลาเดียวกันนั้น พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 150 จุด สอดคล้องกับจำนวนเหตุเผาที่เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุ

พื้นที่ที่มีการเผา และพบจุด Hot Spot มากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัด ได้แก่ อำเภอฮอด อำเภออมก๋อย และอำเภอดอยเต่า ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการเฝ้าติดตามเฝ้าระวังพื้นที่ดังกล่าวนี้ให้มากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น