บิ๊กองค์กรอิสระ ถก ธพส.ได้ข้อสรุปจัดการปัญหาภายในศูนย์ราชการ ตั้งคณะทำงานร่วมแก้ไข ขณะ กก.ธพส.อ้าง ขรก.ป่วย เพราะอากาศเป็นอุปทานหมู่ จ่อใช้ 2 แนวทางต่อสัญญาร้านค้าแก้อาหารแพง
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายศรีราชา เจริญพาณิช นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายอดุลย์ ตั้งศัตยาภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) นายวัฒนา เชาวสกู ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ และ นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รองเลขาธิการรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
โดย นายศรีราชา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันในการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาภายในตัวอาคารศูนย์ราชการ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ตัวแทนจาก 29 หน่วยงานที่มีสำนักงานในศูนย์ราชการ ส่วนปัญหาที่มีการร้องเรียนนั้น 1.เรื่องคุณภาพอากาศ แม้บริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะเคยตรวจสอบดำเนินการวัดคุณภาพอากาศภายใน อาคารศูนย์ราชการฯ แล้วพบว่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินกว่าค่ามาตรฐานตามที่องค์การอนามัยโลก กำหนด แต่จากการที่ ธพส.ได้จ้างบริษัท ไอ.เอช.คอนซัลแตนท์ จำกัด มาตรวจวัดคุณภาพอากาศเมื่อวันที่ 20-27 ธ.ค.54 โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ เข้ามาตรวจโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คุณภาพอากาศภายในอาคารยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ แต่ทาง ธพส.ก็จะดำเนินการจัดงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อล้างระบบปรับอากาศภายในอาคารทั้งหมดภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนจะมีการตรวจวัดสภาพอากาศอีกครั้ง
2.เรื่องของปัญหาการจราจร ทาง ธพส.จะแก้ปัญหาโดยการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มาแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และจะพยายามเจรจาขอเปิดช่องทางการจราจรเชื่อมต่อไปยัง ถ.แจ้งวัฒนะ คลองประปา และด้านสโมสรราชพฤกษ์ให้การจราจรเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 3.การจัดรถรับ-ส่งจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มายังอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ต้องมาติดต่อราชการ ก็จะประสานไปยังกรุงเทพมหานครเพื่อขอสนับสนุนในเรื่องของรถรางมาบริการ 4.เรื่องความสะอาดของห้องน้ำและกลิ่นรบกวน ก็ได้มีการเน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาด และการซ่อมแซมเพื่อให้อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดี 5.เรื่องร้านอาหารที่มีจำนวนไม่เพียงพอและราคาแพง ทาง ธพส.ได้เปลี่ยนระบบจากการให้สัมปทานบริษัทเอกชนเข้ามาจัดร้านอาหาร มาเป็นระบบสวัสดิการ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาราคาอาหารแพงได้ระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า ในเรื่องคุณภาพอากาศ ทาง ธพส.จะมีแนวทางการแก้ปัญหายั่งยืนอย่างไร เพราะยังพบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีปัญหาเจ็บป่วยอยู่ นายอดุลย์ กล่าวว่า ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับเป็นการอุปทานหมู่ ที่พอคนคนหนึ่งบอกว่ารู้สึกไม่ได้มาตรฐาน อาจจะมีคนรู้สึกอึดอัดตาม ซึ่งจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ยืนยันว่า อากาศในอาคารทุกพื้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจ ก็จะมีการจัดทำความสะอาดครั้งใหญ่ในวันที่ 27ก.พ.นี้ เพื่อทำความสะอาดฝุ่นละอองสะสม จากนั้นจะมีการตรวจวัดคุณภาพอากาศอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้แก้ปัญหาต่างๆ จะมีความยั่งยืน แม้อนาคตจะมีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนผู้บริหาร ธพส. เพราะคณะทำงานที่ประกอบไปด้วยตัวแทน 29 หน่วยงานยังมีอยู่ ก็จะขับเคลื่อนการพัฒนาการบริหารศูนย์ราชการต่อไป ซึ่งคณะทำงานฯก็จะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 27 ก.พ.ด้วย จะมีการประชุมตัวแทนครั้งแรกในวันที่ 27กุมภาพันธ์นี้
เมื่อถามต่อว่าในส่วนของร้านค้าภายในอาคาร ที่จะหมดสัญญาเร็วๆ นี้ ทาง ธพส.มีแนวทางเรื่องการต่อสัญญาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการประท้วงค่าเช่าแพงขึ้นอีก นายอดุลย์ กล่าวว่า การบริหาร ธพส.พิจารณา 2 แนวทาง คือ 1.จะบริหารแบบที่ได้กำไรสูงสุด หรือ 2.จะบริหารแบบสวัสดิการหน่วยงานราชการ ซึ่งถ้าบริหารแบบนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ธพส.อยู่ได้และร้านค้าอยู่ได้ ซึ่งในเรื่องของการต่อสัญญานี้ ทาง ธพส.กำลังจะพิจารณาอยู่โดยไม่ได้คิดในเรื่องของกำไรสูงสุดเป็นหลัก
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายศรีราชา เจริญพาณิช นายประวิช รัตนเพียร ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วย นายอดุลย์ ตั้งศัตยาภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) นายวัฒนา เชาวสกู ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ และ นายวีรวิทย์ วีรวรวิทย์ รองเลขาธิการรักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังประชุมหารือเกี่ยวกับปัญหาภายในศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
โดย นายศรีราชา กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันในการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาภายในตัวอาคารศูนย์ราชการ ซึ่งจะประกอบไปด้วย ตัวแทนจาก 29 หน่วยงานที่มีสำนักงานในศูนย์ราชการ ส่วนปัญหาที่มีการร้องเรียนนั้น 1.เรื่องคุณภาพอากาศ แม้บริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกาจะเคยตรวจสอบดำเนินการวัดคุณภาพอากาศภายใน อาคารศูนย์ราชการฯ แล้วพบว่าปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเกินกว่าค่ามาตรฐานตามที่องค์การอนามัยโลก กำหนด แต่จากการที่ ธพส.ได้จ้างบริษัท ไอ.เอช.คอนซัลแตนท์ จำกัด มาตรวจวัดคุณภาพอากาศเมื่อวันที่ 20-27 ธ.ค.54 โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงมหาดไทย และกรมควบคุมมลพิษ เข้ามาตรวจโดยใช้เกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า คุณภาพอากาศภายในอาคารยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ แต่ทาง ธพส.ก็จะดำเนินการจัดงานบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ เพื่อล้างระบบปรับอากาศภายในอาคารทั้งหมดภายในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ ก่อนจะมีการตรวจวัดสภาพอากาศอีกครั้ง
2.เรื่องของปัญหาการจราจร ทาง ธพส.จะแก้ปัญหาโดยการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง มาแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด และจะพยายามเจรจาขอเปิดช่องทางการจราจรเชื่อมต่อไปยัง ถ.แจ้งวัฒนะ คลองประปา และด้านสโมสรราชพฤกษ์ให้การจราจรเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น 3.การจัดรถรับ-ส่งจาก ถ.แจ้งวัฒนะ มายังอาคารเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ต้องมาติดต่อราชการ ก็จะประสานไปยังกรุงเทพมหานครเพื่อขอสนับสนุนในเรื่องของรถรางมาบริการ 4.เรื่องความสะอาดของห้องน้ำและกลิ่นรบกวน ก็ได้มีการเน้นย้ำเรื่องการทำความสะอาด และการซ่อมแซมเพื่อให้อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดี 5.เรื่องร้านอาหารที่มีจำนวนไม่เพียงพอและราคาแพง ทาง ธพส.ได้เปลี่ยนระบบจากการให้สัมปทานบริษัทเอกชนเข้ามาจัดร้านอาหาร มาเป็นระบบสวัสดิการ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาราคาอาหารแพงได้ระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่า ในเรื่องคุณภาพอากาศ ทาง ธพส.จะมีแนวทางการแก้ปัญหายั่งยืนอย่างไร เพราะยังพบว่า เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมีปัญหาเจ็บป่วยอยู่ นายอดุลย์ กล่าวว่า ลักษณะเช่นนี้เหมือนกับเป็นการอุปทานหมู่ ที่พอคนคนหนึ่งบอกว่ารู้สึกไม่ได้มาตรฐาน อาจจะมีคนรู้สึกอึดอัดตาม ซึ่งจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ ยืนยันว่า อากาศในอาคารทุกพื้นที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจ ก็จะมีการจัดทำความสะอาดครั้งใหญ่ในวันที่ 27ก.พ.นี้ เพื่อทำความสะอาดฝุ่นละอองสะสม จากนั้นจะมีการตรวจวัดคุณภาพอากาศอีกครั้ง ซึ่งคิดว่าหลังจากนี้แก้ปัญหาต่างๆ จะมีความยั่งยืน แม้อนาคตจะมีการเปลี่ยนรัฐบาล หรือเปลี่ยนผู้บริหาร ธพส. เพราะคณะทำงานที่ประกอบไปด้วยตัวแทน 29 หน่วยงานยังมีอยู่ ก็จะขับเคลื่อนการพัฒนาการบริหารศูนย์ราชการต่อไป ซึ่งคณะทำงานฯก็จะมีการประชุมครั้งแรกในวันที่ 27 ก.พ.ด้วย จะมีการประชุมตัวแทนครั้งแรกในวันที่ 27กุมภาพันธ์นี้
เมื่อถามต่อว่าในส่วนของร้านค้าภายในอาคาร ที่จะหมดสัญญาเร็วๆ นี้ ทาง ธพส.มีแนวทางเรื่องการต่อสัญญาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการประท้วงค่าเช่าแพงขึ้นอีก นายอดุลย์ กล่าวว่า การบริหาร ธพส.พิจารณา 2 แนวทาง คือ 1.จะบริหารแบบที่ได้กำไรสูงสุด หรือ 2.จะบริหารแบบสวัสดิการหน่วยงานราชการ ซึ่งถ้าบริหารแบบนี้ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ธพส.อยู่ได้และร้านค้าอยู่ได้ ซึ่งในเรื่องของการต่อสัญญานี้ ทาง ธพส.กำลังจะพิจารณาอยู่โดยไม่ได้คิดในเรื่องของกำไรสูงสุดเป็นหลัก
