ASTVผู้จัดการรายวัน-ภคต.จี้นายกฯ ตอบรับตรวจสอบโกงโครงการใช้งบฟื้นฟูน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท ให้เวลา 1-2 สัปดาห์ ถ้าเพิกเฉยจะขอเข้าพบ พร้อมเปิดตัวโครงการ “หมาเฝ้าบ้าน” ติดตามการทุจริต
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภคต.) เปิดเผยว่า ภคต.ได้ทำจดหมายยื่นเรื่อง ความคิดเห็นจากนักธุรกิจ นักวิชาการ ตัวแทนเอ็นจีโอ และภาคประชาสังคม เรื่องการใช้งบประมาณฟื้นฟูประเทศหลังอุทกภัย ที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวังการทุจริต ต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นฐานในการตรวจสอบการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้ส่งหนังสือไปแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2554 และครั้งล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.2555 เพื่อติดตามความคืบหน้า แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากนายกรัฐมนตรี
"เท่าที่หารือกันภายใน หากการส่งหนังสือไปไม่ได้ผล จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้เข้าไปหารือเพื่อให้ได้ทราบคำตอบ และได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลว่าจะติดตามการทุจริตในโครงการดังกล่าว โดยจะให้เวลา 1-2 สัปดาห์ น่าจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมา เข้าใจว่ารัฐบาลมีภารกิจมากเลยยังเพิกเฉยต่อข้อเสนออยู่"นายประมนต์กล่าว
สำหรับข้อสรุปเรื่องที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวัง 3 ข้อ ได้แก่ กลไกการเปิดเผยข้อมูลทั้งภาครัฐและเอกชน กลไกการตรวจสอบ และการสนับสนุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่จะให้หน่วยงานของรัฐจัดทำและเปิดเผยราคากลางโครงการประมูลและจัดซื้อจัดจ้างงานโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เพื่อเป็นฐานในการตรวจสอบการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป และเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณกว่า 3.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะโครงการในระยะเร่งด่วนที่ต้องใช้งบ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องติดตามการใช้งบประมาณอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ภคต.ได้ติดตามการผลักดันกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องการป้องกันและปราบปรามทุจริตตามมาตร 103/7 และมาตรา 103/8 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในกระบวนการติดตามความเป็นชอบจากครม.
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจวงเงินที่ใช้ในการคอร์รัปชั่นขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 25-30% จากเดิมที่เคยอยู่ที่ระดับ 10-15% และมีแนวโน้มจะสูงถึง 40% ได้ และหากโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมที่ใช้งบประมาณรวม 3.5 แสนล้านบาท ถ้ามีการคอร์รัปชั่นในระดับปัจจุบันจะต้องสูญเสียงบประมาณประมาณ 7 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท
นายวิชัย อัสรัสกร เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ภคต.ได้เปิดโครงการ “หมาเฝ้าบ้าน” เพื่อสร้างอาสาสมัครเครือข่ายเตือนภัยคอร์รัปชั่นในทุกภาคส่วน โดยตั้งเป้าหมายอบรมอาสาสมัตร 1,000 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งอาสาสมัครดังกล่าวจะทำหน้าที่ติดตามพฤติกรรมที่ไม่สะอาด โดย 50% จะเฝ้าระวังอยู่ในส่วนกลาง และอีก 50% อยู่ในต่างจังหวัด โดยโครงการแรกที่ต้องจับตา ก็คือ โครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น (ภคต.) เปิดเผยว่า ภคต.ได้ทำจดหมายยื่นเรื่อง ความคิดเห็นจากนักธุรกิจ นักวิชาการ ตัวแทนเอ็นจีโอ และภาคประชาสังคม เรื่องการใช้งบประมาณฟื้นฟูประเทศหลังอุทกภัย ที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวังการทุจริต ต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นฐานในการตรวจสอบการทุจริตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยได้ส่งหนังสือไปแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2554 และครั้งล่าสุดวันที่ 26 ม.ค.2555 เพื่อติดตามความคืบหน้า แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับจากนายกรัฐมนตรี
"เท่าที่หารือกันภายใน หากการส่งหนังสือไปไม่ได้ผล จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อจะได้เข้าไปหารือเพื่อให้ได้ทราบคำตอบ และได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลว่าจะติดตามการทุจริตในโครงการดังกล่าว โดยจะให้เวลา 1-2 สัปดาห์ น่าจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมา เข้าใจว่ารัฐบาลมีภารกิจมากเลยยังเพิกเฉยต่อข้อเสนออยู่"นายประมนต์กล่าว
สำหรับข้อสรุปเรื่องที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวัง 3 ข้อ ได้แก่ กลไกการเปิดเผยข้อมูลทั้งภาครัฐและเอกชน กลไกการตรวจสอบ และการสนับสนุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ที่จะให้หน่วยงานของรัฐจัดทำและเปิดเผยราคากลางโครงการประมูลและจัดซื้อจัดจ้างงานโครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม เพื่อเป็นฐานในการตรวจสอบการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับโครงการดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนทั่วไป และเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณกว่า 3.5 แสนล้านบาท โดยเฉพาะโครงการในระยะเร่งด่วนที่ต้องใช้งบ 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องติดตามการใช้งบประมาณอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ภคต.ได้ติดตามการผลักดันกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีความโปร่งใส ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยเรื่องการป้องกันและปราบปรามทุจริตตามมาตร 103/7 และมาตรา 103/8 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ในกระบวนการติดตามความเป็นชอบจากครม.
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการสำรวจวงเงินที่ใช้ในการคอร์รัปชั่นขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 25-30% จากเดิมที่เคยอยู่ที่ระดับ 10-15% และมีแนวโน้มจะสูงถึง 40% ได้ และหากโครงการฟื้นฟูน้ำท่วมที่ใช้งบประมาณรวม 3.5 แสนล้านบาท ถ้ามีการคอร์รัปชั่นในระดับปัจจุบันจะต้องสูญเสียงบประมาณประมาณ 7 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาท
นายวิชัย อัสรัสกร เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวว่า ภคต.ได้เปิดโครงการ “หมาเฝ้าบ้าน” เพื่อสร้างอาสาสมัครเครือข่ายเตือนภัยคอร์รัปชั่นในทุกภาคส่วน โดยตั้งเป้าหมายอบรมอาสาสมัตร 1,000 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งอาสาสมัครดังกล่าวจะทำหน้าที่ติดตามพฤติกรรมที่ไม่สะอาด โดย 50% จะเฝ้าระวังอยู่ในส่วนกลาง และอีก 50% อยู่ในต่างจังหวัด โดยโครงการแรกที่ต้องจับตา ก็คือ โครงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วม