ปธ.ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เผยผลการประชุมสมาชิก 39 องค์กร เตรียมเปิดตัวโครงการ "หมาเฝ้าบ้าน" เปิดรับสมัครอาสาสมัคร 1 พันรายทั่วประเทศ เฝ้าระวังการทุจริตคอร์รัปชั่น เกาะติดการใช้งบฟื้นฟูน้ำท่วมระยะสั้น 1.7 หมื่นล้าน เปิดอบรม 1 มี.ค.นี้ ที่หอการค้าฯ เน้นการตรวจสอบ และให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ "ธนวรรธน์" ยอมรับ ระดับความรุนแรงของปัญหาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะวงเงินลงทุนและงบใช้จ่ายประจำของ รบ. จำนวนสูงกว่า 2-3 แสนล้านบาท เป็นสิ่งที่ยั่วยวนใจ ขณะที่ ปชช. เริ่มตื่นตัวมากขึ้น รบ.โกงแต่มีผลงาน ยอมรับไม่ได้
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เปิดเผยภายหลังการประชุมภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น 39 องค์กร โดยระบุว่า ภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดตัวโครงการหมาเฝ้าบ้าน โดยจะรับสมัครอาสาสมัครทั่วประเทศ เพื่อมาอบรมเฝ้าระวังการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะการตรวจสอบการใช้งบประมาณฟื้นฟูน้ำท่วมระยะสั้น วงเงิน 17,000 ล้านบาทของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการ 1,000 ราย โดยเน้นอบรมหลักกฎหมาย การตรวจสอบ และการให้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพน่าเชื่อถือ โดยจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเปิดอบรมในวันที่ 1 มีนาคม 2555 นี้ ที่หอการค้าไทย
นอกจากนี้ ยังได้ทำจดหมายยื่นต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องที่รัฐบาลต้องเฝ้าระวังในการใช้งบฟื้นฟูประเทศหลังน้ำท่วม 3 ข้อหลัก ได้แก่ กลไกการเปิดเผยข้อมูลทั้งภาครัฐและเอกชน กลไกการตรวจสอบ รวมถึงให้ภาครัฐเห็นชอบข้อเสนอของคณะกรรม การป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ที่จะต้องให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยราคากลางโครงการประมูลและจัดซื้อจัดจ้าง ผ่านระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนเข้าไปตรวจสอบได้
ส่วนการปลูกฝังการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นได้มีการวางโครงการที่จะปลูกฝังให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เกิดกระแสต่อต้านการคอร์รัปชั่นอย่างกว้างขวาง ผ่านโครงการนวัตกรรมรับคนดีเข้าทำงาน ซึ่งขณะนี้มีมหาวิทยาลัยกว่า 15 แห่งเข้าร่วม เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการรับสมัครพนักงานเข้าทำงานในองค์กร
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ระดับความรุนแรงของปัญหาการคอร์รัปชั่นในปัจจุบันมากขึ้น โดยเฉพาะวงเงินลงทุนและงบใช้จ่ายประจำของรัฐบาล ที่มีกว่า 2-3 แสนล้านบาทต่อปี หรือร้อยละ 10-15 ของงบประมาณ แต่จากการเคลื่อนไหวของภาคีเครือข่ายฯ ทำให้ประชาชนเริ่มมีทัศนคติปฏิเสธการคอร์รัปชั่น แม้โครงการนั้นๆ จะเป็นประโยชน์กับสังคม
ส่วนสถานการณ์การคอร์รัปชั่นของไทยในช่วงเดือนธันวาคม 2554 จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 2,400 ตัวอย่าง พบว่า สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย โดยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่น อยู่ที่ระดับ 3.6 สูงขึ้นกว่าช่วงเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ระดับ 3.5 แม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมพบว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยยังอยู่ในระดับแย่
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจพบว่า สังคมไทยให้ความสำคัญกับปัญหาการคอร์รัปชั่นมากขึ้น โดยร้อยละ 64 เห็นว่า การที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่น แม้ว่ามีผลงานก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 73 พร้อมที่จะแจ้งและรายงานเบาะแสการทุจริตคอร์รัปชั่นร่วมกับภาคีเครือข่ายฯ
