xs
xsm
sm
md
lg

“เอเซียบุ๊คส”ขายซูเปอร์คาร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – “เอเซียบุ๊คส” พร้อมลุย ทุ่ม 200 ล้าน ขยาย 12 สาขาสูงสุดตั้งแต่เปิดมา งัดลูกเล่นพิเศษเสริมสร้างการตลาดรูปแบบใหม่ วางสัดส่วนหนังสือภาษาไทยมากขึ้น โฟกัสอี-คอมเมิร์ซรับการปักธงในต่างแดนปีหน้า มั่นใจสิ้นปีรายได้โต 25% ทะลุ 1,200 ล้านบาท

นายสิโรตม์ จิระประยูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียบุ๊คส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นภายใน ทำให้บริษัทเข้ามาอยู่ในเครือเบอร์ลี่ยุคเกอร์เมื่อปีที่ผ่านมา ในแง่ของเป้าหมายการดำเนินงานของเอเซียบุ๊คสยังคงดำเนินไปเช่นเดิม คือ การเป็นผู้นำในกลุ่มบุ๊คเซลเลอร์ที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล ซึ่งในช่วงปลายปี 2554
ปรับปรุงเสาขาเดิมและเปิดสาขาใหม่หลายแห่ง รวมถึงสาขาใหญ่สุดที่เซ็นทรัลเวิลด์ ที่ได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ปรับโฉมเอเซียบุ๊คสเพิ่มพื้นที่เป็น 1,000 ตารางเมตร บนชั้น 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 29 ก.พ.นี้เพิ่มสัดส่วนหนังสือภาษาไทยเป็น 13-15% จากที่ไม่เคยมี ปัจจุบันร้านเอเซียบุ๊คสมีจำนวนทั้งสิ้น 33 สาขา และบุ๊คกาซีน 25 สาขา

นอกจากนี้ยังมีเปิดที่เซ็นทรัลพระราม9, โรงพยาบาลกรุงเทพฯ และภายในร้านบีทูเอสที่ เชียงใหม่ ขณะที่สาขาที่ซีคอนสแควร์ปรับปรุงใหม่และปรับสัดส่วนหนังสือเป็น ภาษาต่างประเทศ 30% และภาษาไทย 70% จากที่ไม่เคยมีหนังสือภาษาไทยวางจำหน่ายมาก่อน

แผนการดำเนินงานปีนี้ จะใช้งบลงทุนรวม 200 ล้านบาท แบ่งเป็น 150 ล้านบาท ขยาย 12 สาขา พื้นที่เฉลี่ย 100 ตารางเมตรต่อสาขา และการรับบริหารให้กับพาร์ทเนอร์ คือ ร้านบีทูเอสอีก 3-4 สาขา (เฉพาะพื้นที่หนังสือภาษาต่างประเทศ) ถือเป็นการขยายสาขามากสุดตั้งแต่ดำเนินการมา

ส่วนอีก50 ล้านบาท จะใช้ทำกิจกรรมการตลาดและส่งเสริมการขาย รเช่น ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ทางเอเซียบุ๊คส จะร่วมมือกับทางพันธมิตรในจำหน่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์ที่มีราคาสูงที่สุดในโลกที่จะพ่วงการขายไปกับหนังสือ เป็นต้น เชื่อว่าจะเป็นการทำตลาดที่น่าสนใจและดึงให้มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ทางบริษัท ยังให้ความสำคัญกับอี-คอมเมิร์ซ โดยได้เปิดตัว eBook Store เมื่อต้นปี 2554 ผ่านทางเว็บไซต์ www.asiabook.com ให้บริการดาวน์โหลดอีบุ๊คส์ทั้งภาษาไทยและภาษอังกฤษกับลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติทั่วโลก ปัจจุบันจำหน่ายได้กว่า 1 ล้านเล่ม คิดเป็น 3% ของรายได้รวมทั้งหมด
และในเดือนหน้าจะต่อยอดสู่การดาวน์โหลดผ่านแอพพลิเคชั่นบนดีไวท์ต่างๆทั้งไอแพด ไอโฟน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการบุกตลาดต่างประเทศ ที่ตั้งใจเข้าไปเปิดสาขาภายในสนามบินนานาชาติภายในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นที่เวียดนาม สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น

ในแง่ของรายได้รวมสิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโต 25% หรือกว่า 1,200 ล้านบาท จากปี 2554 ทำได้ 12% หรือประมาณ 950 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1,005 ล้านบาท เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมหนัก ทำให้ต้องปิดให้บริการลงไปหลายสาขา
กำลังโหลดความคิดเห็น