ข่าวในประเทศ - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้รายงานรถตลาดรุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้ ฉบับนี้จึงขอส่องกล้องสำรวจรถใหม่ ในกลุ่มรถหรูและสปอร์ต แม้ในรอบกว่าสิบปีที่ผ่านมา จะมีตัวเลขยอดขายเต็มที่ไม่เกินหลักหมื่นคันต่อปี แต่ยังถือเป็นอีกตลาดสำคัญ และการแข่งขันก็ดุเดือดมาก โดยเฉพาะปีงูใหญ่ 2555 ที่มีรถรุ่นใหม่เตรียมจ่อเข้ามาทำตลาด ทั้งรถนำเข้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศ และรถที่ประกอบในไทย หรืออาเซียน แถมมีให้เลือกทั้งรถหรูหลากขนาด รถแฟชั่น รถสปอร์ต ไปจนถึงซูเปอร์คาร์ที่พกพาความแรงระดับ 700 แรงม้า และราคาไม่ต่ำ 30 ล้านบาท มาให้เศรษฐีไทยเลือกตามใจชอบ ทำให้ปีนี้จึงมีการประเมินยอดโดยรวมตลาดรถหรู น่าจะทะลุหมื่นคันไปมากทีเดียว
“หากไม่มีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติน้ำท่วมรุนแรงอีก ปี 2555 น่าจะเป็นปีที่ดี คาดว่าตลาดรถหรูน่าจะสามารถทำตัวเลขได้มากกว่า 12,000-13,000 คัน เพราะพื้นฐานภาพรวมอุตสาหกรรมยังดี แต่ก็ต้องเฝ้าดูปัจจัยลบเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลกระทบสำคัญที่สุดในปีนี้ ส่วนเรื่องอุทกภัยไม่น่าจะส่งผลต่อภาพรวมมากนัก ขณะที่ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ตลาดรถเคยผ่านมาได้ไม่มีปัญหาอะไร”
เป็นการประเมินของ ฉันทนา วัฒนารมย์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์(ประเทศไทย) จำกัด ต่อภาพรวมตลาดรถหรูในไทยปีงูใหญ่ 2555 นี้ และวอลโว่ยังได้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1,600 คัน ที่จะเป็นการทุบสถิติในรอบกว่าสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกความต้องการมากขึ้น โดยที่ชัดเจนวอลโว่จะมีการเสริมทัพ ด้วยการเปิดตัว “วอลโว่ วี60” (V60) รถสเตชันแวกอน หรือเอสเตท(Estate) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากการนำเข้ามาจากโรงงานในมาเลเซีย ราคาประมาณ 2 ล้านบาทต้นๆ
วอลโว่นับเป็นค่ายที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันสองค่ายยักษ์ใหญ่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” ไม่ยอมถูกไล่บี้ โดยเตรียมรถใหม่มาปั้นยอดขายชิงความเป็นผู้นำอย่างดุเดือด รวมถึงรุ่นย่อยใหม่ๆ ของโมเดลหลักเข้ามาเสริมทัพทั้งสองค่าย แต่ต้องบอกว่าปีงูใหญ่นับเป็นอีกปี ที่ค่ายตราดาวจะต้องเหน็ดเหนื่อยสุดๆ เพราะไม่เพียงจะถูกเกรย์มาร์เก็ตคอยฉุดแข้งฉุดขา คู่แข่งสำคัญ “บีเอ็มดับเบิลยู” ก็ผงาดขึ้นมาทาบรัศมีแล้ว
ยิ่งปีนี้รถคลาสหลักๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แทบไม่มีความใหม่สดเลย ที่พอจะช่วยได้เป็นกอบเป็นกำ เห็นจะเป็น “อี200 เอ็นจีที”(E200 NGT) ซึ่งเพิ่งทำตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่รถใหม่ไฮไลต์ปีนี้ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล” (SL) รถสปอร์ตเปิดประทุนคู่บุญของค่ายตราดาว ที่ทำการโมเดลเชนจ์ครั้งแรกในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ ด้วยการพัฒนาให้ตัวถังน้ำหนักเบา เครื่องยนต์แรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม ตามข่าวมีกำหนดนำมาเปิดตัวในไทย งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนมีนาคมนี้
ขณะที่ค่ายใบพัดสีฟ้าเขย่าตลาดในเวทีเดียวกัน ด้วยการเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ชาวไทย เปิดโฉมใหม่ของ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์3” หรือรหัสรุ่นเอฟ30(F30) ซึ่งเป็นการนำเข้าสำเร็จรูป(CBU) ก่อนที่จะขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ(CKD) ช่วงปลายปี โดยรุ่นที่จะนำเข้ามาประเดิมชิมลาง แน่นอนคงเป็นรุ่น 320d เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 184 แรงม้า(เป็นตัวทำตลาดในเวอร์ชันซีเคดีด้วย) และหากเป็นเครื่องยนต์เบนซิน คงต้องนำเข้ารุ่น 328i ที่วางเครื่องบล็อกใหม่ 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เพราะรุ่น 320i ยังไม่ถูกส่งลงทำตลาด
อย่างไรก็ตาม ปีนี้สองค่ายผู้นำตลาดรถหรู ต้องเจอความท้าทายจากค่ายรถญี่ปุ่น “เลกซัส” แบรนด์หรูในเครือของโตโยต้า เพราะจะมีการยกทัพรถตระกูล “จีเอส” (GS) มาท้าชนกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์5 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน โดยเป็นรุ่นโมเดลเชนจ์ หรือเจเนอเรชันที่ 4 เบื้องต้นจะเปิดตัวรุ่น “จีเอส250”(GS250) เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 215 แรงม้า ราคาประมาณ 3.8-4.2 ล้านบาท จากนั้นช่วงงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนมีนาคม จึงนำเข้ารุ่น “จีเอส350” (GS350) ขนาด 3.5 ลิตร306 แรงม้า มาเสริมทัพอีกรุ่น ด้านรุ่นไฮบริด “450เอช” (450h) น่าจะตามมาปลายปี
ข้ามมาที่รถหรูจากเมืองผู้ดี “จากัวร์” ปีนี้คงจะไม่มีอะไรแบบใหม่สด ที่น่าจับตาเห็นจะเป็นรุ่น “เอ็กซ์เอฟ” (XF) สปอร์ตซีดานหรูที่ทำการไมเนอร์เชนจ์ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น และอาจนำรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ AJ-i4D บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 190 แรงม้า มาเสริมทัพด้วย
ส่วนแบรนด์ “ปอร์เช่” ที่ทำตลาดในไทย ภายใต้ชายคาเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสเหมือนกัน ซึ่งค่ายนี้ต้องรบกับเกรย์มาร์เกตอย่างหนัก ฉะนั้นทันทีที่รถโมเดลใหม่เปิดตัวในต่างประเทศ ไทยก็จะเปิดราคาตามทันที ถึงจะยังไม่นำรถเข้ามาก็ตาม เห็นได้จากโฉมใหม่ของ “ปอร์เช่ 911” ที่เคาะราคาสูงสุดออกมากว่า 14 ล้านบาทแล้ว และปีนี้รุ่นเปิดประทุนเพิ่งถูกส่งลงทำตลาด ซึ่งในไทยก็ต้องตามติดด้วย โดยรุ่นเปิดประทุนของ 911 คาร์เรร่า วางเครื่องยนต์ 3.4 ลิตร 350 แรงม้า และคาร์เรร่า เอส ขนาด 3.8 ลิตร 400 แรงม้า
สำหรับ “มินิ” แบรนด์ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู เตรียมนำเข้ารุ่นโรดสเตอร์ (Roadster) ซึ่งเป็นการแชร์พื้นฐานมาจากรุ่นคูเป้ ขณะที่ชุดหลังคาเป็นแบบ Soft Top เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กับ 2 ทางเลือกเช่นเดียวกัน คือรุ่นคูเปอร์วางเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 122 แรงม้า และรุ่นคูเปอร์ เอส ที่ติดตั้งเทอร์โบแบบ Twin-Scroll และระบบไดเรกต์อินเจกชัน ผลคือกำลังสูงสุดอยู่ที่ 184 แรงม้า และปีนี้ยังจะพบกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลของ “มินิ คันทรีแมน” (Countryman) มาเป็นอีกทางเลือกด้วย
พูดถึงรถสไตล์แฟชั่นแล้ว ปีนี้จับตาการรุกของค่าย “ซีตรอง” เพราะเตรียมขนรถในตระกูล “ดีเอส” (DS) มาให้ลูกค้าไทยได้ขับครบไลน์ จากปัจจุบันที่ทำตลาดรุ่นดีเอส3 อยู่แล้ว โดยต้นปีนี้จะเปิดตัว “ซีตรอง ดีเอส4” (DS4) ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตูยกสูง ในสไตล์ของรถครอสโอเวอร์ทรงสปอร์ต และจากนั้นช่วงปลายปีจะนำ “ดีเอส5” (DS5) มาเจาะกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับหรูขนาดกลาง ด้วยตัวถังแบบสปอร์ตแวกอน ที่เน้นความอเนกประสงค์ผสมผสานกับความหรูหรา พร้อมกับรุ่น “ซี5” (C5) ซีดานหรูขนาดกลางมาเพิ่มอีกทางเลือก ขณะที่ “ออดี้” ที่ทำตลาดภายใต้ชายคากลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ เช่นเดียวกัน ปีนี้น่าจะได้พบกับ “ออดี้ เอ6” (A6) แน่นอน
มากันที่ค่าย “โฟล์กสวาเกน” ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ที่ผ่านมา เปิดตัวเอ็มพีวีใหม่ “มัลติแวน” (Multivan) เสริมทัพรุ่นคาราเวล และในปีนี้จะฉีกลงมาจับตลาดคนรุ่นใหม่ ด้วยการนำเข้าโฉมใหม่ของ “โฟล์กสวาเกน บีเทิล” (Beetle) ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 โดยตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ที่ทำตลาดถ้าไม่เป็น 1.4 ลิตร 160 แรงม้า คงจะเป็น 2.0 ลิตร 200 แรงม้า โดยจากรายงานของโฟล์กสวาเกน เอเชียแปซิฟิก จะทำตลาดเอเชียช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ไทยอาจจะช้ากว่านั้น แต่ทำตลาดภายในปีนี้แน่นอน
จากรถหรูหรา และสปอร์ต ไปจนถึงรถแฟชั่นแล้ว หันไปสำรวจซูเปอร์คาร์กันบ้าง ซึ่งปีนี้สองคู่แข่งเตรียมงัดทีเด็ดออกมาชนกันดุเดือด โดยค่ายม้าลำพอง “เฟอร์รารี่” ภายใต้การทำตลาดของ คาวาลิโน มอเตอร์ แต่เพียงผู้เดียวในไทย ได้ประกาศชัดว่าปีนี้จะนำ “เฟอร์รารี่ 458 สปายเดอร์” (458 Spider) ซูเปอร์คาร์ที่มีจุดเด่นหลังคาแข็งเปิดประทุนพับเก็บได้ เครื่องยนต์วางกลาง ขนาด 4.5 ลิตร 570 แรงม้า และขับเคลื่อนล้อหลัง
ไม่เพียงเท่านั้นจากการเปิดเผยของ “นันทมาลี ภิรมย์ภักดี” บอสใหญ่ของคาวาลิโนฯ ในปีนี้ยังเตรียมจะนำเข้ารุ่น “เอฟ12” (F12) ซึ่งเป็นโฉมใหม่ที่จะมาแทนรุ่น 599 และเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีกำลังถึง 700 แรงม้า มาทำเอาใจเศรษฐีไทยพันธุ์แรงด้วย โดยมีสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท
ทางด้านคู่แข่ง “ลัมบอร์กินี” โดยค่ายนิชคาร์เป็นผู้แทนจำหน่ายในไทย หลังจากเปิดตัวซูเปอร์คาร์ระดับ 700 แรงม้า “อเวนทาดอร์ แอลพี700-4” (Aventador LP700-4 ) ราคา 36.5 ล้านบาท เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เตรียมจะเขย่าตลาดอีกระลอกตั้งแต่ต้นปีงูใหญ่ กับการนำ “ Super Trofeo Stradale” ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือลิมิเต็ดอิดิชันของ “ลัมบอร์กินี กัลญาร์โด” (Gallardo LP570-4) ที่ผลิตออกมาขายทั่วโลกเพียง 150 คันเท่านั้น และเศรษฐีพันธุ์แรงเพียง 3 ราย จะมีโอกาสเป็นหนึ่งในนั้น แลกกับการควักกระเป๋า 26.5 ล้านบาท เพื่อได้ควบซูเปอร์คาร์ที่มีขุมพลัง 570 แรงม้า
เห็นความหรูและแรง ของตลาดรถหรู-สปอร์ตปีนี้แล้ว ต้องบอกว่า... ค่ายรถเหล่านี้จัดเต็มต้อนรับปีงูใหญ่จริงๆ เอ้า! ใครที่กระเป๋าหนักรักจริง เชิญเลือกถอยกันตามสบาย ส่วนพวกกระเป๋าแฟบต้องซี้ดปากกันต่อไป...
“หากไม่มีปัญหาเรื่องภัยธรรมชาติน้ำท่วมรุนแรงอีก ปี 2555 น่าจะเป็นปีที่ดี คาดว่าตลาดรถหรูน่าจะสามารถทำตัวเลขได้มากกว่า 12,000-13,000 คัน เพราะพื้นฐานภาพรวมอุตสาหกรรมยังดี แต่ก็ต้องเฝ้าดูปัจจัยลบเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลกระทบสำคัญที่สุดในปีนี้ ส่วนเรื่องอุทกภัยไม่น่าจะส่งผลต่อภาพรวมมากนัก ขณะที่ปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ตลาดรถเคยผ่านมาได้ไม่มีปัญหาอะไร”
เป็นการประเมินของ ฉันทนา วัฒนารมย์ ประธานบริษัท วอลโว่ คาร์(ประเทศไทย) จำกัด ต่อภาพรวมตลาดรถหรูในไทยปีงูใหญ่ 2555 นี้ และวอลโว่ยังได้ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 1,600 คัน ที่จะเป็นการทุบสถิติในรอบกว่าสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกความต้องการมากขึ้น โดยที่ชัดเจนวอลโว่จะมีการเสริมทัพ ด้วยการเปิดตัว “วอลโว่ วี60” (V60) รถสเตชันแวกอน หรือเอสเตท(Estate) ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จากการนำเข้ามาจากโรงงานในมาเลเซีย ราคาประมาณ 2 ล้านบาทต้นๆ
วอลโว่นับเป็นค่ายที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันสองค่ายยักษ์ใหญ่ “เมอร์เซเดส-เบนซ์” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” ไม่ยอมถูกไล่บี้ โดยเตรียมรถใหม่มาปั้นยอดขายชิงความเป็นผู้นำอย่างดุเดือด รวมถึงรุ่นย่อยใหม่ๆ ของโมเดลหลักเข้ามาเสริมทัพทั้งสองค่าย แต่ต้องบอกว่าปีงูใหญ่นับเป็นอีกปี ที่ค่ายตราดาวจะต้องเหน็ดเหนื่อยสุดๆ เพราะไม่เพียงจะถูกเกรย์มาร์เก็ตคอยฉุดแข้งฉุดขา คู่แข่งสำคัญ “บีเอ็มดับเบิลยู” ก็ผงาดขึ้นมาทาบรัศมีแล้ว
ยิ่งปีนี้รถคลาสหลักๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์แทบไม่มีความใหม่สดเลย ที่พอจะช่วยได้เป็นกอบเป็นกำ เห็นจะเป็น “อี200 เอ็นจีที”(E200 NGT) ซึ่งเพิ่งทำตลาดเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะที่รถใหม่ไฮไลต์ปีนี้ “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสแอล” (SL) รถสปอร์ตเปิดประทุนคู่บุญของค่ายตราดาว ที่ทำการโมเดลเชนจ์ครั้งแรกในรอบ 10 ปีก็ว่าได้ ด้วยการพัฒนาให้ตัวถังน้ำหนักเบา เครื่องยนต์แรงขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม ตามข่าวมีกำหนดนำมาเปิดตัวในไทย งานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนมีนาคมนี้
ขณะที่ค่ายใบพัดสีฟ้าเขย่าตลาดในเวทีเดียวกัน ด้วยการเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ชาวไทย เปิดโฉมใหม่ของ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์3” หรือรหัสรุ่นเอฟ30(F30) ซึ่งเป็นการนำเข้าสำเร็จรูป(CBU) ก่อนที่จะขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ(CKD) ช่วงปลายปี โดยรุ่นที่จะนำเข้ามาประเดิมชิมลาง แน่นอนคงเป็นรุ่น 320d เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 184 แรงม้า(เป็นตัวทำตลาดในเวอร์ชันซีเคดีด้วย) และหากเป็นเครื่องยนต์เบนซิน คงต้องนำเข้ารุ่น 328i ที่วางเครื่องบล็อกใหม่ 2.0 ลิตร 245 แรงม้า ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เพราะรุ่น 320i ยังไม่ถูกส่งลงทำตลาด
อย่างไรก็ตาม ปีนี้สองค่ายผู้นำตลาดรถหรู ต้องเจอความท้าทายจากค่ายรถญี่ปุ่น “เลกซัส” แบรนด์หรูในเครือของโตโยต้า เพราะจะมีการยกทัพรถตระกูล “จีเอส” (GS) มาท้าชนกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์5 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน โดยเป็นรุ่นโมเดลเชนจ์ หรือเจเนอเรชันที่ 4 เบื้องต้นจะเปิดตัวรุ่น “จีเอส250”(GS250) เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 215 แรงม้า ราคาประมาณ 3.8-4.2 ล้านบาท จากนั้นช่วงงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2012 ปลายเดือนมีนาคม จึงนำเข้ารุ่น “จีเอส350” (GS350) ขนาด 3.5 ลิตร306 แรงม้า มาเสริมทัพอีกรุ่น ด้านรุ่นไฮบริด “450เอช” (450h) น่าจะตามมาปลายปี
ข้ามมาที่รถหรูจากเมืองผู้ดี “จากัวร์” ปีนี้คงจะไม่มีอะไรแบบใหม่สด ที่น่าจับตาเห็นจะเป็นรุ่น “เอ็กซ์เอฟ” (XF) สปอร์ตซีดานหรูที่ทำการไมเนอร์เชนจ์ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น และอาจนำรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลตัวใหม่ AJ-i4D บล็อก 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2.2 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 190 แรงม้า มาเสริมทัพด้วย
ส่วนแบรนด์ “ปอร์เช่” ที่ทำตลาดในไทย ภายใต้ชายคาเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสเหมือนกัน ซึ่งค่ายนี้ต้องรบกับเกรย์มาร์เกตอย่างหนัก ฉะนั้นทันทีที่รถโมเดลใหม่เปิดตัวในต่างประเทศ ไทยก็จะเปิดราคาตามทันที ถึงจะยังไม่นำรถเข้ามาก็ตาม เห็นได้จากโฉมใหม่ของ “ปอร์เช่ 911” ที่เคาะราคาสูงสุดออกมากว่า 14 ล้านบาทแล้ว และปีนี้รุ่นเปิดประทุนเพิ่งถูกส่งลงทำตลาด ซึ่งในไทยก็ต้องตามติดด้วย โดยรุ่นเปิดประทุนของ 911 คาร์เรร่า วางเครื่องยนต์ 3.4 ลิตร 350 แรงม้า และคาร์เรร่า เอส ขนาด 3.8 ลิตร 400 แรงม้า
สำหรับ “มินิ” แบรนด์ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู เตรียมนำเข้ารุ่นโรดสเตอร์ (Roadster) ซึ่งเป็นการแชร์พื้นฐานมาจากรุ่นคูเป้ ขณะที่ชุดหลังคาเป็นแบบ Soft Top เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กับ 2 ทางเลือกเช่นเดียวกัน คือรุ่นคูเปอร์วางเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 122 แรงม้า และรุ่นคูเปอร์ เอส ที่ติดตั้งเทอร์โบแบบ Twin-Scroll และระบบไดเรกต์อินเจกชัน ผลคือกำลังสูงสุดอยู่ที่ 184 แรงม้า และปีนี้ยังจะพบกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลของ “มินิ คันทรีแมน” (Countryman) มาเป็นอีกทางเลือกด้วย
พูดถึงรถสไตล์แฟชั่นแล้ว ปีนี้จับตาการรุกของค่าย “ซีตรอง” เพราะเตรียมขนรถในตระกูล “ดีเอส” (DS) มาให้ลูกค้าไทยได้ขับครบไลน์ จากปัจจุบันที่ทำตลาดรุ่นดีเอส3 อยู่แล้ว โดยต้นปีนี้จะเปิดตัว “ซีตรอง ดีเอส4” (DS4) ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตูยกสูง ในสไตล์ของรถครอสโอเวอร์ทรงสปอร์ต และจากนั้นช่วงปลายปีจะนำ “ดีเอส5” (DS5) มาเจาะกลุ่มตลาดรถยนต์ระดับหรูขนาดกลาง ด้วยตัวถังแบบสปอร์ตแวกอน ที่เน้นความอเนกประสงค์ผสมผสานกับความหรูหรา พร้อมกับรุ่น “ซี5” (C5) ซีดานหรูขนาดกลางมาเพิ่มอีกทางเลือก ขณะที่ “ออดี้” ที่ทำตลาดภายใต้ชายคากลุ่มดีเอดี ยนตรกิจ เช่นเดียวกัน ปีนี้น่าจะได้พบกับ “ออดี้ เอ6” (A6) แน่นอน
มากันที่ค่าย “โฟล์กสวาเกน” ซึ่งในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ที่ผ่านมา เปิดตัวเอ็มพีวีใหม่ “มัลติแวน” (Multivan) เสริมทัพรุ่นคาราเวล และในปีนี้จะฉีกลงมาจับตลาดคนรุ่นใหม่ ด้วยการนำเข้าโฉมใหม่ของ “โฟล์กสวาเกน บีเทิล” (Beetle) ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 โดยตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์ที่ทำตลาดถ้าไม่เป็น 1.4 ลิตร 160 แรงม้า คงจะเป็น 2.0 ลิตร 200 แรงม้า โดยจากรายงานของโฟล์กสวาเกน เอเชียแปซิฟิก จะทำตลาดเอเชียช่วงต้นปีนี้ ขณะที่ไทยอาจจะช้ากว่านั้น แต่ทำตลาดภายในปีนี้แน่นอน
จากรถหรูหรา และสปอร์ต ไปจนถึงรถแฟชั่นแล้ว หันไปสำรวจซูเปอร์คาร์กันบ้าง ซึ่งปีนี้สองคู่แข่งเตรียมงัดทีเด็ดออกมาชนกันดุเดือด โดยค่ายม้าลำพอง “เฟอร์รารี่” ภายใต้การทำตลาดของ คาวาลิโน มอเตอร์ แต่เพียงผู้เดียวในไทย ได้ประกาศชัดว่าปีนี้จะนำ “เฟอร์รารี่ 458 สปายเดอร์” (458 Spider) ซูเปอร์คาร์ที่มีจุดเด่นหลังคาแข็งเปิดประทุนพับเก็บได้ เครื่องยนต์วางกลาง ขนาด 4.5 ลิตร 570 แรงม้า และขับเคลื่อนล้อหลัง
ไม่เพียงเท่านั้นจากการเปิดเผยของ “นันทมาลี ภิรมย์ภักดี” บอสใหญ่ของคาวาลิโนฯ ในปีนี้ยังเตรียมจะนำเข้ารุ่น “เอฟ12” (F12) ซึ่งเป็นโฉมใหม่ที่จะมาแทนรุ่น 599 และเป็นซูเปอร์คาร์ที่มีกำลังถึง 700 แรงม้า มาทำเอาใจเศรษฐีไทยพันธุ์แรงด้วย โดยมีสนนราคาอยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท
ทางด้านคู่แข่ง “ลัมบอร์กินี” โดยค่ายนิชคาร์เป็นผู้แทนจำหน่ายในไทย หลังจากเปิดตัวซูเปอร์คาร์ระดับ 700 แรงม้า “อเวนทาดอร์ แอลพี700-4” (Aventador LP700-4 ) ราคา 36.5 ล้านบาท เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เตรียมจะเขย่าตลาดอีกระลอกตั้งแต่ต้นปีงูใหญ่ กับการนำ “ Super Trofeo Stradale” ซึ่งเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือลิมิเต็ดอิดิชันของ “ลัมบอร์กินี กัลญาร์โด” (Gallardo LP570-4) ที่ผลิตออกมาขายทั่วโลกเพียง 150 คันเท่านั้น และเศรษฐีพันธุ์แรงเพียง 3 ราย จะมีโอกาสเป็นหนึ่งในนั้น แลกกับการควักกระเป๋า 26.5 ล้านบาท เพื่อได้ควบซูเปอร์คาร์ที่มีขุมพลัง 570 แรงม้า
เห็นความหรูและแรง ของตลาดรถหรู-สปอร์ตปีนี้แล้ว ต้องบอกว่า... ค่ายรถเหล่านี้จัดเต็มต้อนรับปีงูใหญ่จริงๆ เอ้า! ใครที่กระเป๋าหนักรักจริง เชิญเลือกถอยกันตามสบาย ส่วนพวกกระเป๋าแฟบต้องซี้ดปากกันต่อไป...
