หลังการเปิดตัวยั่วเงินนักขับกระเป๋าหนักในเมืองไทยอย่างเป็นทางการ สำหรับกระทิงดุสายพันธุ์ใหม่ “ลัมบอร์กินี อเวนทาดอร์ แอลพี 700-4” (Lamborghini Aventador LP 700-4) ตามด้วยคำยืนยันของผู้นำเข้ารถแรงแบรนด์ดัง “ถ้าไม่ใช่นิช คาร์ ซ่อมไม่ได้แน่นอน” น้ำเสียงหนักแน่นประโยคนี้จะเป็นเพียงหนึ่งในแผนการตลาด หวังชิงความได้เปรียบจากเกรย์มาร์เกตหรือไม่? ...“ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ร่วมไขคำตอบพร้อมกับช่างเทคนิคชาวอิตาเลียนที่บินตรงจากแดนมักกะโรนี เพื่อมาดูแลโปรเจกต์กระทิงดุรุ่นใหญ่ค่าตัว 36 ล้านบาทโดยเฉพาะ...
ช่างเทคนิคสัญชาติอิตาเลียนคนนี้มีชื่อว่า เซอร์จิโอ สโกทิส (Sergio Scotese) เริ่มต้นอาชีพซ่อมรถยนต์มาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยมีความหลงใหลเครื่องยนต์กลไกต่างๆ และใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องเป็นหนึ่งในทีมงานดูแลซูเปอร์คาร์ระดับโลกให้ได้ ซึ่งในที่สุดวันนั้นก็มาถึง
ประสบการณ์งานเซอร์วิส
“ผมทำงานอยู่วงการรถสปอร์ตมากว่า 25 ปี จากหลายประเทศทั้งแถบยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมารับหน้าที่ดูแลโปรเจกต์ 'อเวนทาดอร์' ให้กับบริษัท นิช คาร์ ในตำแหน่ง Workshop Manager โดยก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านการประเมินความสามารถจากบริษัท Automobili Lamborghini Holding S.p.A and associated companies หรือบริษัทแม่ที่อิตาลี ซึ่งมีมาตรฐานในการคัดเลือกบุคลากรสูงมาก โดยเฉพาะตำแหน่งดูแลรถให้กับลูกค้า”
การอบรมจากโรงงานผู้ผลิต
หลังจากได้รับมอบหมายหน้าที่จากต้นสังกัดที่อิตาลี เจ้าของโปรเจกต์การเลี้ยงดูกระทิงตัวแรงคนนี้ต้องผ่านหลักสูตรการอบรมของโรงงานผลิตซูเปอร์คาร์โดยตรง ซึ่งมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเป็นบททดสอบสุดท้ายก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง
“ผมเคยมาเที่ยวเมืองไทย แต่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำงานที่นี่ จนเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เลยกลับไปฝึกอบรมการเซอร์วิสเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเรียนรู้ระบบทุกอย่างเกี่ยวกับตัวรถ โดยระหว่างการฝึกผมรู้สึกทึ่งในสมรรถนะของอเวนทาดอร์เป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าในชีวิตจะได้สัมผัสและดูแลยนตรกรรมที่ล้ำอนาคตเช่นนี้ ขนาดผมมีประสบการณ์มาเกือบทั้งชีวิต ถ้าไม่มีการอบรมคงเป็นเรื่องยากถ้าคิดจะซ่อม หรือหากซ่อมแบบงูๆ ปลาๆ ลองผิดลองถูกก็คงจะพอถูไถไปได้ แต่รับประกันเลยว่า อนาคตของรถคันนั้นคงไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่อย่างแน่นอน”
นำเข้าเครื่องมือเฉพาะรุ่น
ว่าที่ช่างเทคนิคคนแรกจากลัมบอร์กินีที่กำลังจะเริ่มงานในประเทศไทย เผยต่อว่าสำหรับ อเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 มีความพิเศษของโครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก ซึ่งมีน้ำหนักเบามากเพราะขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน โดยให้ความแข็งแกร่งกว่าโครงสร้างแชสซีย์จากอลูมินั่มอัลลอยที่ใช้กันอยู่ในรถซูเปอร์คาร์ทั่วไป และเป็นสิ่งที่ลูกค้าผู้ซื้อรถไปแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน
“การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงระบบบำรุงรักษาตัวรถเพื่อป้องกันผู้ที่ไม่ใช่ Sole Authorized มาลองผิดลองถูกกับรถ โดยเฉพาะกรณีประสบอุบัติเหตุ การวิเคราะห์ความผิดปกติของโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องมือพิเศษคล้ายเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบ ซึ่งมีแต่นิช คาร์ เท่านั้นที่สามารถนำเข้าและใช้อุปกรณ์นี้ได้”
การบำรุงรักษาเป็นหัวใจสำคัญของซูเปอร์คาร์
แน่นอนว่าการควบคุมรถที่มีความแรงระดับ 700 แรงม้า อย่างเจ้าอเวนทาดอร์ กระทิงรุ่นใหญ่ค่าตัว 36 ล้านบาท นอกจากความระมัดระวังและสติสัมประชัญญะขณะขับขี่ต้องครบถ้วนแล้ว เหนืออื่นใดการหมั่นดูแลความพร้อมของตัวรถก็เป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยสำหรับซูเปอร์คาร์ไม่แพ้กัน
“บนหลังพวงมาลัยความแรงของอเวนทาดอร์ ใกล้เคียงกับรถ F1 มาก แม้ว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว จากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์วางกลาง มีประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ดี ไม่ลื่นไถลหรือท้ายปัดเหมือนกับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่จริงๆ แล้วการจะขับรถรุ่นใด ยี่ห้อใดก็ตาม ต้องขับด้วยความไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง แต่หากเป็นระดับซูเปอร์คาร์ ต้องเหมารวมไปถึงการดูแลรักษาที่มากกว่ารถทั่วไปด้วย”
“อย่างตอนนี้ทางนิช คาร์ได้ลงโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ซื้อลัมบอร์กินี กัลลาร์โด แอลพี 560-4(Lamborghini Gallardo LP 560-4) จากนิช คาร์ เลขแชสซีย์ หรือ Vin No. ตั้งแต่ ALA 09703 ถึง BLA 10493 เข้ามารับบริการเซอร์วิส แคมเปญ ตามมาตรฐานจากอิตาลีเพื่อเปลี่ยนระบบเกียร์ใหม่ทั้งชุด และอัพเกรดซอฟท์แวร์ระบบต่างๆ ของตัวรถ โดยเป็นการรับประกัน 100% ว่ารถลัมบอร์กินีทั่วโลกจะได้รับการบริการที่ดีจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น”
ช่างเทคนิคสัญชาติอิตาเลียนคนนี้มีชื่อว่า เซอร์จิโอ สโกทิส (Sergio Scotese) เริ่มต้นอาชีพซ่อมรถยนต์มาตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยมีความหลงใหลเครื่องยนต์กลไกต่างๆ และใฝ่ฝันว่าสักวันจะต้องเป็นหนึ่งในทีมงานดูแลซูเปอร์คาร์ระดับโลกให้ได้ ซึ่งในที่สุดวันนั้นก็มาถึง
ประสบการณ์งานเซอร์วิส
“ผมทำงานอยู่วงการรถสปอร์ตมากว่า 25 ปี จากหลายประเทศทั้งแถบยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมารับหน้าที่ดูแลโปรเจกต์ 'อเวนทาดอร์' ให้กับบริษัท นิช คาร์ ในตำแหน่ง Workshop Manager โดยก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านการประเมินความสามารถจากบริษัท Automobili Lamborghini Holding S.p.A and associated companies หรือบริษัทแม่ที่อิตาลี ซึ่งมีมาตรฐานในการคัดเลือกบุคลากรสูงมาก โดยเฉพาะตำแหน่งดูแลรถให้กับลูกค้า”
การอบรมจากโรงงานผู้ผลิต
หลังจากได้รับมอบหมายหน้าที่จากต้นสังกัดที่อิตาลี เจ้าของโปรเจกต์การเลี้ยงดูกระทิงตัวแรงคนนี้ต้องผ่านหลักสูตรการอบรมของโรงงานผลิตซูเปอร์คาร์โดยตรง ซึ่งมีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเป็นบททดสอบสุดท้ายก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง
“ผมเคยมาเที่ยวเมืองไทย แต่ไม่เคยคิดว่าจะมาทำงานที่นี่ จนเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เลยกลับไปฝึกอบรมการเซอร์วิสเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเรียนรู้ระบบทุกอย่างเกี่ยวกับตัวรถ โดยระหว่างการฝึกผมรู้สึกทึ่งในสมรรถนะของอเวนทาดอร์เป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าในชีวิตจะได้สัมผัสและดูแลยนตรกรรมที่ล้ำอนาคตเช่นนี้ ขนาดผมมีประสบการณ์มาเกือบทั้งชีวิต ถ้าไม่มีการอบรมคงเป็นเรื่องยากถ้าคิดจะซ่อม หรือหากซ่อมแบบงูๆ ปลาๆ ลองผิดลองถูกก็คงจะพอถูไถไปได้ แต่รับประกันเลยว่า อนาคตของรถคันนั้นคงไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่อย่างแน่นอน”
นำเข้าเครื่องมือเฉพาะรุ่น
ว่าที่ช่างเทคนิคคนแรกจากลัมบอร์กินีที่กำลังจะเริ่มงานในประเทศไทย เผยต่อว่าสำหรับ อเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 มีความพิเศษของโครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก ซึ่งมีน้ำหนักเบามากเพราะขึ้นรูปด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน โดยให้ความแข็งแกร่งกว่าโครงสร้างแชสซีย์จากอลูมินั่มอัลลอยที่ใช้กันอยู่ในรถซูเปอร์คาร์ทั่วไป และเป็นสิ่งที่ลูกค้าผู้ซื้อรถไปแล้วต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน
“การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงระบบบำรุงรักษาตัวรถเพื่อป้องกันผู้ที่ไม่ใช่ Sole Authorized มาลองผิดลองถูกกับรถ โดยเฉพาะกรณีประสบอุบัติเหตุ การวิเคราะห์ความผิดปกติของโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้เครื่องมือพิเศษคล้ายเครื่องเอกซเรย์ตรวจสอบ ซึ่งมีแต่นิช คาร์ เท่านั้นที่สามารถนำเข้าและใช้อุปกรณ์นี้ได้”
การบำรุงรักษาเป็นหัวใจสำคัญของซูเปอร์คาร์
แน่นอนว่าการควบคุมรถที่มีความแรงระดับ 700 แรงม้า อย่างเจ้าอเวนทาดอร์ กระทิงรุ่นใหญ่ค่าตัว 36 ล้านบาท นอกจากความระมัดระวังและสติสัมประชัญญะขณะขับขี่ต้องครบถ้วนแล้ว เหนืออื่นใดการหมั่นดูแลความพร้อมของตัวรถก็เป็นหัวใจสำคัญของความปลอดภัยสำหรับซูเปอร์คาร์ไม่แพ้กัน
“บนหลังพวงมาลัยความแรงของอเวนทาดอร์ ใกล้เคียงกับรถ F1 มาก แม้ว่าเป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว จากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์วางกลาง มีประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ดี ไม่ลื่นไถลหรือท้ายปัดเหมือนกับระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่จริงๆ แล้วการจะขับรถรุ่นใด ยี่ห้อใดก็ตาม ต้องขับด้วยความไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง แต่หากเป็นระดับซูเปอร์คาร์ ต้องเหมารวมไปถึงการดูแลรักษาที่มากกว่ารถทั่วไปด้วย”
“อย่างตอนนี้ทางนิช คาร์ได้ลงโฆษณาและประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ซื้อลัมบอร์กินี กัลลาร์โด แอลพี 560-4(Lamborghini Gallardo LP 560-4) จากนิช คาร์ เลขแชสซีย์ หรือ Vin No. ตั้งแต่ ALA 09703 ถึง BLA 10493 เข้ามารับบริการเซอร์วิส แคมเปญ ตามมาตรฐานจากอิตาลีเพื่อเปลี่ยนระบบเกียร์ใหม่ทั้งชุด และอัพเกรดซอฟท์แวร์ระบบต่างๆ ของตัวรถ โดยเป็นการรับประกัน 100% ว่ารถลัมบอร์กินีทั่วโลกจะได้รับการบริการที่ดีจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น”