ASTVผู้จัดการรายวัน - “จักรพันธุ์” ขึ้นแท่นรักษาการ กก.ผอ.ญ อสมท มีผล25 ม.ค.นี้เป็นต้นไป บอร์ดอสมทลุยต่อ ตั้ง”เปรมกมลย์”เป็นประธานสรรหา หวังกลางปีเห็นหน้าผอ.คนใหม่ ชี้ระหว่าง “สุระ”รักษาการ มีหนังสือยื่นเรื่องร้องเรียน 9 เรื่อง วางใจเลือก”เข็มชัย”ตรวจสอบให้ความเป็นธรรมภายใน 60 วัน
ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วานนี้(24 ม.ค.)คณะกรรมการบอร์ด อสมท ได้มีการจัดประชุมครั้งที่2/2555 ขึ้น ซึ่งมีวาระพิเศษดังนี้ คือ ภายหลังจากที่คณะบอร์ดชุดใหม่ได้เข้ามารับตำแหน่งครบแล้ว ทางนายสุระ เกนทะนะศิล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกำกับดูแลสายงานโทรทัศน์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบอร์ดชุดก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือยื่นกับบอร์ดฯ ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยใจความสำคัญคือ ต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว เพื่อต้องการให้เกียรติและหลีกทางให้กับทางคณะบอร์ดอสมทชุดใหม่ จะได้เข้ามาทำงานได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับช่วงเวลาที่นายสุระ เกนทะนะศิล ทำหน้าที่รักษาการฯอยู่นั้น มีพนักงานในตำแหน่งต่างๆ ได้ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามารวมกว่า 9 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการโยกย้ายในสายงานต่างๆ รวมถึงหนังสือร้องเรียนจากทางอดีตกก.ผอ.ญ คือ นายธนวัฒน์ วันสม ก็ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามาขอความเป็นธรรม กรณีถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยมิชอบด้วยเช่นกันซึ่งไม่มีเรื่องร้องเรียนโดยตรงเกี่ยวกับนายสุระ ทางที่ประชุมบอร์ดฯได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการอนุมัติให้นายสุระ ออกจากตำแหน่ง มีผลการทำงานสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยทางนายสุระ ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมอยู่
โดยหลังจากนายสุระได้ลาออกแล้วนั้น ทางบอร์ดฯพิจารณาแล้วว่า รองกรรมการที่เหลืออีก 3-4 ท่าน ต่างมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสามารถสมัครเข้ามาชิงในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ได้ จึงต้องมองหากรรมการท่านอื่นที่มีคุณสมบัติเพียงพอและอยู่ในวิชาชีพสายงานโทรทัศน์เพื่อเข้านั่งบริหารองค์กรในตำแหน่ง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ในครั้งนี้แทนจนกว่ากระบวนการสรรหาฯจะเสร็จสิ้นลง ซึ่งทางที่ประชุมบอร์ดฯ จึงได้มีมติแต่งตั้ง นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองกรรมการ ทำหน้าที่รักษาการตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และกำกับดูแลสายงานโทรทัศน์แทน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
“ทางด้านนายจักรพันธุ์เองนั้น หลังจากที่รับทราบในการทำหน้าที่รักษาการฯครั้งนี้แล้ว ได้ยืนยันในที่ประชุมบอร์ดฯว่า จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและสั้นที่สุด ส่วนที่ว่าจะสนใจเข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จริงๆหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความสนใจ แต่ในอนาคตไม่รู้ เพราะในความเป็นจริงท่านก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสมัครเข้ามาเช่นกันแต่ทั้งนี้ก็ต้องลงออกจากการทำหน้าที่เป็นรองกรรมการฯ และรักษาการฯในครั้งก่อน”
ส่วนกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้น ทางที่ประชุมบอร์ดฯ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสรรหาฯขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมอบหมายให้ นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา กรรมการอสมท เป็นประธานในการสรรหาฯครั้งนี้ เชื่อว่าภายในกลางปีนี้กระบวนการดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นลง และอสมทน่าจะได้เห็นผู้ที่จะมาทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ได้อย่างไรก็ตามกรณีหนังสือร้องเรียนทั้ง 9 เรื่องนั้น ทางที่ประชุมบอร์ดฯ ได้มอบหมายให้ทางนายเข็มชัย ชุติวงศ์ กรรมการด้านCG เป็นประธานในการพิจารณาหาข้อเท็จจริงและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย คาดว่าทุกเรื่องจะจบลงภายใน 60 วัน
ดร สรจักร กล่าวเสริมด้วยว่า สำหรับเรื่องที่อดีตผอ.ธนวัฒน์ร้องเรียนเข้ามานั้น หากพิจารณาแล้วเป็นความจริง ทางเราก็ต้องมีกระบวนการเยียวยาแก้ไขต่อไปให้ในอนาคต ส่วนจะได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่นั้น จะต้องมาจากการกระบวนการสรรหาฯเท่านั้น เพราะปัจจุบันถือว่านายธนวัฒน์ได้ลาออกจากตำแหน่งนี้ไปแล้ว และถ้าจะกลับมาก็ต้องสมัครเข้ามาใหม่ภายใต้คุณสมบัติที่ทางคณะกรรมการสรรหาฯวางกรอบเอาไว้
อย่างไรก็ตาม สำหรับวาระในเรื่องของ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านข่าวให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ที่ทางบอร์ดฯได้มอบหมายให้นายจักรพันธุ์ เป็นผู้ดูแลร่างแผนนั้น ล่าสุดทางที่ประชุมบอร์ดฯได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้เป็นไปตามแผนที่ยื่นมาเช่นกัน
ดร.สรจักร เกษมสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วานนี้(24 ม.ค.)คณะกรรมการบอร์ด อสมท ได้มีการจัดประชุมครั้งที่2/2555 ขึ้น ซึ่งมีวาระพิเศษดังนี้ คือ ภายหลังจากที่คณะบอร์ดชุดใหม่ได้เข้ามารับตำแหน่งครบแล้ว ทางนายสุระ เกนทะนะศิล รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกำกับดูแลสายงานโทรทัศน์ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากบอร์ดชุดก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือยื่นกับบอร์ดฯ ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยใจความสำคัญคือ ต้องการลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว เพื่อต้องการให้เกียรติและหลีกทางให้กับทางคณะบอร์ดอสมทชุดใหม่ จะได้เข้ามาทำงานได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น
ประกอบกับช่วงเวลาที่นายสุระ เกนทะนะศิล ทำหน้าที่รักษาการฯอยู่นั้น มีพนักงานในตำแหน่งต่างๆ ได้ทำหนังสือร้องเรียนเข้ามารวมกว่า 9 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการโยกย้ายในสายงานต่างๆ รวมถึงหนังสือร้องเรียนจากทางอดีตกก.ผอ.ญ คือ นายธนวัฒน์ วันสม ก็ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนเข้ามาขอความเป็นธรรม กรณีถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยมิชอบด้วยเช่นกันซึ่งไม่มีเรื่องร้องเรียนโดยตรงเกี่ยวกับนายสุระ ทางที่ประชุมบอร์ดฯได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบการอนุมัติให้นายสุระ ออกจากตำแหน่ง มีผลการทำงานสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.นี้เป็นต้นไป โดยทางนายสุระ ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานวิศวกรรมอยู่
โดยหลังจากนายสุระได้ลาออกแล้วนั้น ทางบอร์ดฯพิจารณาแล้วว่า รองกรรมการที่เหลืออีก 3-4 ท่าน ต่างมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสามารถสมัครเข้ามาชิงในตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการคนใหม่ได้ จึงต้องมองหากรรมการท่านอื่นที่มีคุณสมบัติเพียงพอและอยู่ในวิชาชีพสายงานโทรทัศน์เพื่อเข้านั่งบริหารองค์กรในตำแหน่ง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ในครั้งนี้แทนจนกว่ากระบวนการสรรหาฯจะเสร็จสิ้นลง ซึ่งทางที่ประชุมบอร์ดฯ จึงได้มีมติแต่งตั้ง นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองกรรมการ ทำหน้าที่รักษาการตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และกำกับดูแลสายงานโทรทัศน์แทน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
“ทางด้านนายจักรพันธุ์เองนั้น หลังจากที่รับทราบในการทำหน้าที่รักษาการฯครั้งนี้แล้ว ได้ยืนยันในที่ประชุมบอร์ดฯว่า จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและสั้นที่สุด ส่วนที่ว่าจะสนใจเข้ามานั่งในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่จริงๆหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่มีความสนใจ แต่ในอนาคตไม่รู้ เพราะในความเป็นจริงท่านก็มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะสมัครเข้ามาเช่นกันแต่ทั้งนี้ก็ต้องลงออกจากการทำหน้าที่เป็นรองกรรมการฯ และรักษาการฯในครั้งก่อน”
ส่วนกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่นั้น ทางที่ประชุมบอร์ดฯ ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสรรหาฯขึ้นมาดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมอบหมายให้ นายเปรมกมลย์ ทินกร ณ อยุธยา กรรมการอสมท เป็นประธานในการสรรหาฯครั้งนี้ เชื่อว่าภายในกลางปีนี้กระบวนการดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นลง และอสมทน่าจะได้เห็นผู้ที่จะมาทำหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ได้อย่างไรก็ตามกรณีหนังสือร้องเรียนทั้ง 9 เรื่องนั้น ทางที่ประชุมบอร์ดฯ ได้มอบหมายให้ทางนายเข็มชัย ชุติวงศ์ กรรมการด้านCG เป็นประธานในการพิจารณาหาข้อเท็จจริงและสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่าย คาดว่าทุกเรื่องจะจบลงภายใน 60 วัน
ดร สรจักร กล่าวเสริมด้วยว่า สำหรับเรื่องที่อดีตผอ.ธนวัฒน์ร้องเรียนเข้ามานั้น หากพิจารณาแล้วเป็นความจริง ทางเราก็ต้องมีกระบวนการเยียวยาแก้ไขต่อไปให้ในอนาคต ส่วนจะได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่นั้น จะต้องมาจากการกระบวนการสรรหาฯเท่านั้น เพราะปัจจุบันถือว่านายธนวัฒน์ได้ลาออกจากตำแหน่งนี้ไปแล้ว และถ้าจะกลับมาก็ต้องสมัครเข้ามาใหม่ภายใต้คุณสมบัติที่ทางคณะกรรมการสรรหาฯวางกรอบเอาไว้
อย่างไรก็ตาม สำหรับวาระในเรื่องของ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านข่าวให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ที่ทางบอร์ดฯได้มอบหมายให้นายจักรพันธุ์ เป็นผู้ดูแลร่างแผนนั้น ล่าสุดทางที่ประชุมบอร์ดฯได้มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้เป็นไปตามแผนที่ยื่นมาเช่นกัน