รักษาการ กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.อสมท แจง กมธ.พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน สภาฯ ยันยังไม่โละผังช่อง 9 รายการเนชั่น ยังอยู่ ครบ ระบุ ทรูวิชั่นส์ สัญญายังน่าพอใจ ลั่นทำงานเป็นกลาง
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ.เป็นประธานในที่ประชุม และได้มีวาระการพิจารณาตรวจสอบการดำเนินงานของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการบริษัท ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เชิญ นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท โดยเข้าชี้แจง
ในระหว่างการประชุม กมธ.ส่วนใหญ่ได้สอบถามถึงการดำเนินงานของของ อสมท อาทิ การปรับผังรายการที่มีสัดส่วนรายการประเภทข่าวลดลง กระแสข่าวว่าจะมีการปรับผังรายการใหม่ อาทิ รายการข่าวข้น คนข่าว ของ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บมจ.เนชั่น) ที่จะถูกปรับออก การทำสัญญาระหว่าง บริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บมจ.ทรูฯ) กับ อสมท ภายหลังมีการอนุญาตให้มีโฆษณาได้ รวมถึงนโยบายต่างๆต่อจากนี้ในด้านความเป็นกลางทางการเมืองหลังมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่
ซึ่ง นายจักรพันธุ์ ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ผังรายการทั้งหมดยังคงเดิม เหมือนกับในช่วงคณะกรรมการชุดที่แล้ว ที่มี นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานทุกประการ และการปรับผังรายการแต่ละครั้งไม่สามารถแทรกแซงได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่งได้ แต่มีคณะกรรมการจัดผังรายการที่ถูกแต่งตั้งตามมติคณะกรรมการดำเนินการอย่างโปร่งใส และการทำสัญญาระหว่าง อสมท กับ บมจ.เนชั่น มีอยู่หลายรายการ และทั้งหมดยังอยู่ครบ ยังไม่มีแนวทางจะปรับออกแต่อย่างใด สำหรับทำสัญญากับ บมจ.ทรูฯ นั้น เมื่อมีการอนุญาตให้โฆษณาทางเคเบิลทีวีได้ ก็มีการแบ่งสัดส่วนกันตามสัญญา โดย อสมท จะได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ทั้งหมดของ บมจ.ทรูฯ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายร้อยละ 6.5 ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่พึงพอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย
“ผมขอยืนยันถึงความเป็นกลางในการทำหน้าที่ แม้จะเคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ก็เคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาก่อนด้วยเช่นกัน จึงขอยืนยันถึงมาตรฐานทางวิชาชีพสื่อมวลชนที่ อสมท จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงจะให้ความสำคัญถึงการปกป้องสถาบัน เพราะเป็นมาตรฐานวิชาชีพที่ อสมท ยึดถือมาตลอด” นายจักรพันธุ์ ระบุ
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร โดยมี นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธาน กมธ.เป็นประธานในที่ประชุม และได้มีวาระการพิจารณาตรวจสอบการดำเนินงานของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการบริษัท ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เชิญ นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท โดยเข้าชี้แจง
ในระหว่างการประชุม กมธ.ส่วนใหญ่ได้สอบถามถึงการดำเนินงานของของ อสมท อาทิ การปรับผังรายการที่มีสัดส่วนรายการประเภทข่าวลดลง กระแสข่าวว่าจะมีการปรับผังรายการใหม่ อาทิ รายการข่าวข้น คนข่าว ของ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บมจ.เนชั่น) ที่จะถูกปรับออก การทำสัญญาระหว่าง บริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บมจ.ทรูฯ) กับ อสมท ภายหลังมีการอนุญาตให้มีโฆษณาได้ รวมถึงนโยบายต่างๆต่อจากนี้ในด้านความเป็นกลางทางการเมืองหลังมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่
ซึ่ง นายจักรพันธุ์ ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ผังรายการทั้งหมดยังคงเดิม เหมือนกับในช่วงคณะกรรมการชุดที่แล้ว ที่มี นายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นประธานทุกประการ และการปรับผังรายการแต่ละครั้งไม่สามารถแทรกแซงได้ด้วยใครคนใดคนหนึ่งได้ แต่มีคณะกรรมการจัดผังรายการที่ถูกแต่งตั้งตามมติคณะกรรมการดำเนินการอย่างโปร่งใส และการทำสัญญาระหว่าง อสมท กับ บมจ.เนชั่น มีอยู่หลายรายการ และทั้งหมดยังอยู่ครบ ยังไม่มีแนวทางจะปรับออกแต่อย่างใด สำหรับทำสัญญากับ บมจ.ทรูฯ นั้น เมื่อมีการอนุญาตให้โฆษณาทางเคเบิลทีวีได้ ก็มีการแบ่งสัดส่วนกันตามสัญญา โดย อสมท จะได้รับส่วนแบ่งจากรายได้ทั้งหมดของ บมจ.ทรูฯ โดยไม่หักค่าใช้จ่ายร้อยละ 6.5 ซึ่งถือว่าอยู่ในอัตราที่พึงพอใจกันทั้ง 2 ฝ่าย
“ผมขอยืนยันถึงความเป็นกลางในการทำหน้าที่ แม้จะเคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ก็เคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มาก่อนด้วยเช่นกัน จึงขอยืนยันถึงมาตรฐานทางวิชาชีพสื่อมวลชนที่ อสมท จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รวมไปถึงจะให้ความสำคัญถึงการปกป้องสถาบัน เพราะเป็นมาตรฐานวิชาชีพที่ อสมท ยึดถือมาตลอด” นายจักรพันธุ์ ระบุ