คุกวีไอพี มาตรฐานเดียวของคนเสื้อแดง

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ต้องบอกว่าเกิดเป็นคนเสื้อแดง ยุคนี้มันช่างได้อภิสิทธิ์เหนือคนอื่นเสียจริง ไหนจะเพิ่งถูกหวยตูมเบ่อเร้อ ที่มติคณะรัฐมนตรีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เห็นชอบให้จ่ายเงินชดเชยเยียวยาแก่คนเสื้อแดงที่เสียชีวิตตกรายละ 7.75 ล้านบาท ซึ่งคงต้องบอกว่าน่าเศร้าใจกับประชาชนคนไทยผู้เสียภาษีทุกคนเสียเหลือเกิน ที่ต้องมาทนเห็นรัฐบาลปูแดงเอาเงินภาษีประชาชนไปแจกจ่ายให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่แห่ออกมาเผาบ้านเผาเมือง ก่อวินาศกรรมถล่มเมือง เผาศาลากลางจังหวัด จนบางส่วนก็ได้เข้าไปชดใช้กรรมกันในคุก ก็ยังได้ถูกหวยกับเขาด้วยเหมือนกัน

ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ โดยเด็กนายใหญ่ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ตบรางวัลนักโทษเสื้อแดงกว่า 47 คน รับลูกทันควันตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ให้ย้ายไปที่เรือนจำพิเศษหลักสี่

ทั้งนี้ เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ก็เรียกว่าสุดแสนจะวีไอพี เพื่อเอาใจคนเสื้อแดงโดยเฉพาะเลยทีเดียว โดยอนุญาตให้มีการเยี่ยมผู้ต้องขังได้มากกว่าปกติคือจาก 15 นาที เพิ่มเป็น 30 นาที เนื่องจากผู้ต้องขังมีจำนวนน้อย สำหรับตารางกิจกรรมที่เรือนจำฯจัดให้ผู้ต้องขังคือ ตื่นเวลา 06.00 น. รับประทานอาหารเช้า 07.00 น. เคารพธงชาติ 08.00 น. หลังเคารพธงชาติจะฝึกระเบียบแถว หลังรับประทานอาหารเที่ยงเป็นการพักผ่อนตามอัธยาศัย บันเทิง นันทนาการ รับประทานอาหารเย็น 14.30 น. และขึ้นเรือนนอนเวลา 15.30 น. ในกรณีวันหยุดราชการ จะไม่มีฝึกระเบียบแถว และปล่อยให้เป็นเวลาพักผ่อนตลอดทั้งวัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านี่คือที่คุมขังผู้ต้องหาคดีร้ายแรง อาทิ ส.ต.ต.บัณฑิต สิทธิทุม ผู้ต้องขังในคดียิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม เอนก สิงห์ขุนทด ผู้ต้องขังคดีวางระเบิดข้างพรรคภูมิใจไทย และปัทมา มูลมิล ผู้ต้องขังคดีวางเพลิงศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี

เรียกว่าอภิมหาโคตรอภิสิทธิ์ชนก็ไม่ผิดเพี้ยนไปนัก เพราะได้ถูกแยกต่างหากจากผู้กระทำผิดกฎหมายทั่วไป ทั้งๆ ที่ คนเหล่านั้นมีคดีความผิดอาญาร้ายแรงติดตัว ทั้งยิงอาร์พีจี ยิงระเบิด ปล้นปืน วางเพลิงเผาทรัพย์บุกรุกทำลายสถานที่ราชการ ก่อการร้าย เรียกว่ายาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว ถามว่ามันสมควรแล้วหรือไม่..

แถม พ.ต.อ.สุชาติ ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องขังที่กระทำความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น คณะกรรมการกรมราชทัณฑ์มีมติให้ส่งความเห็นและรายชื่อของผู้ต้องขังคดีดังกล่าวไปให้คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.)พิจารณาให้ความเห็นกลับมาว่าผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายได้รับสิทธิในการย้ายไปคุมขังในเรือนจำชั่วคราวหลักสี่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ คอป.เคยให้ข้อเสนอครอบคลุมถึงกลุ่มดังกล่าวด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงรอการตอบกลับจาก คอป.

นอกจากนั้น ว่ากันว่าขณะนี้ กรมราชทัณฑ์กำลังรอคำตอบจาก คอป. เกี่ยวกับการพิจารณาให้ผู้ต้องขังคดีความผิดมาตรา 112 เช่น สุรชัย แซ่ด่าน ,สมยศ พฤกษาเกษมสุข ,ดารณี ชาญเชิงศิลปะกุล ,เลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ หรือโจ การ์ดอน และอำพล ตั้งนพกุลหรืออากง อยู่ในข่ายต้องย้ายที่คุมขังหรือไม่

แปลไทยเป็นไทยก็คือ ผู้ต้องหาผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีหมิ่นประมาท ละเมิดสถาบันเบื้องสูง ก็มีสิทธิ์มานอนสบายตีพุงอยู่ที่นี้เช่นกัน แถมยังจะกลับกลายเป็นว่า การผิดมาตรา112 กลายเป็นประเด็นการเมืองอย่างใดอย่างนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีอาญา แต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน อภิสิทธิ์ของคนเสื้อแดงก็หาได้หมดแค่นั้น ฉับพลันทันที นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรมว.ยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ก็ได้ออกมาแถลงข่าวสร้างความเจ็บปวดใจประชาชนคนไทยผู้เสียภาษีทั้งหลายอีกว่า กองทุนยุติธรรมจะนำเงินไปประกันช่วยเหลือผู้ต้องขัง จากเหตุการณ์ ชุมนุมทางการเมือง ทั่วประเทศ จำนวน 57 ราย โดยหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 ม.ค. อนุมัติเงินงบกลางกว่า 43 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาและจำเลยในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง ตามความเห็นคอป. ที่เห็นควรให้มีการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ

โดยทางกรมคุ้มครองสิทธิฯอยู่ระหว่างประสานกับญาติผู้ต้องขัง และทนายความ ในการเตรียมเอกสาร เพื่อดำเนินการยื่นประกันตัว โดยคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือน ม.ค.นี้จะสามารถยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้

... ตบรางวัลกันแบบนี้ คงต้องบอกว่าสมใจอยากประชาธิปไตยแบบคนเสื้อแดงกันเลยทีเดียว

นี่กระมังกลียุคจริงๆ ของประเทศไทย

นี่กระมังมาตรฐานของคนเสื้อแดงที่ปากป่าวประกาศเรียกร้องให้ยุติ 2 มาตรฐานในบ้านนี้เมืองนี้