ASTVผู้จัดการรายวัน-“มาร์ค”จวก รัฐสองมาตรฐานย้ายนักโทษแดงเข้าเรือนจำพิเศษไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ แนะ รัฐดำเนินนโยบายปรองดองให้สอดคล้องข้อเสนอ คอป.ชี้ชัด ยิงวัดพระแก้ว-เผาสถานที่ราชการ เปรียบเหมือนผู้ก่อการร้ายสากล ยธ.เดินหน้าจัดเงิน 43 ล้าน ประกันตัวเสื้อแดง "ปชป."ฮึดร้องศาลปกครองรอบสาม ปูด รบ.-คนเสื้อแดง ฮั้วนำเงินเยียยวยา 2,000 ล้านตั้งกองทุนเสื้อแดง
วานนี้(18 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการย้ายผู้ต้องขังเสื้อแดงไปยังเรือนจำพิเศษที่บางเขน ว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ควรต้องแจกแจงรายละเอียดว่า การคัดเลือกบุคคลที่ย้ายมามีหลักเกณฑ์อะไร ครอบคลุมทุกคนที่อยู่ในข่ายเดียวกันหรือไม่ และสอดคล้องกับข้อเสนอของ คอป.หรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ว่าเป็นไปไปตามเจตนารมย์ของ คอป.หรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำเช่นนี้ ก็จะเกิดความสงสัยว่า เป็นการทำประโยชน์เพื่อกลุ่ม และพวกตัวเองมากกว่าหลักการหรือไม่
"ผมคิดว่า กรณีการใช้อาวุธยิงวัดพระแก้ว หรือการเผาสถานที่ราชการ จะนำมาอ้างเรื่องแรงจูงใจทางการเมืองไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคดีก่อการร้ายทั้งหมด ก็จะถูกเหมาเป็นเรื่องการเมือง เพราะกลุ่มก่อการร้าย แม้แต่กลุ่มก่อการร้ายสากล ก็อ้างเรื่องอุดมการณ์ ไม่ใช่ทำผิดอาญาตามปกติ จึงไม่ควรนำคนที่ทำผิดในลักษณะนี้มาอ้างในเรื่องแรงจูงใจทางการเมือง ผมคิดว่า ราชทัณฑ์ ต้องแจกแจงให้ละเอียด และคอป.ต้องแสดงจุดยืนเพื่อทำความกระจ่างว่า สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปตรงกับข้อเสนอของ คอป.จริงหรือไม่ " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**ผู้ต้องขังใส่เสื้อแดงกรมคุกต้องแจง**
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ปรากฏ ในการแยกขังคนเสื้อแดงไม่ต้องใส่ชุดผู้ต้องขังแสดงให้เห็นถึงการมีสิทธิเหนือผู้ต้องขังรายอื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้กรมราชทัณฑ์ ต้องมีคำอธิบายว่า แนวปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไร ด้วยเหตุผลอะไร และรัฐบาลก็ควรจะทบทวนการดำเนินการทั้งหมด และอธิบายต่อสาธารณะว่า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอของ คอป.ในแต่ละส่วนอย่างไร โดยเฉพาะสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ มีความเคลือบแคลงว่า จะนำไปสู่ความปรองดองจริงหรือไม่ เพราะคอป. มีเป้าหมายที่จะทำให้สังคมเข้าสู่กระบวนการปรองดอง แต่เมื่อรัฐบาลดำเนินการโดยอ้างว่า เป็นข้อเสนอของ คอป.กลับพบว่าสังคมขัดแย้งเพิ่มขึ้น มีการคัดค้านจากสังคม สิ่งเหล่านี้รัฐบาลควรมีคำตอบว่าจะทำให้เกิดความปรองดองอย่างแท้จริง อย่างไร
**อนุมัติเงิน 43 ล้านประกันเสื้อแดง**
นายถิระชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวเรื่องกองทุนยุติธรรมประกันตัวผู้ต้องขังจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองทั่วประเทศ จำนวน 57 ราย ว่าหลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติเงินงบกลางจำนวนกว่า 43 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา และจำเลยในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง ตามความเห็น ปคอป.ที่เห็นควรให้มีการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า หลังจากได้งบประมาณจำนวน 43 ล้านบาท มาแล้ว ขณะนี้ กรมคุ้มครองสิทธิฯ อยู่ระหว่างประสานกับญาติผู้ต้องขังและทนายความ ในการเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการยื่นประกันตัว โดยคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ จะสามารถยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้
**อัยการยื้อไต่สวนชันสูตรศพเสื้อแดง**
ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งสำนวนคดีชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมชุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ให้อัยการพิจารณาว่า ในส่วนของสำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาแล้ว 5 สำนวน ซึ่งตนได้ส่งต่อให้พนักงานกองคดีอาญาต่างๆรับไปพิจารณาตามเขต สน.ที่เกิดเหตุ โดยไม่มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษแต่อย่างใด
สำหรับสาเหตุที่การพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากในบางสำนวนมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวเนื่องกับสำนวนอื่นที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ทำให้ต้องรอพิจารณาไปพร้อมกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอไต่สวนชันสูตรศพได้ทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนด และต้องขอขยายเวลายื่นคำร้องออกไปแล้ว 1 ครั้งเป็นเวลา 30 วัน และสามารถขอขยายเวลาออกไปได้อีกสองครั้งครั้งละ 30 วัน ทำให้อัยการยังมีเวลาพิจารณาสำนวนคดีได้จนสิ้นถึงเดือนมีนาคม
**“ปชป.ร้องศาลปกครอง รอบสาม**
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังในฐานนะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติการจ่ายเงินเยียวยาสำหรับกรณีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มเสื้อเหลือง ว่า ครม.เงา มีมติไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าวเพราะจะเกิดปัญหาความไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตถึงการใช้จ่ายเงินเยียวยา 2,000 ล้านบาท จะเป็นได้หรือไม่ว่าจะมีการตกลงกันภายในระหว่างรัฐบาลและคนเสื้อแดงว่า จะมีการกันเงินจากเงินเยียวยานี้มาตั้งกองทุนสำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงในการเคลื่อนไหว ซึ่งถ้าเป็นจริงก็เท่ากับว่าเป็นการยักย้ายถ่ายเทเงินงบประมาณ ซึ่งมาจากภาษีประชาชนมาตั้งเป็นกองทุนสนับสนุนคนเสื้อแดง เช่น เสื้อแดงแต่ละรายบอกว่าจะรับเงิน 3-4 ล้านบาท จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีเงินจัดตั้งกองทุน 1,000 ล้านบาท จะยิ่งสร้างความไม่ปรองดองในประเทศ
**ลูกสาวเสธ.แดง เชื่อ ตร.ฆ่าพ่อ **
วันเดียวกัน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บุตรสาว พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง เดินทางมาให้ปากคำ และข้อมูลการเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยระบุว่า เป็นข้อมูลที่ตรงกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ลงมือยิง เสธ.แดง ซึ่งการเดินทางมาให้ข้อมูลครั้งนี้ เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงมีประเด็นที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ด้านพ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การสืบพยานในคดี มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 7 ปาก ส่วนพยานหลักฐานอื่นๆ ก็ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสามารถสรุปได้ว่าการเสียชีวิตของเสธ.แดง เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
วานนี้(18 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการย้ายผู้ต้องขังเสื้อแดงไปยังเรือนจำพิเศษที่บางเขน ว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ควรต้องแจกแจงรายละเอียดว่า การคัดเลือกบุคคลที่ย้ายมามีหลักเกณฑ์อะไร ครอบคลุมทุกคนที่อยู่ในข่ายเดียวกันหรือไม่ และสอดคล้องกับข้อเสนอของ คอป.หรือไม่ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ว่าเป็นไปไปตามเจตนารมย์ของ คอป.หรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำเช่นนี้ ก็จะเกิดความสงสัยว่า เป็นการทำประโยชน์เพื่อกลุ่ม และพวกตัวเองมากกว่าหลักการหรือไม่
"ผมคิดว่า กรณีการใช้อาวุธยิงวัดพระแก้ว หรือการเผาสถานที่ราชการ จะนำมาอ้างเรื่องแรงจูงใจทางการเมืองไม่ได้ ไม่เช่นนั้นคดีก่อการร้ายทั้งหมด ก็จะถูกเหมาเป็นเรื่องการเมือง เพราะกลุ่มก่อการร้าย แม้แต่กลุ่มก่อการร้ายสากล ก็อ้างเรื่องอุดมการณ์ ไม่ใช่ทำผิดอาญาตามปกติ จึงไม่ควรนำคนที่ทำผิดในลักษณะนี้มาอ้างในเรื่องแรงจูงใจทางการเมือง ผมคิดว่า ราชทัณฑ์ ต้องแจกแจงให้ละเอียด และคอป.ต้องแสดงจุดยืนเพื่อทำความกระจ่างว่า สิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปตรงกับข้อเสนอของ คอป.จริงหรือไม่ " นายอภิสิทธิ์ กล่าว
**ผู้ต้องขังใส่เสื้อแดงกรมคุกต้องแจง**
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภาพที่ปรากฏ ในการแยกขังคนเสื้อแดงไม่ต้องใส่ชุดผู้ต้องขังแสดงให้เห็นถึงการมีสิทธิเหนือผู้ต้องขังรายอื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้กรมราชทัณฑ์ ต้องมีคำอธิบายว่า แนวปฏิบัติแตกต่างกันอย่างไร ด้วยเหตุผลอะไร และรัฐบาลก็ควรจะทบทวนการดำเนินการทั้งหมด และอธิบายต่อสาธารณะว่า ได้ดำเนินการตามข้อเสนอของ คอป.ในแต่ละส่วนอย่างไร โดยเฉพาะสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ มีความเคลือบแคลงว่า จะนำไปสู่ความปรองดองจริงหรือไม่ เพราะคอป. มีเป้าหมายที่จะทำให้สังคมเข้าสู่กระบวนการปรองดอง แต่เมื่อรัฐบาลดำเนินการโดยอ้างว่า เป็นข้อเสนอของ คอป.กลับพบว่าสังคมขัดแย้งเพิ่มขึ้น มีการคัดค้านจากสังคม สิ่งเหล่านี้รัฐบาลควรมีคำตอบว่าจะทำให้เกิดความปรองดองอย่างแท้จริง อย่างไร
**อนุมัติเงิน 43 ล้านประกันเสื้อแดง**
นายถิระชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวเรื่องกองทุนยุติธรรมประกันตัวผู้ต้องขังจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองทั่วประเทศ จำนวน 57 ราย ว่าหลังจากคณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติเงินงบกลางจำนวนกว่า 43 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ต้องหา และจำเลยในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับความขัดแย้งทางการเมือง ตามความเห็น ปคอป.ที่เห็นควรให้มีการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า หลังจากได้งบประมาณจำนวน 43 ล้านบาท มาแล้ว ขณะนี้ กรมคุ้มครองสิทธิฯ อยู่ระหว่างประสานกับญาติผู้ต้องขังและทนายความ ในการเตรียมเอกสารเพื่อดำเนินการยื่นประกันตัว โดยคาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ จะสามารถยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้
**อัยการยื้อไต่สวนชันสูตรศพเสื้อแดง**
ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ส่งสำนวนคดีชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมชุมกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ให้อัยการพิจารณาว่า ในส่วนของสำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญาจนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาแล้ว 5 สำนวน ซึ่งตนได้ส่งต่อให้พนักงานกองคดีอาญาต่างๆรับไปพิจารณาตามเขต สน.ที่เกิดเหตุ โดยไม่มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษแต่อย่างใด
สำหรับสาเหตุที่การพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากในบางสำนวนมีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเกี่ยวเนื่องกับสำนวนอื่นที่พนักงานสอบสวนส่งให้อัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ทำให้ต้องรอพิจารณาไปพร้อมกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอไต่สวนชันสูตรศพได้ทันตามเวลาที่กฎหมายกำหนด และต้องขอขยายเวลายื่นคำร้องออกไปแล้ว 1 ครั้งเป็นเวลา 30 วัน และสามารถขอขยายเวลาออกไปได้อีกสองครั้งครั้งละ 30 วัน ทำให้อัยการยังมีเวลาพิจารณาสำนวนคดีได้จนสิ้นถึงเดือนมีนาคม
**“ปชป.ร้องศาลปกครอง รอบสาม**
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังในฐานนะ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติการจ่ายเงินเยียวยาสำหรับกรณีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มเสื้อเหลือง ว่า ครม.เงา มีมติไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าวเพราะจะเกิดปัญหาความไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตถึงการใช้จ่ายเงินเยียวยา 2,000 ล้านบาท จะเป็นได้หรือไม่ว่าจะมีการตกลงกันภายในระหว่างรัฐบาลและคนเสื้อแดงว่า จะมีการกันเงินจากเงินเยียวยานี้มาตั้งกองทุนสำหรับกลุ่มคนเสื้อแดงในการเคลื่อนไหว ซึ่งถ้าเป็นจริงก็เท่ากับว่าเป็นการยักย้ายถ่ายเทเงินงบประมาณ ซึ่งมาจากภาษีประชาชนมาตั้งเป็นกองทุนสนับสนุนคนเสื้อแดง เช่น เสื้อแดงแต่ละรายบอกว่าจะรับเงิน 3-4 ล้านบาท จะทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงจะมีเงินจัดตั้งกองทุน 1,000 ล้านบาท จะยิ่งสร้างความไม่ปรองดองในประเทศ
**ลูกสาวเสธ.แดง เชื่อ ตร.ฆ่าพ่อ **
วันเดียวกัน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บุตรสาว พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง เดินทางมาให้ปากคำ และข้อมูลการเพิ่มเติมกับ พ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยระบุว่า เป็นข้อมูลที่ตรงกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ลงมือยิง เสธ.แดง ซึ่งการเดินทางมาให้ข้อมูลครั้งนี้ เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงมีประเด็นที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ด้านพ.ต.อ.วิชาญวัชร์ บริรักษ์กุล พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การสืบพยานในคดี มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 7 ปาก ส่วนพยานหลักฐานอื่นๆ ก็ยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสามารถสรุปได้ว่าการเสียชีวิตของเสธ.แดง เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ