xs
xsm
sm
md
lg

ครูคนไหนผู้ทำลายความสัมพันธ์พระมหากษัตริย์กับพสกนิกร

เผยแพร่:   โดย: ป.เพชรอริยะ

พวกครู-อาจารย์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กำลังเพี้ยน ร้อนวิชาอย่างหนักในนาม “นิติราษฎร์” หรือ “นิติเรด” พวกเขาได้สุมหัวกันคิดยกเลิกหรือแก้ไขกฎหมายประมวลอาญา ม. 112 ก็แน่นอนว่าพวกเขาเป็นอาจารย์ที่มีหัวแนวคิดซ้ายไปไกลถึงขั้นยกเลิกสถาบันพระมหากษัตริย์

ขณะนี้เราเห็นความโกลาหลบนความขัดแย้งของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ 2 ฝ่าย ฝ่ายซ้ายต้องการลดบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ และสามารถวิจารณ์ กล่าวร้าย นินทาองค์พระมหากษัตริย์และองค์รัชทายาทได้ อย่าง“นายปิยบุตร แสงกนกกุล” หนึ่งในคณาจารย์ “นิติราษฎร์” ม.ธรรมศาสตร์ เสนอ “ห้ามกษัตริย์มีพระราชดำรัสต่อสาธารณะ” ตัวอย่างเยี่ยงนี้เป็นตัวอย่างที่เลวมากในสังคมไทยมันเป็นใครมาจากไหนถึงได้มีแนวคิดดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ถึงเพียงนั้น นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับนักเขียนฝ่ายซ้าย เสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยสรุปใจความที่สำคัญ ดังนี้

1. ยกเลิกมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญาออกจากลักษณะว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร

2. แก้ไขอัตราโทษ โดยไม่บัญญัติอัตราโทษขั้นต่ำเพิ่มโทษปรับลดอัตราโทษขั้นสูงโดยเปรียบเทียบกับอัตราโทษที่ใช้ในกรณีของบุคคลทั่วไปให้การกระทำผิดต่อพระมหากษัตริย์สูงกว่าบุคคลทั่วไป 1 ปี และแยกแยะโทษของการกระทำผิดฐานหมิ่นประมาท และดูหมิ่น

3. บัญญัติเหตุยกเว้นความผิดในกรณีติชมหรือแสดงข้อความโดยสุจริตเพื่อรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ

4. ห้ามบุคคลทั่วไปกล่าวโทษให้สำนักราชเลขาธิการซึ่งมีกองนิติการสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กล่าวโทษ

จะเห็นได้ในขั้นต้นพวกเขาต้องการทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างพระมหากษัตริย์กับพสกนิกร เพื่อต้องการให้พสกนิกรไม่ระแวดระวังภัยต่างๆ ที่อันจะมีต่อองค์พระมหากษัตริย์และสถาบันพระมหากษัตริย์

ขอถามปวงพสกนิกรทั้งหลายว่า พวกเขาคิดได้ไหม ตอบว่าพวกเขาคิดได้ แต่พวกเขาทำได้ไหม ตอบว่าพวกเขาทำไม่ได้คือคำตอบสุดท้าย

หากว่า ไม่คิดจะคิดร้ายต่อพระมหากษัตริย์แล้วไซร้ กฎหมายประมวลอาญา ม. 112 ก็ไม่เป็นผลร้ายกับใคร เว้นแต่พวกวัวสันหลังหวะ

กลับมาดูครูในอุดมคติของชาวไทย “ทุกคนเป็นครู และต้องเป็นครูที่ดีของชาติ” ครูในแนวคำสอนศาสนาพุทธ ครู หรือ ครุ ในภาษาบาลี แปลว่า “หนัก” คือความรู้สึก สำนึก มุ่งมั่น อดทนพัฒนาตนด้วยการศึกษาให้รู้เรื่องนั้นๆ อย่างถ่องแท้ เพื่อมอบความรู้ที่แท้จริงให้กับศิษย์เป็นผู้มุ่งมั่น อดทน พัฒนาตนเพื่อศึกษาสัจธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงเป็น “บรมครู” เพียงพระองค์เดียวในโลกนี้

ครู เป็นผู้ยกแนวคิด จุดยืน คุณธรรม สัจธรรมให้แก่ศิษย์ เป็นผู้เปิดประตูสัจธรรมคำสอนให้แก่ศิษย์ อบรมบ่มเพาะศิษย์ให้พ้นจากสำนึกแบบสัญชาตญาณอันคับแคบ มุ่งสอนให้มีอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการเมือง-การปกครองโดยธรรม

ครู เป็นผู้สร้างโลก สร้างสังคม สร้างชาติ

ครู ย่อมเป็นบุคคลที่มีอุดมคติ เป็นผู้มุ่งมั่นในการแสวงหาสัจธรรม เป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ ครูย่อมมีความอิ่มใจ ชุ่มชื่น ปีติปราโมทย์จากการให้ทานปัญญา เป็นปูชนียบุคคลของศิษย์

ทำไมต้องสอนให้ตั้งใจเรียนศึกษา ทำหน้าที่เพื่อชาติ เพราะโดยปกติคนเรามุ่งมั่นจะเรียนศึกษาทำหน้าที่เพื่อตนเองและครอบครัวอันเป็นไปตามสัญชาตญาณซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องสอน แต่ครูจะต้องสอนในสิ่งใหม่เพื่อยกจุดยืน ยกจิต ยกความคิดศิษย์ให้เกิดความมุ่งมั่นเรียนศึกษาทำหน้าที่เพื่อชาติ หรือเพื่อมนุษยชาติให้พ้นไปจากการคิดตามสัญชาตญาณ

คุณธรรมอันสำคัญของครูในพระพุทธศาสนา กล่าวว่าครูต้องมีคุณธรรมของความเป็นกัลยาณมิตร 7 ประการ ได้แก่

1. ปิโย แปลว่า น่ารัก ทำตัวให้ศิษย์รัก

2. ครุ แปลว่า น่าเคารพ หนักแน่นในจรรยาของความเป็นครู

3. ภาวนิโย แปลว่า มั่นแสวงหาความก้าวหน้า พัฒนาความรู้

4. วตฺตา จ แปลว่า มีความขยันหมั่นแนะนำพร่ำสอน

5. วจนกฺขโม แปลว่า อดทนต่อถ้อยคำกล่าวหา นินทาว่าร้าย

6. คมฺภีรญจกถํกตฺตา แปลว่า สอนสิ่งที่ยากให้เข้าใจง่าย

7. โน จฏฺฐาเน นิโยชเย คือ แปลว่า ไม่ชักจูงศิษย์ไปในทางเสื่อมเสีย

นอกจากนี้ หน้าที่ของครู ได้แก่ (1) แนะนำสั่งสอนดี นำเรื่องดีๆ มาสั่งสอน มีกุศโลบายในการอบรมสั่งสอน (2) ให้เรียนดี สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง พัฒนาให้เกิดความรู้ดี ความคิดดี ความสามารถดี (3) บอกศิลปวิทยาให้ด้วยความเมตตา ไม่ปิดบังอำพราง (4) ยกย่องความดีงาม ความสามารถให้ปรากฏในหมู่เพื่อนฝูง (5) ทำความป้องกันอันตรายในทิศทั้งหลายที่จะมาทำลายศิษย์ (6) เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์

หากว่าครู-อาจารย์ทั่วทั้งประเทศได้ล่วงรู้ว่า ความหายนะประชาชนและประเทศชาติ เกิดจากพวกลัทธิเผด็จการรัฐธรรมนูญ ที่ไปเรียนมาจากฝรั่งเศสบ้าง เยอรมนีบ้าง เป็นพวกที่เรียนแล้วได้มาแต่รูปแบบ แล้วนำมาบังคับใช้กับคนไทย แท้จริงพวกเขาหลงเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงว่า การร่างรัฐธรรมนูญคือการสร้างระบอบประชาธิปไตย หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญคือการทำให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น นี่คือแนวคิดของพวกหลงงมงายไร้สมอง เป็นแนวคิดลัทธิอุบาทว์ที่ทำลายชาติของเราจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

แม้ว่าพวกเขาจะร่างรัฐธรรมนูญในแต่ละมาตราให้ดีที่สุด จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุดเพียงใดก็ตาม จะร่าง และแก้ไขสักร้อยครั้งพันฉบับ ก็ไม่มีวันที่ได้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นในประเทศของเรา “อยากได้ประชาธิปไตย ต้องเรียกร้องสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม” ไม่ใช่ป่วนสร้างความขัดแย้งตามแนวลัทธิมาร์กซ์ ที่สอนว่า “ความขัดแย้งคือความจริงแท้” ย่อมตรงข้าม “สันติ คือความจริงแท้”
กำลังโหลดความคิดเห็น