xs
xsm
sm
md
lg

เยียวยาบุคคล แต่ทำร้ายสังคม

เผยแพร่:   โดย: ชัยพันธุ์ ประภาสะวัต

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม 2555 ในเรื่องอนุมัติการจ่ายเงินงบประมาณกว่า 2 พันล้านบาท เพื่อช่วยเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ใหม่ที่ได้ให้แก่ผู้เสียชีวิตถึงรายละ 7.75 ล้านบาท เป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้ารายละ 3 ล้านบาท ค่าทำศพรายละ 2.5 แสนบาท และยังมีเงินฝากไว้ให้อีกรายละ 4.5 ล้านบาท ส่วนเงินชดเชยสำหรับผู้ที่บาดเจ็บทุพพลภาพก็จะได้รับเป็นจำนวนเงินที่ลดหลั่นกันลงมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ชี้แจงชัดเจนว่าจะจ่ายให้กับผู้เสียชีวิตที่ราชดำเนินและราชประสงค์ 91 ศพก่อนเป็นกรณีแรก เท่ากับว่าเจตนาและจงใจที่จะมอบเงินชดเชยแก่กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นพวกเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

การให้เงินตอบแทนส่วนนี้เป็นไปตามที่เคยให้สัญญากันไว้ ในช่วงที่มีการปลุกระดมประชาชนให้มาร่วมชุมนุม เพราะชาวบ้านในต่างจังหวัดหลายรายยืนยันว่าแกนนำเสื้อแดงรับปากว่าหากเสียชีวิตจะจ่ายให้รายละ 5 ล้านบาท และดูแลลูกเมียให้อย่างดี หลายรายสั่งเสียลูกเมียไว้ว่าเขาไปทำงาน โดยได้รับเงินค่าจ้างเป็นรายวัน และหากเป็นอะไรไปลูกเมียก็จะได้อยู่อย่างสบาย ไม่ต้องลำบากปากกัดตีนถีบกันอีกต่อไป คนที่มารับจ้างชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองของตัวเอง ทำไปทั้งหมดเพื่อเงินและครอบครัวของตัวเอง วันนี้กำลังจะได้รับการปูนบำเหน็จ เป็นวีรชนเพื่อประชาธิปไตย

สิ่งที่เขียนมานี้ไม่ได้กล่าวหาโดยเลื่อนลอย มีพยานบุคคล มีการสืบสวนสอบสวนจากหลายฝ่าย ทั้งหมดยังไม่จบสิ้นกระบวนความ บางรายถูกจับกุมในขณะกำลังวางเพลิงเผาศาลากลางจังหวัด และถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีนักรบรับจ้างที่เป็นชายชุดดำ ซึ่งบาดเจ็บและเสียชีวิตปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ที่จะได้รับเงินเยียวยาในครั้งนี้ด้วย

การสืบสวนสอบสวนในเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน กระบวนการต่างๆ ยังดำเนินไปไม่จบสิ้น แต่รัฐบาลกลับด่วนสรุปและมีมติ ครม.ออกมาเพื่อจ่ายเงินเยียวยาก้อนโตให้กับคนของตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ยอมรับไม่ได้ และมีปฏิกิริยาในทางลบ แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจที่จะทบทวนหรือชี้แจงต่อสังคมอย่างโปร่งใส นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ กล่าวอ้างว่าไม่ได้คิดเอง เพียงแต่ทำตามคำแนะนำของ อ.คณิต ณ นคร และคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่รัฐบาลชุดที่แล้วตั้งขึ้น ในข้อเสนอของ คอป. ไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องเงินอย่างเดียว เนื่องจากการเยียวยามีปัจจัยหลายด้าน

คณะกรรมการชุดนายอานันท์ ปันยารชุน และชุดของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี กลับไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง ทั้งที่หมดเงินงบประมาณไปหลายร้อยล้านบาทกับการค้นหาความจริงและหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคมและการเมือง เพื่อความปรองดองของคนในชาติ

คงไม่อาจกล่าวประณามกลุ่มผู้ชุมนุมของคนเสื้อแดงว่าเป็นผู้รับจ้างไปทั้งหมด แน่นอนว่าคนที่มีอุดมการณ์เพื่อประชาธิปไตยก็มีปะปนอยู่ด้วยเช่นกัน แต่พฤติกรรมการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรงมาตลอด นับแต่ปี 2552 ที่เผารถเมล์วอดวายไปหลายสิบคัน ชาวบ้านที่นางเลิ้งถูกยิงตายเพราะปกป้องไม่ให้คนมาเผาบ้านตัวเอง การทำร้ายร่างกายเลขาธิการนายกรัฐมนตรี การบุกเข้าไปทุบรถนายกรัฐมนตรีและเจตนาทำร้าย การบุกเข้าไปก่อความไม่สงบทำลายการประชุมใหญ่ของอาเซียนที่พัทยา สิ่งเหล่านี้จะเรียกว่าการชุมนุมโดยสงบได้หรือไม่

ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 มีกลุ่มชายชุดดำซึ่งพกอาวุธร้ายแรงเข้ามาปะปนอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง เกิดการต่อสู้และทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์ จะนับเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธตามที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวอ้างได้อย่างไร ผู้บาดเจ็บบางรายถูกยิงขณะที่กำลังทุบทำลายทรัพย์สินส่วนบุคคลในห้างสรรพสินค้าและกำลังโจรกรรมทรัพย์สินสูญหายเป็นจำนวนมาก เครื่องเพชรเครื่องทองหลายรายการถูกค้นพบในรถเบนซ์ของภรรยาแกนนำกลุ่ม นปช.คดีความหายไปไหน คนเหล่านี้หรือที่เรียกว่าวีรบุรุษประชาธิปไตย กลุ่มคนที่บุกเข้าปล้นและทำลายทรัพย์สินส่วนบุคคลอย่างอุกอาจกลางเมือง ก่อจลาจลเผาบ้านเมือง ผู้ก่อการร้ายเช่นนี้กลับกลายเป็นคนที่สมควรได้รับการเยียวยาจากภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ

14 ตุลาคม 2516 นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนจำนวนมากที่มารวมตัวกันเรียกร้องประชาธิปไตย ถูกยิงเสียชีวิตนับร้อย ทุกวันนี้ครอบครัวของคนเหล่านั้นยังอยู่กันอย่างอนาถา

6 ตุลาคม 2519 เป็นอีกครั้งที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บางรายถูกแขวนคอใต้ต้นมะขาม ร่างผู้เสียชีวิตถูกกระทำอย่างทารุณ อนุสรณ์สถานยังไม่เคยมี และไม่มีการเยียวยาใดๆ จนกลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในสังคมมาจนถึงทุกวันนี้

พฤษภาทมิฬ ปี 2535 จนถึงบัดนี้ยังสร้างอนุสรณ์สถานไม่ได้ การช่วยเหลือเยียวยาก็ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ

ปี 2540 การชุมนุมของสมัชชาคนจน ชาวบ้านกว่า 20,000 คนจาก 121 กรณีปัญหา 35 จังหวัด ที่ออกมาชุมนุมร่วมกันเพื่อทวงสัญญาจากรัฐบาล หลังผ่านมาหลายรัฐบาลแต่ข้อเรียกร้องของพวกเขาไม่เคยได้รับการแก้ปัญหา พวกเขาจึงออกมาเรียกร้องให้ปฏิรูปการแก้ไขปัญหาคนจนทั้งระบบ นับเป็นการชุมนุมครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของประเทศไทยซึ่งยืดเยื้อยาวนานเป็นประวัติการณ์ โดยอาศัยความอดทนและยึดแนวทางการต่อสู้แบบสันติวิธี จนได้รับการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง จนนำไปสู่การออกมติ ครม.และแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหาขึ้นในสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ จากการชุมนุมครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตในระหว่างการชุมนุม 8 ราย แท้งลูก 3 ราย ครอบครัวของผู้ชุมนุมทางการเมืองเช่นนี้สมควรได้รับการเยียวยาด้วยหรือไม่

นี่ยังไม่นับรวมกรณีการสลายการชุมนุมเรื่องท่อแก๊สที่หาดใหญ่ ตากใบ กรือเซะ ตลอดจนข้าราชการ ทหาร ตำรวจที่เสียชีวิตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกจำนวนไม่น้อย บุคคลเหล่านี้ก็คือคนเสมอกันตามรัฐธรรมนูญ ผู้บัญชาการทหารบกควรออกมาปกป้องลูกน้องตัวเองด้วย แทนที่จะห้ามคนอื่นเอาทหารเข้าไปยุ่ง ทหารก็คือคนมีหัวใจเหมือนกัน เสือต้องหยิ่งผยองหากินเอง ไม่ใช่หาเศษหาเลยจากงบประมาณของแผ่นดิน การทำลายระบบนิติธรรม ย่อมเป็นการทำลายความมั่นคงของประเทศเช่นกัน

การปล้นเงินภาษีของประชาชนทั้งชาติไปให้กลุ่มคนที่ออกมาร่วมกันเผาบ้านเผาเมือง ในขณะที่ครูชายแดนซึ่งสละชีวิตเพื่อปกป้องศิษย์ หรือทหาร ตำรวจ ซึ่งเสียชีวิตจากการรักษากฎหมายและปกป้องอธิปไตยของชาติ อีกทั้งครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอีกหลายกรณีที่ได้กล่าวไปแล้วยังไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเท่าเทียมกัน พวกเขาจะเจ็บช้ำขนาดไหนที่ถูกเหยียบอกเอาอย่างนี้

มาตรการเยียวยาของรัฐบาลในครั้งนี้ เป็นการสร้างความแตกแยกครั้งใหญ่ในสังคมไทย ไม่ใช่การปรองดองแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น