"มาร์ค"ห่วงเศรษฐกิจปีนี้ผันผวน ชี้หลายปัจจัยเปราะบาง แต่ยังหวังรัฐบาลบริหารดี ไทยอาจได้เป็นศูนย์กลางอาเซียน เตือนต้องมองภาพรวม พร้อมเร่งฟื้นฟูชีวิตประชาชนหลังน้ำท่วม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึง เศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี 2555 ว่า มองด้วยความเป็นห่วง แต่ตนยังมั่นใจว่าพื้นฐานหลายอย่างของเศรษฐกิจจะทำให้เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายหลายอย่างได้ ตนยังเชื่อมั่นว่า ฐานะของการเงิน การคลัง ยังมีความเข้มแข็งอยู่ และพื้นฐานของเราเรื่อง ขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งการเป็นผู้ส่งออกอาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้จะยังช่วยเราอยู่ แต่สิ่งที่จะเป็นปัจจัยว่าเราจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์หรือเราจะกินทุนตัวเองไปเรื่อยก็คือ การบริหารจัดการของรัฐบาล และในภาวะที่มีหลายปัจจัยทำให้เกิดเปราะบางในเรื่องของความเชื่อมั่นขึ้น การบริหารจัดการยิ่งมีความสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเทศไทยยังจะเป็นศูนย์กลางในด้านอุตสาหกรรมการผลิตต่อไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังมองว่า จากการรวมตัวของอาเซียนที่จะเกิดขึ้นและตำแหน่งที่นั่งของประเทศไทยเรายังอยู่ในฐานะที่ดีที่จะเป็นศูนย์กลางในหลายๆด้าน
ส่วนประชาชนควรเตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจในปี 2555 อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนจำนวนไม่น้อย ก็จะเริ่มต้นปี 2555 จากความพยายามในการที่จะฟื้นฟูชีวิตของตัวเองจากผลกระทบจากน้ำท่วมไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม หลายคนต้องมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นภาวะตรงนี้รัฐบาลควรเอาใจใส่และสนับสนุนให้เขาสามารถฟื้นตัวเองขึ้นมาได้โดยเร็วที่สุด ส่วนหลังจากนั้นไปก็จะเป็นการเดินหน้าในการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในการสร้างโอกาสและสวัสดิการให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า ปี 2555 ราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในปี 54 สังคมไทยจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัจจัยหลายอย่างเราพยากรณ์ยากเช่น จะมีภัยพิบัติขึ้นหรือไม่ ความผันผวนในเศรษฐกิจโลก แนวโน้มของราคาน้ำมัน ฯลฯ ก็ยังตอบยาก แต่ว่าสิ่งที่ตนคิดว่าเราจะต้องคุ้นเคยมากขึ้นก็คือ ความผันผวน เพราะฉะนั้นการบริหารความเสี่ยงจะเป็นหัวใจสำคัญสำหรับองค์กรหรือประชาชน ในการที่จะอยู่รอด อยู่ได้ ในยุคนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึง เศรษฐกิจของประเทศในช่วงปี 2555 ว่า มองด้วยความเป็นห่วง แต่ตนยังมั่นใจว่าพื้นฐานหลายอย่างของเศรษฐกิจจะทำให้เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเสียหายหลายอย่างได้ ตนยังเชื่อมั่นว่า ฐานะของการเงิน การคลัง ยังมีความเข้มแข็งอยู่ และพื้นฐานของเราเรื่อง ขีดความสามารถในการแข่งขัน ทั้งการเป็นผู้ส่งออกอาหาร เป็นแหล่งท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้จะยังช่วยเราอยู่ แต่สิ่งที่จะเป็นปัจจัยว่าเราจะใช้ตรงนี้ให้เป็นประโยชน์หรือเราจะกินทุนตัวเองไปเรื่อยก็คือ การบริหารจัดการของรัฐบาล และในภาวะที่มีหลายปัจจัยทำให้เกิดเปราะบางในเรื่องของความเชื่อมั่นขึ้น การบริหารจัดการยิ่งมีความสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเทศไทยยังจะเป็นศูนย์กลางในด้านอุตสาหกรรมการผลิตต่อไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังมองว่า จากการรวมตัวของอาเซียนที่จะเกิดขึ้นและตำแหน่งที่นั่งของประเทศไทยเรายังอยู่ในฐานะที่ดีที่จะเป็นศูนย์กลางในหลายๆด้าน
ส่วนประชาชนควรเตรียมตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจในปี 2555 อย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าประชาชนจำนวนไม่น้อย ก็จะเริ่มต้นปี 2555 จากความพยายามในการที่จะฟื้นฟูชีวิตของตัวเองจากผลกระทบจากน้ำท่วมไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม หลายคนต้องมีภาระเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นภาวะตรงนี้รัฐบาลควรเอาใจใส่และสนับสนุนให้เขาสามารถฟื้นตัวเองขึ้นมาได้โดยเร็วที่สุด ส่วนหลังจากนั้นไปก็จะเป็นการเดินหน้าในการสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในการสร้างโอกาสและสวัสดิการให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า ปี 2555 ราคาสินค้าจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในปี 54 สังคมไทยจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัจจัยหลายอย่างเราพยากรณ์ยากเช่น จะมีภัยพิบัติขึ้นหรือไม่ ความผันผวนในเศรษฐกิจโลก แนวโน้มของราคาน้ำมัน ฯลฯ ก็ยังตอบยาก แต่ว่าสิ่งที่ตนคิดว่าเราจะต้องคุ้นเคยมากขึ้นก็คือ ความผันผวน เพราะฉะนั้นการบริหารความเสี่ยงจะเป็นหัวใจสำคัญสำหรับองค์กรหรือประชาชน ในการที่จะอยู่รอด อยู่ได้ ในยุคนี้