สถาบันอาหารร่วมกับ 2 องค์กรเศรษฐกิจ สภาหอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรม ออกโรงแจงผลกระทบน้ำท่วม ต่ออุตสาหกรรมอาหารเสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท จากโรงงานที่ได้รับความเสียหายกว่า 1,300 โรงงาน ส่งผลต่อการคาดการณ์การเติบโตไตรมาสสุดท้ายเหลือเพียงร้อยละ 0.8 ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนพฤศจิกายน 2554 อยู่ที่ 47.7 เผยเป็นครั้งแรกที่ดัชนีความเชื่อมั่นด้านอาหารลดลง ชี้การเติบโตปี 2555 ยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยง ทั้งวิกฤตหนี้ยุโรป และปัญหาภัยธรรมชาติที่ต้องเฝ้าระวัง
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น คาดว่าในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารได้รับผลกระทบขั้นต่ำ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากการหยุดกิจการขั้นต่ำ 3 เดือน โดยมีโรงงานที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศกว่า 1,300 ราย หรือร้อยละ 15 ของโรงงานอาหารทั้งหมด เป็นโรงงานทางภาคเหนือ และภาคกลาง โดยโรงงานที่น้ำท่วมขั้นรุนแรงประมาณ 350 ราย ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 950 ราย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการปรับคาดการณ์มูลค่าการส่งออกอาหารปี 2554 ใหม่ เนื่องจากมีหลายโรงงานเป็นโรงงานขนาดใหญ่ และขนาดกลางที่มีการส่งออกเป็นหลัก โดยการส่งออกอาหารในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554 มีประมาณ 28.53 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 812,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2553 ส่วนในไตรมาส 4 คาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวเพราะผลกระทบจากอุทกภัย โดยคาดว่าการส่งออกอาหารจะขยายตัวเพิ่มร้อยละ 13.9 คิดเป็นมูลค่า 229,747 ล้านบาท โดยภาพรวมการส่งออกอาหารไทยปี 2554 มีมูลค่า 963,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอหารไทย ปี 2555 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 971,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 0.8 สินค้ามีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ ไก่ และสัตว์ปีก จะขยายตัวได้ดีในตลาดยุโรปและญี่ปุ่น ในขณะที่ข้าวในปีหน้า คาดว่าจะมีการส่งออกข้าวลดลง เพราะมีปริมาณข้าวจากประเทศคู่แข่งออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับข้าวไทยมีราคาสูงแข่งขันได้ยาก
ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมอาหาร ในเดือนพฤศจิกายน 2554 พบว่าอยู่ในภาวะที่ลดลง อยู่ที่ระดับ 47.7 ตัวแปรสำคัญอยู่ที่การจ้างงานและ ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมอาหารที่ดัชนีความเชื่อมั่นลดลง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม
นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2555 ในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารไทย ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในหลายด้าน ที่ต้องรับมือ อาทิ วิกฤตหนี้ยุโรปจะบานปลายกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง และต้องจับตาดูความผันผวนของค่าเงินยูโร ที่จะมากระทบต่อากรส่งออกไปตลาดอียู ขณะเดียวกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจจะส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบ และความเสี่ยงที่เกิดจากการที่โรงงานตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นต้น
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงผลกระทบจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา ว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้น คาดว่าในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารได้รับผลกระทบขั้นต่ำ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากการหยุดกิจการขั้นต่ำ 3 เดือน โดยมีโรงงานที่ได้รับผลกระทบทั่วประเทศกว่า 1,300 ราย หรือร้อยละ 15 ของโรงงานอาหารทั้งหมด เป็นโรงงานทางภาคเหนือ และภาคกลาง โดยโรงงานที่น้ำท่วมขั้นรุนแรงประมาณ 350 ราย ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 950 ราย
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้มีการปรับคาดการณ์มูลค่าการส่งออกอาหารปี 2554 ใหม่ เนื่องจากมีหลายโรงงานเป็นโรงงานขนาดใหญ่ และขนาดกลางที่มีการส่งออกเป็นหลัก โดยการส่งออกอาหารในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554 มีประมาณ 28.53 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 812,553 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2553 ส่วนในไตรมาส 4 คาดว่าการส่งออกจะชะลอตัวเพราะผลกระทบจากอุทกภัย โดยคาดว่าการส่งออกอาหารจะขยายตัวเพิ่มร้อยละ 13.9 คิดเป็นมูลค่า 229,747 ล้านบาท โดยภาพรวมการส่งออกอาหารไทยปี 2554 มีมูลค่า 963,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอหารไทย ปี 2555 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 971,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มร้อยละ 0.8 สินค้ามีแนวโน้มขยายตัวดี ได้แก่ ไก่ และสัตว์ปีก จะขยายตัวได้ดีในตลาดยุโรปและญี่ปุ่น ในขณะที่ข้าวในปีหน้า คาดว่าจะมีการส่งออกข้าวลดลง เพราะมีปริมาณข้าวจากประเทศคู่แข่งออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับข้าวไทยมีราคาสูงแข่งขันได้ยาก
ในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรมอาหาร ในเดือนพฤศจิกายน 2554 พบว่าอยู่ในภาวะที่ลดลง อยู่ที่ระดับ 47.7 ตัวแปรสำคัญอยู่ที่การจ้างงานและ ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมอาหารที่ดัชนีความเชื่อมั่นลดลง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นน่าจะกลับมาดีเหมือนเดิม
นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2555 ในส่วนของอุตสาหกรรมอาหารไทย ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงในหลายด้าน ที่ต้องรับมือ อาทิ วิกฤตหนี้ยุโรปจะบานปลายกระทบเศรษฐกิจโลกอย่างต่อเนื่อง และต้องจับตาดูความผันผวนของค่าเงินยูโร ที่จะมากระทบต่อากรส่งออกไปตลาดอียู ขณะเดียวกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติที่อาจจะส่งผลต่อปริมาณวัตถุดิบ และความเสี่ยงที่เกิดจากการที่โรงงานตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นต้น
