ตรัง - เจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋องชื่อดัง “ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม” เตรียมพร้อม และเตรียมใจรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหลัง 1 เม.ย.นี้ หลังรัฐบาลประกาศให้ปรับขึ้นค่าแรงงานทีเดียว 40%
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และประธานกรรมการอำนวยการบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกอาหารกระป๋องรายใหญ่ในเครือปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดตรังจะมีการปรับขึ้นค่าแรงงานในวันที่ 1 เมษายนนี้ จากเดิมวันละ 175 บาท เป็นวันละ 244 บาท หรือเพิ่มขึ้นถึงวันละ 40% นั้น ได้สร้างผลกระทบให้กับผู้ประกอบการที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก แม้ว่าส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะจ่ายค่าแรงงานในระดับใกล้เคียงตัวเลขดังกล่าวแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ ปัญหาสำคัญมาจากผลกระทบด้านต้นทุนที่จะสูงขึ้นตามมา โดยเฉพาะธุรกิจต่อเนื่องกับทางโรงงานในส่วนกลาง เช่น วัตถุดิบ กระป๋อง กล่องกระดาษ เนื่องจากผู้ประกอบการที่เป็นคู่ค้าต่างก็ประสบปัญหา ต้องปรับขึ้นค่าแรงงานตามที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นกัน จนอาจจะส่งผลให้ต้องปรับขึ้นราคาสินค้าที่ส่งมายังโรงงานในต่างจังหวัด ซึ่งปกติก็ต้องแบกรับภาระต้นทุนต่างๆ ที่คาดว่าจะสูงขึ้นถึง 10% อยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังจะต้องคงแรงงานทั้งหมดไว้ตามเดิม และให้สวัสดิการต่างๆ เหมือนเดิม เพื่อขวัญกำลังใจของการทำงาน
โดยธุรกิจในเครือปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม ได้เตรียมการรับมือมาระยะหนึ่งแล้ว และกำลังรอดูสถานการณ์ของโรงงานในส่วนกลางอีกครั้ง หลังจากวันที่ 1 เมษายนไปแล้ว รวมทั้งจะเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจให้เพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิต และไม่กระทบต่อคุณภาพของสินค้า แต่สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าในอนาคตก็คือ ปัญหาแรงงานขาดแคลน แม้จะนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาแล้วก็ยังไม่ค่อยเพียงพอ ซึ่งในอนาคตอาจจำเป็นต้องนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เพื่อแก้ปัญหาและควบคุมต้นทุนในส่วนนี้ มิเช่นนั้นผู้ประกอบการก็คงไม่สามารถอยู่ได้
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า แม้โรงงานบางแห่งจะจ่ายค่าแรงงานรายวันสูงใกล้เคียงกับที่จะมีการปรับขึ้นในวันที่ 1 เมษายนนี้ แต่การปรับขึ้นค่าแรงงานครั้งเดียวสูงเช่นนี้ ก็มีผลกระทบกับโรงงานอีกบางแห่งเหมือนกัน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการประมงและต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันก็ค่อนข้างขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก แม้จะนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาแล้วก็ตาม จนเกรงว่าอาจทำให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปอย่างยากลำบาก