นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรมราชทัณฑ์ เตรียมแยกผู้ต้องขัง เข้าไปอยู่ในคุกการเมืองที่ในขณะนี้มีจำนวน 50 คน และยังระบุว่า ผู้ที่กระทำผิดในคดีอาญาที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ถือเป็นนักโทษการเมือง ว่า เรื่องนี้ทางกรมราชทัณฑ์ จะต้องระมัดระวัง เพราะว่ากรณีที่พูดถึงนักโทษการเมือง มันเป็นเรื่องที่เข้าใจทั้งประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ว่า ความผิดใดบ้างที่เข้าข่ายความผิดทางการเมือง นักโทษประเภทไหน ที่เป็นนักโทษทางการเมือง เพราะฉะนั้น กรมราชทัณฑ์จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามแนวทางที่เขาปฏิบัติกันในสากล อย่าไปทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกของประชาชน เพื่อที่จะเอาใจผู้มีอำนาจ เพราะจะทำให้เข้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างมติครม. และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) นายสุเทพ กล่าวว่า อาจจะอ้างไม่ถูก ตนไม่คิดว่า คอป.จะเสนออะไรที่กว้างไป จนหาขอบเขตไม่ได้ เช่น ฆ่าคนตายแล้วบอกว่ามีเหตุจูงใจทางการเมือง ส่วนที่มีการอ้างว่า การแยกผู้ต้องขังเพื่อนำไปสู่ความปรองดองนั้น ตนคิดว่า การพูดถึงเรื่องปรองดอง เป็นเรื่องที่ดี ใครยกคำว่า ปรองดองขึ้นมาพูด พี่น้องประชาชนก็รู้สึกสบายใจ แต่คำว่าปรองดองที่พูดนั้น ไม่ได้หมายความว่า พูดเฉพาะปาก แต่กระทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ปรองดองไม่ได้หมายความว่า ยกเว้นให้ผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง กฎหมายอาญาได้รับการยกเว้น อย่างนั้นก็ไม่เรียกว่าปรองดอง ประชาชนก็รับไม่ได้
**จี้เปิดเผยรายชื่อนักโทษการเมือง
เมื่อถามว่า รัฐบาลเริ่มต้นแบบนี้ คิดว่าจะเกิดปัญหาอะไรต่อสังคมตามมาบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนก็ติดตาม มีความคิดความเห็น หากรัฐบาลพูดอย่าง ทำอย่าง ประชาชนเขาก็รับไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่สามารถอยู่เป็นรัฐบาลได้ ขณะที่การเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องขังที่จะไปอยู่ในคุกการเมืองนั้น ตนคิดว่า กรมราชทัณฑ์ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนได้ทราบ และก็อธิบายให้ชัดเจนว่า คนนี้เป็นนักโทษการเมือง เพราะอะไร แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่เปิดเผย วันนี้เรามีกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารสื่อมวลชน ประชาชนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ และเมื่อถึงเวลานั้น กรมราชทัณฑ์ ยังปิดบังอยู่ กรมราชทัณฑ์ ก็จะมีปัญหา
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะเป็นการเลือกปฏิบัติ กับผู้ต้องขังรายอื่นๆหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถูกต้อง คนทำความผิดคดีอาญาเหมือนกัน แต่อีกคนถูกอ้างว่า มีเหตุจูงใจมาจากการเมือง และได้ไปอยู่ในคุกที่สุขสบาย มีสปา มีฟิตเนส แต่นักโทษคนอื่นๆ ที่กระทำความผิดเดียวกัน มีความทุกข์ มีความลำบากอยู่ในคุกที่คับแคบ มันก็เรียกว่าสองมาตรฐาน
เมื่อถามว่า คอป. ควรแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ข้อเสนอของตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ตนคิดว่า คอป.ควรที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ให้คำจำกัดความให้ชัดว่า นักโทษการเมืองที่ คอป. หมายถึง คือ ผู้ที่กระทำความผิดอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ใครเขาอ้างว่า เป็นข้อเสนอของคอป. และนำไปใช้ผิดๆ เมื่อ ถามย้ำว่า หากรัฐบาลทำเกินเลยไปจากข้อเสนอของ คอป. รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. เรามีหน้าที่ที่จะตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว เราก็จะร่วมตรวจสอบ ร่วมกับพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างมติครม. และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) นายสุเทพ กล่าวว่า อาจจะอ้างไม่ถูก ตนไม่คิดว่า คอป.จะเสนออะไรที่กว้างไป จนหาขอบเขตไม่ได้ เช่น ฆ่าคนตายแล้วบอกว่ามีเหตุจูงใจทางการเมือง ส่วนที่มีการอ้างว่า การแยกผู้ต้องขังเพื่อนำไปสู่ความปรองดองนั้น ตนคิดว่า การพูดถึงเรื่องปรองดอง เป็นเรื่องที่ดี ใครยกคำว่า ปรองดองขึ้นมาพูด พี่น้องประชาชนก็รู้สึกสบายใจ แต่คำว่าปรองดองที่พูดนั้น ไม่ได้หมายความว่า พูดเฉพาะปาก แต่กระทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม ปรองดองไม่ได้หมายความว่า ยกเว้นให้ผู้ที่กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมือง กฎหมายอาญาได้รับการยกเว้น อย่างนั้นก็ไม่เรียกว่าปรองดอง ประชาชนก็รับไม่ได้
**จี้เปิดเผยรายชื่อนักโทษการเมือง
เมื่อถามว่า รัฐบาลเริ่มต้นแบบนี้ คิดว่าจะเกิดปัญหาอะไรต่อสังคมตามมาบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนก็ติดตาม มีความคิดความเห็น หากรัฐบาลพูดอย่าง ทำอย่าง ประชาชนเขาก็รับไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่สามารถอยู่เป็นรัฐบาลได้ ขณะที่การเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องขังที่จะไปอยู่ในคุกการเมืองนั้น ตนคิดว่า กรมราชทัณฑ์ สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนได้ทราบ และก็อธิบายให้ชัดเจนว่า คนนี้เป็นนักโทษการเมือง เพราะอะไร แต่ถ้ากรมราชทัณฑ์ไม่เปิดเผย วันนี้เรามีกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารสื่อมวลชน ประชาชนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ และเมื่อถึงเวลานั้น กรมราชทัณฑ์ ยังปิดบังอยู่ กรมราชทัณฑ์ ก็จะมีปัญหา
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะเป็นการเลือกปฏิบัติ กับผู้ต้องขังรายอื่นๆหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ถูกต้อง คนทำความผิดคดีอาญาเหมือนกัน แต่อีกคนถูกอ้างว่า มีเหตุจูงใจมาจากการเมือง และได้ไปอยู่ในคุกที่สุขสบาย มีสปา มีฟิตเนส แต่นักโทษคนอื่นๆ ที่กระทำความผิดเดียวกัน มีความทุกข์ มีความลำบากอยู่ในคุกที่คับแคบ มันก็เรียกว่าสองมาตรฐาน
เมื่อถามว่า คอป. ควรแสดงความชัดเจนในเรื่องนี้ เพื่อไม่ให้ข้อเสนอของตัวเองถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองด้วยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ตนคิดว่า คอป.ควรที่จะออกมาแสดงความรับผิดชอบ ให้คำจำกัดความให้ชัดว่า นักโทษการเมืองที่ คอป. หมายถึง คือ ผู้ที่กระทำความผิดอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้ใครเขาอ้างว่า เป็นข้อเสนอของคอป. และนำไปใช้ผิดๆ เมื่อ ถามย้ำว่า หากรัฐบาลทำเกินเลยไปจากข้อเสนอของ คอป. รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. เรามีหน้าที่ที่จะตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว เราก็จะร่วมตรวจสอบ ร่วมกับพี่น้องประชาชน