เลขาฯ รมว.ยุติธรรม นำทัพสื่อมวลชนตรวจความพร้อมเรือนจำหลักสี่ เผย ต้องเลื่อนส่งมอบและนำตัวผู้ต้องขังชุดแรกควบคุมไปเป็นต้นปีหน้า เหตุสถานที่คุมขังยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะติดปัญหาน้ำท่วม ย้ำ เรือนจำไม่ได้เครื่องอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษ รวมถึงไม่มีห้องออกกำลังกาย โดยมีเพียงห้องอาบน้ำ และสุขาในห้องนอน รวมถึงลานกว้างแต่ละชั้นเท่านั้น
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายถิรชัย วุฒิธรรม เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมการเตรียมความพร้อมของเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ (โรงเรียนพลตำรวจบางเขน) โดย นายถิรชัย กล่าวว่า อาจต้องเลื่อนการรับมอบพื้นที่ดังกล่าวจากเดิมกำหนดรับมอบพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุง ว่า จะส่งมอบในวันที่ 18 ธ.ค.แต่เท่าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าอาจต้องเลื่อนการส่งมอบสถานที่ และการนำตัวผู้ต้องขังชุดแรกมาควบคุมยังเรือนจำดังกล่าวมาควบคุมตัวช่วงต้นปี 2555 ซึ่งเหตุที่ล่าช้า เนื่องจากปัญหาอุทกภัย ทำให้การก่อสร้างติดขัด ส่วนหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกผู้ต้องขังมาควบคุมที่เรือนจำดังกล่าวได้มีการตั้งคณะกรรมการ 3 คน ขึ้นมาทำหน้าที่โดยยึดรายละเอียดตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ดังนั้น จึงยังไม่สามารถระบุจำนวนและตัวบุคคลที่เข้าข่ายมาคุมขังได้
นายถิรชัย กล่าวต่อว่า เรือนจำแห่งนี้ไม่ได้มีเครื่องอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษ รวมถึงไม่มีห้องออกกำลังกาย โดยมีเพียงห้องอาบน้ำและสุขาในห้องนอน รวมถึงลานกว้างแต่ละชั้นเท่านั้น ส่วนการรักษาความปลอดภัยได้มีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแล จึงเชื่อว่าจะมีความปลอดภัยมากขึ้น
ด้าน พ.ต.อ.สุชาติ ยืนยันว่าการปรับปรุงพื้นที่เป็นไปตามแบบร่างเดิม ซึ่งไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงการดูแลผู้ต้องขัง ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบเช่นเดียวกับผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วไป โดยพื้นที่โถงกลางที่เว้นวางไว้จะถูกนำไปใช้เป็นพื้นที่ให้ผู้ต้องขังสามารถเดินออกมาทำกิจกรรมได้บ้าง
ด้าน พ.ต.อ.สุรชาติ มณีจักร ผู้กำกับการ 3 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กล่าวว่า ผู้ต้องขังคดีการเมืองรายสุดท้ายที่ถูกควบคุมในเรือนจำแห่งนี้ คือ ผู้ต้องขังคดีความมั่นคงจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ต้องขังต่างชาติรอการเนรเทศ หลังจากได้ใช้เป็นสถานที่ควบคุมข้าราชการที่กระทำผิดวินัย ซึ่งหลังจากนี้ หากมีการนำตัวผู้ต้องขังจากเรือนจำเข้ามาควบคุมมากขึ้น อาจจะไม่นำผู้ที่กระทำผิดวินัยมาคุมขังอีก เพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเรือนจำ
สำหรับกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะส่งมาเป็นผู้ช่วยผู้ควบคุมพิเศษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะมีวันละ 20 นาย แต่สันติบาลจะรับผิดชอบพื้นที่รอบนอก ส่วนพื้นที่ด้านในจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ ขึ้นตรงกับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมี นายวิเชาว์ สมัครธรรม นักทัณฑวิทยาชำนาญการ เป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมเรือนจำ โดยล่าสุด ยังอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานและอยู่ระหว่างปรับปรุงเพื้นที่ โดยมีเพียงพื้นที่ชั้น 1 เท่านั้นที่ปรับปรุงเสร็จแล้ว ส่วนชั้น 2-3ได้กั้นห้องและติดลูกกรง รวมถึงสุขาและห้องอาบน้ำแต่ละห้องเสร็จแล้ว ส่วนชั้น 4 ยังไม่มีการกั้นห้องใดๆ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องจากมีข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และมติคณะรัฐมนตรี เห็นควรให้แยกนักโทษคดีการเมืองออกจากนักโทษคดีอาชญากรรมทั่วไป ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ที่จะปรับปรุงแล้วเสร็จในวันที่ 20 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ดังนั้น จะย้ายกลุ่มนักโทษคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไปยังเรือนจำดังกล่าว ในวันที่ 21 ธ.ค.โดยมีนักโทษที่เข้าข่ายคดีการเมืองกว่า 100 คน ซึ่งรวมถึงนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายร่วมด้วย