xs
xsm
sm
md
lg

ทหารของชาติ

เผยแพร่:   โดย: ว.ร. ฤทธาคนี


งครามความขัดแย้งและการทำลายรัฐ เมื่อรัฐหมายถึงสถาบันชาติ ประกอบด้วยอำนาจอธิปไตยแห่งรัฐ คือ การปกครองและบริหารแผ่นดิน ในยุคปัจจุบันเป็นยุคแห่งการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา หรือเผด็จการในรูปแบบอื่น การบัญญัติกฎหมาย การตุลาการ พระมหากษัตริย์ ประชาชน และบูรณภาพแห่งแผ่นดิน

โดยเหตุการณ์เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เพราะจิตมนุษย์เป็นธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในวัฏจักรแห่งกรรม อันมีกิเลส ตัณหา โทสะ โมหะ และโลภะ เป็นไฟกระตุ้นให้มนุษย์ละเมิดกฎของสังคม โดยในทางโลภะนั้น มีพระสงฆ์ หรือนักบวช อิหม่าม ในศาสนาคริสต์และอิสลาม เป็นกลุ่มคนที่ป้องปรามมิให้เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์ แต่ในทางโลกียะนั้น ทหารเป็นกลุ่มคนที่รับอาสาทำหน้าที่ป้องปรามป้องกัน และเข้าทำการรบปราบปราม

ดังนั้น ทหารจึงเป็นกลุ่มอาสาที่มีการฝึกฝนให้สามารถใช้อาวุธ และกำหนดยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเอาชนะข้าศึกให้ได้ มิฉะนั้นแล้วชาติผู้แพ้ก็จะต้องเป็นทาสชาติผู้ชนะ ดังเช่นกรุงศรีอยุธยาตกเป็นทาสของพม่า 2 ครั้ง จนสิ้นอาณาจักรอยุธยาใน พ.ศ. 2310

อาชีพทหารเป็นอาชีพงานประเภทบริการ เป็นงานบริการที่จะปกป้องชีวิตทรัพย์สินและความเป็นไท มีเอกราชอธิปไตย จึงต้องแลกด้วยชีวิต เลือด และเนื้อในเชิงรูปธรรม ส่วนในเชิงนามธรรมนั้น ทหารเป็นกลุ่มคนที่ต้องยอมผิดศีล 5 ข้อที่ 1 มีโอกาสตกนรกแต่ทหารได้ยอมสละจิตวิญญาณมิให้คนในชาติต้องรับทุกข์กรรม

ในทางมิติประเพณีของทุกชาติในโลก ย่อมผ่านประสบการณ์สงครามในรูปแบบต่างๆ มาแล้ว รวมถึงสงครามกลางเมือง หรือแม้แต่ความขัดแย้งของเผ่าพันธุ์และทุกชาติในอดีตนั้น พระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพนำทัพหลวงเข้าสู้รบกับข้าศึก ดังนั้น คำว่ากษัตริย์จึงหมายถึงทหารผู้ยิ่งใหญ่ แต่ในโลกปัจจุบันหลายประเทศส่วนใหญ่ที่ยังมีการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และมอบอำนาจบริหารให้กับคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการ แต่ในทางขนบธรรมเนียมประเพณีแล้วพระมหากษัตริย์ หรือพระราชินี ยังคงทรงเป็นจอมทัพ หรือยังมีตำแหน่งบังคับบัญชาหน่วยทหาร เช่น ในประเทศอังกฤษ ส่วนในระบอบสาธารณรัฐแบบสหรัฐอเมริกานั้น รัฐธรรมนูญกำหนดให้ประธานาธิบดีเป็นจอมทัพแบบนิตินัย สามารถสั่งการได้ตรงไปยังเสนาธิการกองทัพบก เรือ อากาศ และนาวิกโยธิน

สถาบันทหารจึงนับว่าเป็นสถาบันของชาติที่เก่าแก่ เท่ากับอายุและความเป็นมาของชาตินั้น วัฒนธรรม ความคิด และอุดมการณ์จึงฝังรากลึกกลายเป็นจิตวิญญาณของทหารทุกคน มากน้อย ลึกตื้น ขึ้นอยู่กับทัศนคติ จิตวิญญาณและความหยั่งรู้ลึกในอุดมการณ์ของทหารและชาติอย่างไร หรืออาจจะสรุปได้ว่า “อาชีพเป็นทหาร” เมื่อรับเงินเดือนค่าตอบแทน หรือแสวงประโยชน์จากอาชีพนี้

มีพระราชหัตถเลขาพระราชทานแก่ทหารบก เมื่อ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2495 ใจความว่า "ทหารพึงสำนึกในเกียรติอันสูงของตน ที่เป็นผู้มีหน้าที่คุ้มครอง และรักษาไว้ซึ่งเอกราชของประเทศชาติ และมั่นอยู่ในความสัตย์และวินัยทหาร”

แม้ว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นจอมทัพไทยแล้ว แต่พระองค์ทรงยังครองธรรมะแห่งกษัตริย์สำหรับปกครองประเทศด้วยทศพิธราชธรรมซึ่งข้อหนึ่งคือ การมีศีล หรือการยึดถือและทรงประพฤติพระราชจริยานุวัตร พระกาย พระวาจา ให้ปราศจากโทษ ทั้งในทางปกครองอันได้แก่กฎหมาย นิติราชประเพณี และในทางพระศาสนา อันได้แก่ศีล 5 เสมอมา

จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าจอมทัพไทยทรงเป็นอัครบุรุษที่ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดี อันเป็นสิ่งเคารพบูชา และยึดเหนี่ยวของทหาร ด้วยมีพระเกศาบรรจุอยู่บนยอดธงไชยเฉลิมพล

ทหารจึงย่อมระลึกถึงพระบารมีอันบริสุทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงบำเพ็ญเพื่อพสกนิกร เพื่อทหารจะได้อยู่รอดปลอดภัยจากภัยต่างๆ

แต่ “ทหารไม่ใช่พระ” เพราะแม้ว่าพระสงฆ์ยึดศีล 227 ข้อ เป็นธรรมวินัย ยังมีพระหลายรูปประพฤติปราชิก ยิ่งทหารแล้วเป็นบุคคลถืออาวุธ ถูกฝึกให้ต้องก้าวร้าวเด็ดขาดในยามศึกสงคราม หรือมีเหตุการณ์รุนแรง ภาระหน้าสิ่วหน้าขวาน พฤติกรรมของทหารย่อมแตกต่างกว่าบุคคลธรรมดา

หลายเหตุการณ์ทางการเมืองที่ทหารตกเป็นจำเลยสังคม ด้วยที่ว่ามีเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองในลักษณะต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นโดยกลุ่มคนที่ต้องการสร้างความปั่นป่วน ล้มล้างอำนาจรัฐ ทหารเองก็แก้ไขปรับปรุงมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย แต่ความเข้มข้นของเหตุการณ์ทางการเมืองมีการปรับปรุงเสริมแต่งและซุกซ่อน ภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยแบบไทยๆ เช่น การปรับกลยุทธ์ก่อกวนบ้านเมือง จนถึงขั้นก่อการร้ายในเหตุการณ์เมษายน 2551, เมษายน 2552 และครั้งล่าสุดเรียกกันว่า พฤษภาคมหฤโหด 2553

กลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การนำของทักษิณ ซึ่งกำลังใช้ยุทธศาสตร์ “ต่างชาติล้อมประเทศ และบ้านล้อมเมือง” ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ต่างๆ ให้ต่างชาติกดดันคนไทย และสถาปนาหมู่บ้านแดงขึ้นทั่วราชอาณาจักร ได้ก่อเหตุร้ายต่างๆ จนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตราขึ้นในสมัยทักษิณเป็นรัฐบาล เพื่อตอบโต้และจัดการกับคนเสื้อแดง เพื่อรักษาซึ่งสันติสุขของคนหมู่มาก ด้วยมาตรา 11 และมาตรา 17 เพื่อให้ทหารสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดความผิด หากต้องป้องกันตัว

เหตุการณ์ 10 เมษายน - 19 พฤษภาคม 2553 มีคนเสียชีวิตรวมทั้งทหารด้วย 91 ศพ ทั้งที่สี่แยกคอกวัว ที่ซึ่งมีการวางแผนสร้างกับดักทหาร และสังหารนายทหารระดับสูงของกองพล คือ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และตลอดช่วงวันนั้นจนถึงวันที่ 19 พฤษภาคม มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธเสื้อดำของคนเสื้อแดงรุนแรงมากน้อย ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของฝ่ายเสื้อแดง

ทหารย่อมต้องป้องกันตัวมิให้พ่อแม่สูญเสียลูกซึ่งเป็นผู้ค้ำจุน ไม่ให้ภรรยาเป็นม่าย และไม่ให้ลูกเป็นกำพร้า และทหารได้แจ้งเตือนทุกครั้งว่าจะใช้อาวุธตอบโต้ แต่ฝ่ายพลแม่นปืนของคนเสื้อแดงวางแผนไว้ดี คือเมื่อยิงแล้วหนี แต่ถ้าคนหนึ่งคนใดถูกยิงตาย คู่หูก็จะเก็บอาวุธปืน ปลอกกระสุน ไม่ให้เป็นหลักฐาน แล้วทิ้งศพไว้มือเปล่าหรือคนเสื้อแดงยิงคนบริสุทธิ์แล้วป้ายความผิดให้ทหาร

ปัจจุบันผู้บังคับหน่วยทหารเรียนรู้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 2548 อย่างละเอียดและต้องถ่ายทอด อบรม สั่งสอน ปรับยุทธวิธี และวิธีการสั่งการตอบสนอง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นี้อย่างละเอียด รอบคอบ เพราะมีกับดักให้ทหารเป็นจำเลยรออยู่

เหตุการณ์น้ำท่วมชาติโดยเฉพาะ กทม.นั้น ทหารได้แสดงถึงน้ำใจ จิตวิญญาณ และการเสียสละช่วยชาติ ช่วยพี่น้องประชาชน ไม่ยึดถือว่าเป็นกลุ่มเสื้อสีอะไร ไม่สามารถเคียดแค้นกลุ่มคนเสื้อแดง หรือเอาอกเอาใจใครเป็นพิเศษ โดยระบุว่าช่วยประชาชนเท่าเทียมกัน ไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย อดทนต่อแรงเสียดทาน ทั้งท่าทางและคำพูดของบุคคลที่เห็นแก่ตัว

ทหารของชาติก็ยังเป็นทหารของชาติ ไม่มีวันเสื่อมสลาย ทหารที่ยังคงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์อย่างแนบแน่นมิเสื่อมคลาย ทหารยังคงรักประชาชนชาวไทยเหมือนญาติ เหมือนมิตร เพราะเป็นผู้ไว้วางใจทหาร และเป็นผู้เสียภาษีให้ทหาร

ผู้เขียนเป็นอดีตทหาร จึงขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งสากลโลก ตลอดจนพระบารมีอันบริสุทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จงปกปักรักษาคนไทยให้ปลอดภัยจากภัย และไร้โรคาพยาธิทั้งปวง เจริญด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ ตลอดปี พ.ศ. 2555
กำลังโหลดความคิดเห็น