คนเพียงคนเดียว-เป็นอันตรายต่อชาติได้หรือ? รูปธรรมหนึ่งประจักษ์แล้วในประวัติศาสตร์โลกใบนี้!
“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” เกิดประเทศออสเตรีย..แต่มาอยู่ในเยอรมนี และเป็นนักรบผู้กล้าในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง..จนได้รับรางวัลมากมาย
ในปี 1921 ฮิตเลอร์ได้เป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมนี หรือพรรคนาซี ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมทำรัฐประหาร ที่เรียกว่า “กบฏโรงเบียร์” ในเมืองมิวนิก เมื่อวันที่ 8-9 พฤศจิกายน1923 แต่พ่ายแพ้..จนฮิตเลอร์ถูกจับติดคุก 1 ปี และถูกปล่อยตัวในปี 1924
ฮิตเลอร์ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายหาเสียง รวมชาวเยอรมันให้ต่อต้านชาวยิวและทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์ ด้วยวิธีปราศรัยและการโฆษณาชวนเชื่อที่ทรงพลัง จนพรรคนาซีชนะการเลือกตั้ง
30 มกราคม1933 ฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนี เขาเปลี่ยนการปกครองเยอรมนีจากสาธารณรัฐไวมาร์เป็นจักรวรรดิไรซ์ที่สาม ซึ่งเป็นรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จเพียงพรรคการเมืองเดียว ตามอัตตาธิปไตยของฮิตเลอร์นั่นเอง
ฮิตเลอร์-ใช้การโฆษณาชวนเชื่อเผยแพร่ความคิดผิดๆ ของเขา จนชาวเยอรมันหลงเชื่อฮิตเลอร์ ไม่แยแสเหตุผลอันถูกต้องได้อย่างเหลือเชื่อ ถึงขนาดให้ฮิตเลอร์นำชาติเข้าสู่สงคราม บุกประเทศโปแลนด์ในปี 1939 เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น
ฮิตเลอร์-นำกองทัพเยอรมนีกับมิตรประเทศ ยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในยุ
โรปและแอฟริกาเหนือไว้ได้ สงครามมาพลิกผันเอาในปี 1941 จนกองทัพเยอรมนีแพ้ต่อกองทัพพันธมิตรในปี 1945
ฮิตเลอร์-ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย คนเพียงคนเดียวนี่แหละ ที่ทำให้มนุษย์ในโลกตายไปกว่า 17 ล้านคน!
คนเยอรมันโง่กว่าคนไทยหรือ..ก็เปล่า? แต่..ทำไมคนเยอรมันถึงตกอยู่ในอำ
นาจโฆษณาชวนเชื่อของฮิตเลอร์ล่ะ? อะไรทำให้คนเยอรมันส่วนใหญ่..เห็นผิดเป็นชอบ หลงเลือกฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรี?
เหตุการณ์ “หน้าเหลี่ยม” ในไทยบางส่วน คล้าย “ฮิตเลอร์” ที่เยอรมนีจังเลย!
เมืองไทยใช้ระบบผู้แทนในสภาฯ ทั้งหมด ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ส่วนเลือกตั้งเขตเล็กหรือเขตใหญ่นั้น ขึ้นกับนักการเมืองจะชิงความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งครับ
การเลือกตั้งผู้แทนฯ เต็มสภาฯ ที่ผ่านมาทุกครั้ง คือ ข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ทำให้ชาติไทยได้ผู้แทนฯ เลวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเปิดช่องให้ผู้สมัคร ส.ส.ซื้อเสียงเลือกตั้งได้นั่นเอง
นักธุรกิจการเมืองชั่วๆ จึงฉวยโอกาสทองเข้ามาลงทุนทางการเมือง เพื่อยึดอำนาจรัฐด้วยเงินแล้วใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ โกงกินเงินทองเข้ากระเป๋าตนและพวกพ้องมาโดยตลอด
ดังนั้น หาก “คนหน้าเหลี่ยม” ไม่รวยล้นฟ้า เขาไม่มีวันจะยึดอำนาจรัฐไปไว้ในกำมือได้เด็ดขาด และไม่มีวันจะเป็นภัยต่อชาติได้อีกด้วย เมื่อไม่มีเงิน “หน้าเหลี่ยม” ก็ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนจะแยแส
เรียกว่า “เหลี่ยมร้ายแต่เหลี่ยมจน” เหลี่ยมจะไร้ค่าชนิด “หมาเมิน” เลยครับ!
แต่ “หน้าเหลี่ยม” มีเงินมหาศาล และกล้าใช้เงินลงทุนกับการเมืองนับหมื่นๆล้านบาท เพื่อให้ ส.ส.ไปซื้อเสียงเลือกตั้ง ผสมกับนโยบายประชานิยมลวงหลอกผู้คน เหลี่ยมร้าย-จึงได้ ส.ส.เข้าสภาฯ มากเป็นอันดับหนึ่งทุกครั้ง
เมื่อยึดอำนาจรัฐได้-ก็มีครบทั้งอำนาจ-ลาภ-ยศ-เงินทอง “หน้าเหลี่ยม” จะบงการสภาฯ “ชิน” ตั้ง “เหลี่ยมร้าย” ให้เป็นนายกฯ ก่อนที่เขาจะตั้งหรือปลดรัฐมนตรีตามอำเภอใจไงครับ
อาวุธที่ทำลายล้างชีวิตคนได้ - เป็นกลาง อาวุธอยู่ในมือคนชั่ว..ก็ใช้ปล้นฆ่าคนดีให้บาดเจ็บล้มตาย แต่ถ้าอาวุธอยู่ในมือคนดี ย่อมถูกใช้ป้องกันตน-ป้องกันโจรผู้ร้าย หรือจัดการกับนักการเมืองชั่ว เพื่อเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง
เงินที่มนุษย์ใช้อยู่นั้น – ก็เป็นกลาง เงินในมือคนดีไม่ว่ายาจกหรือมหาเศรษฐี มิเคยถูกใช้ทำร้ายทำลายคนดี และยิ่งไม่ถูกใช้เพื่อทำลายชาติ-ศาสน์-กษัตริย์แน่นอน
แต่ถ้าเงินอยู่ในมือคนชั่ว-ดังมหาเศรษฐีใจทรามบางคน เงินจะถูกใช้ซื้อจิตวิญญาณคนชั่ว ให้เป็น “สุนัขรับใช้” ทำร้ายสังคม เผาบ้านเผาเมือง ก่อการร้ายฆ่าทหารกับประชาชน หรือใช้ยึดอำนาจรัฐ..แล้วใช้อำนาจรัฐโกงกินบ้านเมือง
อำนาจรัฐ – ไม่มีวันเป็นกลาง เพราะอำนาจรัฐตกอยู่ในมือคนชั่ว จะทำให้สังคมนั้นมีแต่คนโกงเป็นใหญ่ ข้าราชการและประชาชนคนดี จะถูกข่มเหงรังแกสารพัด ถือเป็นยุค “กาลี” ครองเมืองนั่นเอง
แต่หากอำนาจรัฐใดได้คนดีขึ้นปกครอง ความเป็นธรรมทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตประชาชนจะดีขึ้น ชาติจะเต็มไปด้วยความผาสุกศานติ
เรียกว่า..ยุครุ่งเรืองด้วย “คนดี” เป็นใหญ่-คนจัญไรอยู่ใต้การปกครองครับ
ดังนั้น..ระบอบการเมืองในโลกนี้ จึงใช้กันอย่างแตกต่างตามสภาพของแต่ละประเทศ-แต่ละสภาพสังคม ที่มาของผู้แทนในสภาฯ ก็มีหลายรูปแบบ-หลากวิธีการ แน่นอน..การเลือกตั้งก็มีมากหลายวิธีการเช่นกัน
ที่สำคัญที่สุด..ระบอบการเมืองและการเลือกตั้งที่ดีนั้น เป้าหมาย-จะต้องได้คนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง และผลประโยชน์จะต้องตกอยู่กับชาติ และประชาชนคนส่วนใหญ่เท่านั้น
ระบอบการเมืองและการเลือกตั้งที่ดี จะไม่เปิดช่องหรือเปิดโอกาสให้คนชั่วกับพวกพ้องเพียงหยิบมือ..ขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เพื่อใช้อำนาจรัฐทำร้ายคนดีและแสวงหาแต่ผลประโยชน์ เข้ากระเป๋าในหมู่คนชั่วเท่านั้น..จริงไหม?
อืมมม..งั้นระบบการเลือกตั้งไทยไม่ดี-มีปัญหาแน่ๆ เพราะพิสูจน์ชัดๆ แล้วว่า สิบกว่าปีมานี้..ชาติไทยมีแต่นักการเมืองส่วนใหญ่ที่โครตชั่ว แถมคุณภาพโครตต่ำเตี้ย “เอี้ย” ติดดินอีกด้วย..
เรียกว่า “เอี้ย” ถึงขนาดกล้าล้มล้าง “พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน” กันเลยครับ!
“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” เกิดประเทศออสเตรีย..แต่มาอยู่ในเยอรมนี และเป็นนักรบผู้กล้าในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง..จนได้รับรางวัลมากมาย
ในปี 1921 ฮิตเลอร์ได้เป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมนี หรือพรรคนาซี ก่อนที่เขาจะเข้าร่วมทำรัฐประหาร ที่เรียกว่า “กบฏโรงเบียร์” ในเมืองมิวนิก เมื่อวันที่ 8-9 พฤศจิกายน1923 แต่พ่ายแพ้..จนฮิตเลอร์ถูกจับติดคุก 1 ปี และถูกปล่อยตัวในปี 1924
ฮิตเลอร์ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายหาเสียง รวมชาวเยอรมันให้ต่อต้านชาวยิวและทุนนิยมกับคอมมิวนิสต์ ด้วยวิธีปราศรัยและการโฆษณาชวนเชื่อที่ทรงพลัง จนพรรคนาซีชนะการเลือกตั้ง
30 มกราคม1933 ฮิตเลอร์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเยอรมนี เขาเปลี่ยนการปกครองเยอรมนีจากสาธารณรัฐไวมาร์เป็นจักรวรรดิไรซ์ที่สาม ซึ่งเป็นรัฐเผด็จการเบ็ดเสร็จเพียงพรรคการเมืองเดียว ตามอัตตาธิปไตยของฮิตเลอร์นั่นเอง
ฮิตเลอร์-ใช้การโฆษณาชวนเชื่อเผยแพร่ความคิดผิดๆ ของเขา จนชาวเยอรมันหลงเชื่อฮิตเลอร์ ไม่แยแสเหตุผลอันถูกต้องได้อย่างเหลือเชื่อ ถึงขนาดให้ฮิตเลอร์นำชาติเข้าสู่สงคราม บุกประเทศโปแลนด์ในปี 1939 เปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น
ฮิตเลอร์-นำกองทัพเยอรมนีกับมิตรประเทศ ยึดครองดินแดนส่วนใหญ่ในยุ
โรปและแอฟริกาเหนือไว้ได้ สงครามมาพลิกผันเอาในปี 1941 จนกองทัพเยอรมนีแพ้ต่อกองทัพพันธมิตรในปี 1945
ฮิตเลอร์-ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย คนเพียงคนเดียวนี่แหละ ที่ทำให้มนุษย์ในโลกตายไปกว่า 17 ล้านคน!
คนเยอรมันโง่กว่าคนไทยหรือ..ก็เปล่า? แต่..ทำไมคนเยอรมันถึงตกอยู่ในอำ
นาจโฆษณาชวนเชื่อของฮิตเลอร์ล่ะ? อะไรทำให้คนเยอรมันส่วนใหญ่..เห็นผิดเป็นชอบ หลงเลือกฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรี?
เหตุการณ์ “หน้าเหลี่ยม” ในไทยบางส่วน คล้าย “ฮิตเลอร์” ที่เยอรมนีจังเลย!
เมืองไทยใช้ระบบผู้แทนในสภาฯ ทั้งหมด ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ ส่วนเลือกตั้งเขตเล็กหรือเขตใหญ่นั้น ขึ้นกับนักการเมืองจะชิงความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งครับ
การเลือกตั้งผู้แทนฯ เต็มสภาฯ ที่ผ่านมาทุกครั้ง คือ ข้อผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ทำให้ชาติไทยได้ผู้แทนฯ เลวมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเปิดช่องให้ผู้สมัคร ส.ส.ซื้อเสียงเลือกตั้งได้นั่นเอง
นักธุรกิจการเมืองชั่วๆ จึงฉวยโอกาสทองเข้ามาลงทุนทางการเมือง เพื่อยึดอำนาจรัฐด้วยเงินแล้วใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือ โกงกินเงินทองเข้ากระเป๋าตนและพวกพ้องมาโดยตลอด
ดังนั้น หาก “คนหน้าเหลี่ยม” ไม่รวยล้นฟ้า เขาไม่มีวันจะยึดอำนาจรัฐไปไว้ในกำมือได้เด็ดขาด และไม่มีวันจะเป็นภัยต่อชาติได้อีกด้วย เมื่อไม่มีเงิน “หน้าเหลี่ยม” ก็ไม่มีนักการเมืองหน้าไหนจะแยแส
เรียกว่า “เหลี่ยมร้ายแต่เหลี่ยมจน” เหลี่ยมจะไร้ค่าชนิด “หมาเมิน” เลยครับ!
แต่ “หน้าเหลี่ยม” มีเงินมหาศาล และกล้าใช้เงินลงทุนกับการเมืองนับหมื่นๆล้านบาท เพื่อให้ ส.ส.ไปซื้อเสียงเลือกตั้ง ผสมกับนโยบายประชานิยมลวงหลอกผู้คน เหลี่ยมร้าย-จึงได้ ส.ส.เข้าสภาฯ มากเป็นอันดับหนึ่งทุกครั้ง
เมื่อยึดอำนาจรัฐได้-ก็มีครบทั้งอำนาจ-ลาภ-ยศ-เงินทอง “หน้าเหลี่ยม” จะบงการสภาฯ “ชิน” ตั้ง “เหลี่ยมร้าย” ให้เป็นนายกฯ ก่อนที่เขาจะตั้งหรือปลดรัฐมนตรีตามอำเภอใจไงครับ
อาวุธที่ทำลายล้างชีวิตคนได้ - เป็นกลาง อาวุธอยู่ในมือคนชั่ว..ก็ใช้ปล้นฆ่าคนดีให้บาดเจ็บล้มตาย แต่ถ้าอาวุธอยู่ในมือคนดี ย่อมถูกใช้ป้องกันตน-ป้องกันโจรผู้ร้าย หรือจัดการกับนักการเมืองชั่ว เพื่อเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง
เงินที่มนุษย์ใช้อยู่นั้น – ก็เป็นกลาง เงินในมือคนดีไม่ว่ายาจกหรือมหาเศรษฐี มิเคยถูกใช้ทำร้ายทำลายคนดี และยิ่งไม่ถูกใช้เพื่อทำลายชาติ-ศาสน์-กษัตริย์แน่นอน
แต่ถ้าเงินอยู่ในมือคนชั่ว-ดังมหาเศรษฐีใจทรามบางคน เงินจะถูกใช้ซื้อจิตวิญญาณคนชั่ว ให้เป็น “สุนัขรับใช้” ทำร้ายสังคม เผาบ้านเผาเมือง ก่อการร้ายฆ่าทหารกับประชาชน หรือใช้ยึดอำนาจรัฐ..แล้วใช้อำนาจรัฐโกงกินบ้านเมือง
อำนาจรัฐ – ไม่มีวันเป็นกลาง เพราะอำนาจรัฐตกอยู่ในมือคนชั่ว จะทำให้สังคมนั้นมีแต่คนโกงเป็นใหญ่ ข้าราชการและประชาชนคนดี จะถูกข่มเหงรังแกสารพัด ถือเป็นยุค “กาลี” ครองเมืองนั่นเอง
แต่หากอำนาจรัฐใดได้คนดีขึ้นปกครอง ความเป็นธรรมทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตประชาชนจะดีขึ้น ชาติจะเต็มไปด้วยความผาสุกศานติ
เรียกว่า..ยุครุ่งเรืองด้วย “คนดี” เป็นใหญ่-คนจัญไรอยู่ใต้การปกครองครับ
ดังนั้น..ระบอบการเมืองในโลกนี้ จึงใช้กันอย่างแตกต่างตามสภาพของแต่ละประเทศ-แต่ละสภาพสังคม ที่มาของผู้แทนในสภาฯ ก็มีหลายรูปแบบ-หลากวิธีการ แน่นอน..การเลือกตั้งก็มีมากหลายวิธีการเช่นกัน
ที่สำคัญที่สุด..ระบอบการเมืองและการเลือกตั้งที่ดีนั้น เป้าหมาย-จะต้องได้คนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง และผลประโยชน์จะต้องตกอยู่กับชาติ และประชาชนคนส่วนใหญ่เท่านั้น
ระบอบการเมืองและการเลือกตั้งที่ดี จะไม่เปิดช่องหรือเปิดโอกาสให้คนชั่วกับพวกพ้องเพียงหยิบมือ..ขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เพื่อใช้อำนาจรัฐทำร้ายคนดีและแสวงหาแต่ผลประโยชน์ เข้ากระเป๋าในหมู่คนชั่วเท่านั้น..จริงไหม?
อืมมม..งั้นระบบการเลือกตั้งไทยไม่ดี-มีปัญหาแน่ๆ เพราะพิสูจน์ชัดๆ แล้วว่า สิบกว่าปีมานี้..ชาติไทยมีแต่นักการเมืองส่วนใหญ่ที่โครตชั่ว แถมคุณภาพโครตต่ำเตี้ย “เอี้ย” ติดดินอีกด้วย..
เรียกว่า “เอี้ย” ถึงขนาดกล้าล้มล้าง “พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน” กันเลยครับ!
