ASTVผู้จัดการรายวัน – แอล.พี.เอ็น.ฯ ทุ่มเม็ดเงิน719ล้านบา ซื้อที่ดินรอพัฒนาโครงการใหม่ 3แปลงรวดย่านบางนา-รามอินทรา-พัทยานาเกลือเล็งผุด3โครงการช่วงปลายปี54ต่อเนื่องถึงต้นปี55 มูลค่าขายรวมกว่า7,680ล้านบาท พร้อมคลอดโมเดลคอนโดผู้สูงอายุ แบบผสมอยู่อาศัยกับวัยรุ่น นำร่องพัทยา ก่อนกระจายทุกโครงการใหม่ ปีหน้าพร้อมเปิดอีก 10 โครงการ 1.5 หมื่นล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ LPN กล่าวว่า ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าได้ซื้อที่ดินรอการพัฒนาเข้าใหม่จำนวน3แปลง ในย่านบางนาจำนวน18ไร่ , รามอินทรา -ลาดปลาเค้า จำนวน 10ไร่ และพัทยานาเกลือจำนวน 8ไร่ มูลค่ารวม 719ล้านบาทเศษ โดยแอล.พี.เอ็น.ฯมีแผนจะนำที่ดินที่ซื้อเข้ามาใหม่ทั้ง3แปลงดังกล่าวมาพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม3โครงการในช่วงปลายปีนี้ ถึงไตรมาส1ของปีหน้า ทั้งนี้ ทั้ง3โครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าขายรวม 7,680ล้านบาท
โดยที่ดินในย่านบางนานั้นซึ่งซื้อเข้ามาในราคา414.7ล้านบาท บริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ ลุมพินี ภายใต้ชื่อโครงการลุมพินี เมกะ-บางนา ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น3เฟส จำนวน3อาคาร โดยเฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารสูง1อาคารจำนวน1,103 ยูนิต มูลค่า 1,200ล้านบาท เฟสที่2-3จะพัฒนาเป็นอาคารสูง 2อาคารจำนวน 1,918ยูนิต มูลค่ารวม 2,150ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 12เดือน ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ธ.ค.2554-พ.ย.2555 และเปิดตัวห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ธ.ค.2554นี้ คาดว่าจะเริ่มโอนเฟสแรกได้ในช่วงไตรมาส4ของปีหน้า
ส่วนที่ดินในย่านรามอินทราซึ่งซื้อเข้ามาในราคา 201.2ล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ คอนโดทาวน์ ภายใต้ชื่อ คอนโดทาวน์รามอินทรา-ลาดปลาเค้า4อาคารจำนวน 1,039ยูนิต มูลค่ารวม 970ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้า11เดือนเริ่มก่อสร้างม.ค.-พ.ย. 2555 และจะเปิดตัวห้องตัวอย่าง 1ธ.ค.นี้
ขณะที่ที่ดินในย่านพัทยานาเกลือซื้อเข้ามาในราคา 104ล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ลุมพินีวิลล์ ภายใต้ชื่อ ลุมพินีวิลล์ พัทยานาเกลือ-วงศ์อมาตย์ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3เฟส จำนวน3อาคาร โดยเฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารสูง1อาคารจำนวน 534ยูนิต มูลค่า 800ล้านบาท เฟสที่2-3 จะพัฒนาเป็นอาคารสูง2อาคาร จำนวน2,000ยูนิต มูลค่ารวม 2560ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.2555- เม.ย.2556 และจพเปิดตัวห้องตัวอย่างในวันที่ 17ธ.ค.นี้เช่นกัน
นายพิเชษฐ์ ศุภกิจจานุสันติ์ กรรมการและกรรมการบริหาร กล่าวว่านอกจานี้ ได้ทดลองพัฒนาคอนโด ภายใต้แนวคิดผสมผสานระหว่างกลุ่มเจนเอ็กซ์ คนวัยรุ่นวัยทำงาน และกลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ หรือกลุ่มผู้สูงอายุที่ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของคอนโดมิเนียมเพื่อสังคมครอบครัวและผู้สูงวัย โดยจะนำร่องโครงการแรกที่ลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ทั้งนี้ จากการสำรวจการอยู่อาศัยจริงภายในคอนโดมิเนียมประมาณ 100 อาคารที่แอล.พี.เอ็น.ฯ พัฒนาและบริหารจัดการ พบว่า จะมีผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 10-15%
สำหรับรายละเอียดโครงการลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ เมืองพัทยาจะจัดชั้น 4-6 ให้เป็นโซนแพลทินั่ม ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ส่วนชั้นที่ 7-20 จะเป็นห้องชุดแบบปกติ ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี ก็จะใช้แนวคิดนี้กับโครงการใหม่ๆ ทั้งหมด ในสัดส่วนห้องชุดเพื่อผู้สูงอายุที่ 10-15% ของทั้งหมด ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตทั้งยอดขายและรับรู้รายได้อยู่ที่ 10% โดยปีนี้แม้จะมีปัจจัยลบรื่องน้ำท่วมแต่ก็ยังคงได้ตามเป้าหมายที่ยอดขาย 1.4 หมื่นล้านบาท และยอดโอน 1.2 หมื่นล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ LPN กล่าวว่า ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าได้ซื้อที่ดินรอการพัฒนาเข้าใหม่จำนวน3แปลง ในย่านบางนาจำนวน18ไร่ , รามอินทรา -ลาดปลาเค้า จำนวน 10ไร่ และพัทยานาเกลือจำนวน 8ไร่ มูลค่ารวม 719ล้านบาทเศษ โดยแอล.พี.เอ็น.ฯมีแผนจะนำที่ดินที่ซื้อเข้ามาใหม่ทั้ง3แปลงดังกล่าวมาพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม3โครงการในช่วงปลายปีนี้ ถึงไตรมาส1ของปีหน้า ทั้งนี้ ทั้ง3โครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าขายรวม 7,680ล้านบาท
โดยที่ดินในย่านบางนานั้นซึ่งซื้อเข้ามาในราคา414.7ล้านบาท บริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ ลุมพินี ภายใต้ชื่อโครงการลุมพินี เมกะ-บางนา ซึ่งจะแบ่งการพัฒนาออกเป็น3เฟส จำนวน3อาคาร โดยเฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารสูง1อาคารจำนวน1,103 ยูนิต มูลค่า 1,200ล้านบาท เฟสที่2-3จะพัฒนาเป็นอาคารสูง 2อาคารจำนวน 1,918ยูนิต มูลค่ารวม 2,150ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 12เดือน ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ธ.ค.2554-พ.ย.2555 และเปิดตัวห้องตัวอย่างในวันที่ 17 ธ.ค.2554นี้ คาดว่าจะเริ่มโอนเฟสแรกได้ในช่วงไตรมาส4ของปีหน้า
ส่วนที่ดินในย่านรามอินทราซึ่งซื้อเข้ามาในราคา 201.2ล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ คอนโดทาวน์ ภายใต้ชื่อ คอนโดทาวน์รามอินทรา-ลาดปลาเค้า4อาคารจำนวน 1,039ยูนิต มูลค่ารวม 970ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้า11เดือนเริ่มก่อสร้างม.ค.-พ.ย. 2555 และจะเปิดตัวห้องตัวอย่าง 1ธ.ค.นี้
ขณะที่ที่ดินในย่านพัทยานาเกลือซื้อเข้ามาในราคา 104ล้านบาท จะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ลุมพินีวิลล์ ภายใต้ชื่อ ลุมพินีวิลล์ พัทยานาเกลือ-วงศ์อมาตย์ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 3เฟส จำนวน3อาคาร โดยเฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารสูง1อาคารจำนวน 534ยูนิต มูลค่า 800ล้านบาท เฟสที่2-3 จะพัฒนาเป็นอาคารสูง2อาคาร จำนวน2,000ยูนิต มูลค่ารวม 2560ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในเดือน ก.พ.2555- เม.ย.2556 และจพเปิดตัวห้องตัวอย่างในวันที่ 17ธ.ค.นี้เช่นกัน
นายพิเชษฐ์ ศุภกิจจานุสันติ์ กรรมการและกรรมการบริหาร กล่าวว่านอกจานี้ ได้ทดลองพัฒนาคอนโด ภายใต้แนวคิดผสมผสานระหว่างกลุ่มเจนเอ็กซ์ คนวัยรุ่นวัยทำงาน และกลุ่มเบบี้ บูมเมอร์ หรือกลุ่มผู้สูงอายุที่ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของคอนโดมิเนียมเพื่อสังคมครอบครัวและผู้สูงวัย โดยจะนำร่องโครงการแรกที่ลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ทั้งนี้ จากการสำรวจการอยู่อาศัยจริงภายในคอนโดมิเนียมประมาณ 100 อาคารที่แอล.พี.เอ็น.ฯ พัฒนาและบริหารจัดการ พบว่า จะมีผู้อยู่อาศัยที่เป็นผู้สูงอายุอยู่ประมาณ 10-15%
สำหรับรายละเอียดโครงการลุมพินีวิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ เมืองพัทยาจะจัดชั้น 4-6 ให้เป็นโซนแพลทินั่ม ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ส่วนชั้นที่ 7-20 จะเป็นห้องชุดแบบปกติ ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดี ก็จะใช้แนวคิดนี้กับโครงการใหม่ๆ ทั้งหมด ในสัดส่วนห้องชุดเพื่อผู้สูงอายุที่ 10-15% ของทั้งหมด ส่วนแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 10 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตทั้งยอดขายและรับรู้รายได้อยู่ที่ 10% โดยปีนี้แม้จะมีปัจจัยลบรื่องน้ำท่วมแต่ก็ยังคงได้ตามเป้าหมายที่ยอดขาย 1.4 หมื่นล้านบาท และยอดโอน 1.2 หมื่นล้านบาท
