สืบโชคชัยรวบสองพี่น้องค้ายาบ้า ยึดของกลาง 2.1 แสนกว่าเม็ด สารภาพรับมาจากเครือข่ายคุกคลองเปรม ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสน อ้างไม่มีงานทำแถมป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้น
วานนี้ (30 ต.ค.) ที่ สน.โชคชัย เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมภพ หรือมิ้น สิทธิรังษินันท์ อายุ 24 ปี และนายอดิเทพ หรือไมด์ สิทธิรังษินันท์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 หมื่นเม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ลยม 406 กรุงเทพมหานคร และจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน รพง 485 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้ที่ซอยลาดพร้าว 101 แยก 14 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. และห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 ชั้น 15 อาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม.
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคกลาง จึงวางแผนล่อซื้อจำนวน 2,000 เม็ด ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 101 กระทั่งผู้ต้องหาขับขี่จักรยานยนต์มาตามที่นัดหมายจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลภายในอาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ ย่านรามอินทรา ซึ่งจากการตรวจค้นบนชั้น 15 ภายในห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเก็บของอีก 88,000 เม็ด
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจาก นายวรวิทย์ หรือบังยิด หวังทอง อาย 28 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 133/36 หมู่บ้านรื่นฤดี 3 แขวงสะพานสูง เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวรวิทย์ จากการตรวจค้นพบตู้เซฟยี่ห้อ Leeco 1 ใบ
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวอีกว่า สอบสวนนายวรวิทย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง และมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟดังกล่าวอีก เมื่อเปิดตู้เซฟตรวจสอบพบยาบ้าอีก 1.2 แสนเม็ด โดยมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายซัน ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง ที่เป็นคนนำยาบ้ามาใส่และรู้รหัสเปิดตู้เซฟสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายวรวิทย์มาสอบสวน พร้อมกับยึดตู้เซฟของกลางเอาไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวน นายอดิเทพให้การรับสารภาพว่า ตนกับน้องร่วมกันขายยาบ้ามาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างเที่ยวละเกือบ 1 แสนบาท โดยนายวรวิทย์ หรือบังยิด เครือข่ายคุกคลองเปรม จะเป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ที่คอนโดมิเนียมลุมพินี ที่เช่าไว้เพื่อกระจายยาบ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าใน ภาคกลาง ซึ่งตนจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ 3 เดือน เพื่อหลบหนีการจับกุม เมื่อลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งยาก็จะขี่จักรยานยนต์ไปส่งตามจุดนัดหมาย พร้อมกับพกปืนไปด้วย 1 กระบอกเพื่อป้องกันตัว เวลาเจอด่านตรวจก็จะทำท่าทีไม่ให้มีพิรุธทำให้รอดพ้นการจับกุมมาได้หลายครั้ง
“สาเหตุที่ต้องหันมาขายยาบ้าเพราะไม่มีงานทำ และต้องเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และโรคกรดไหลย้อน ต้องหาเงินไปรักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์” นายอดิเทพกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป