xs
xsm
sm
md
lg

สืบโชคชัยรวบแก๊งยาบ้าเครือข่ายคลองเปรม-ยึดของกลาง 2.1 แสนเม็ด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รอง ผบช.น.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วม แถลงข่าวจับกุมแก๊งยาบ้าเครือข่ายเรือนจำคลองเปรม ประกอบด้วย นายสมภพ  สิทธิรังษินันท์ อายุ 24 ปี นายอดิเทพ  สิทธิรังษินันท์ อายุ 23 ปี สองพี่น้อง และนายวรวิทย์   หวังทอง อาย 28 ปี   พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 210,000 เม็ด
สืบโชคชัยรวบสองพี่น้องค้ายาบ้า ยึดของกลาง 2.1 แสนกว่าเม็ด สารภาพรับมาจากเครือข่ายคุกคลองเปรม ได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสน อ้างไม่มีงานทำแถมป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้น

วานนี้ (30 ต.ค.) ที่ สน.โชคชัย เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสมภพ หรือมิ้น สิทธิรังษินันท์ อายุ 24 ปี และนายอดิเทพ หรือไมด์ สิทธิรังษินันท์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 หมื่นเม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ลยม 406 กรุงเทพมหานคร และจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน รพง 485 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้ที่ซอยลาดพร้าว 101 แยก 14 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. และห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 ชั้น 15 อาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม.

พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคกลาง จึงวางแผนล่อซื้อจำนวน 2,000 เม็ด ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 101 กระทั่งผู้ต้องหาขับขี่จักรยานยนต์มาตามที่นัดหมายจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลภายในอาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ ย่านรามอินทรา ซึ่งจากการตรวจค้นบนชั้น 15 ภายในห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเก็บของอีก 88,000 เม็ด

พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจาก นายวรวิทย์ หรือบังยิด หวังทอง อาย 28 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 133/36 หมู่บ้านรื่นฤดี 3 แขวงสะพานสูง เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวรวิทย์ จากการตรวจค้นพบตู้เซฟยี่ห้อ Leeco 1 ใบ

พล.ต.ต.เอื้อพงษ์กล่าวอีกว่า สอบสวนนายวรวิทย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง และมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟดังกล่าวอีก เมื่อเปิดตู้เซฟตรวจสอบพบยาบ้าอีก 1.2 แสนเม็ด โดยมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย คือ นายซัน ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง ที่เป็นคนนำยาบ้ามาใส่และรู้รหัสเปิดตู้เซฟสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายวรวิทย์มาสอบสวน พร้อมกับยึดตู้เซฟของกลางเอาไว้ตรวจสอบ

จากการสอบสวน นายอดิเทพให้การรับสารภาพว่า ตนกับน้องร่วมกันขายยาบ้ามาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างเที่ยวละเกือบ 1 แสนบาท โดยนายวรวิทย์ หรือบังยิด เครือข่ายคุกคลองเปรม จะเป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ที่คอนโดมิเนียมลุมพินี ที่เช่าไว้เพื่อกระจายยาบ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าใน ภาคกลาง ซึ่งตนจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ 3 เดือน เพื่อหลบหนีการจับกุม เมื่อลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งยาก็จะขี่จักรยานยนต์ไปส่งตามจุดนัดหมาย พร้อมกับพกปืนไปด้วย 1 กระบอกเพื่อป้องกันตัว เวลาเจอด่านตรวจก็จะทำท่าทีไม่ให้มีพิรุธทำให้รอดพ้นการจับกุมมาได้หลายครั้ง

“สาเหตุที่ต้องหันมาขายยาบ้าเพราะไม่มีงานทำ และต้องเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และโรคกรดไหลย้อน ต้องหาเงินไปรักษาตัวที่ รพ.สินแพทย์” นายอดิเทพกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น