ASTVผู้จัดการรายวัน - ตร.สืบโชคชัยโชว์จับยาบ้าช่วงน้ำท่วมกรุง วางแผนล่อซื้อจับสองพี่น้องเครือข่ายบังยิดคุกคลองเปรม ยึดยาบ้าได้ร่วมแสน ก่อนงัดตู้เซฟพบอีก 1.2 แสนเม็ด ผู้ต้องหารับสารภาพค้าและส่งยาบ้ามา 5 เดือน ได้ค่าจ้างครั้งละแสน อ้างไม่มีงานทำ ต้องหาเงินรักษาโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
วานนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สน.โชคชัย พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พร้อมด้วยพ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสมภพ หรือมิ้น สิทธิรังษินันท์ อายุ 24 ปี และนายอดิเทพ หรือไมด์ สิทธิรังษินันท์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 9 หมื่นเม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจยย.ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ลยม 406 กรุงเทพมหานคร 1 คัน และรถจยย.ยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน รพง 485 กรุงเทพมหานคร อีก1คัน จับกุมตัวได้ที่ซอยลาดพร้าว101 แยก 14 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ต่อเนื่องห้องเลขที่69/334 หรือ A 1520 ชั้น 15 อาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม.
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดและเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคกลาง จึงทำการวางแผนล่อซื้อจำนวน 2,000 เม็ด ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 101 กระทั่งผู้ต้องหาขี่รถจยย.มาตามที่นัดหมายจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลภายในอาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ ย่านรามอินทรา ซึ่งจากการตรวจค้นบนชั้น 15 ภายในห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเก็บของอีก 88,000 เม็ด
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายวรวิทย์ หรือบังยิด หวังทอง อาย 28 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 133/36 หมู่บ้านรื่นฤดี 3 แขวงสะพานสูง เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวรวิทย์ จากการตรวจค้นพบตู้เซฟ ยี่ห้อ Leeco 1 ใบ โดยนายวรวิทย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง และมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟดังกล่าวอีกประมาณ 1 แสนเม็ด นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง ที่รู้รหัสเปิดตู้เซฟสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายวรวิทย์มาสอบสวน พร้อมกับยึดตู้เซฟของกลางเอาไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายอดิเทพ ให้การรับสารภาพว่า ตนกับน้องร่วมกันขายยาบ้ามาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างเที่ยวละเกือบ 1 แสนบาท โดยนายวรวิทย์ หรือบังยิด เครือข่ายคุกคลองเปรม จะเป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ที่คอนโดลุมพินี ที่เช่าไว้เพื่อกระจายยาบ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าในแถบภาคกลาง ซึ่งตนจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ 3 เดือน เพื่อหลบหนีการจับกุม เมื่อลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งยาก็จะขี่รถจยย.ไปส่งตามจุดนัดหมาย พร้อมกับพกปืนไปด้วย 1 กระบอก เพื่อป้องกันตัว เวลาเจอด่านตรวจก็จะทำท่าทีไม่ให้มีพิรุธทำให้รอดพ้นการจับกุมมาได้หลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ต้องหันมาขายยาบ้าเพราะไม่มีงานทำ ต้องเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และโรคกรดไหลย้อน ต้องหาเงินไปรักษาตัวที่รพ.สินแพทย์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำตู้เซฟที่ยึดได้มาตรวจสอบ และ ทำการเปิดตู้เซฟ จนพบยาบ้าที่ซุกไว้ในตู้เซฟเพิ่มอีก 60 มัด จำนวน 120,000 เม็ด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
วานนี้ (30 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สน.โชคชัย พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พร้อมด้วยพ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.โชคชัย ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัว นายสมภพ หรือมิ้น สิทธิรังษินันท์ อายุ 24 ปี และนายอดิเทพ หรือไมด์ สิทธิรังษินันท์ อายุ 23 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 9 หมื่นเม็ด โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง รถจยย.ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ลยม 406 กรุงเทพมหานคร 1 คัน และรถจยย.ยามาฮ่า สีดำ หมายเลขทะเบียน รพง 485 กรุงเทพมหานคร อีก1คัน จับกุมตัวได้ที่ซอยลาดพร้าว101 แยก 14 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ต่อเนื่องห้องเลขที่69/334 หรือ A 1520 ชั้น 15 อาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ถนนรามอินทรา แขวงและเขตคันนายาว กทม.
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดและเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในภาคกลาง จึงทำการวางแผนล่อซื้อจำนวน 2,000 เม็ด ที่บริเวณซอยลาดพร้าว 101 กระทั่งผู้ต้องหาขี่รถจยย.มาตามที่นัดหมายจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นและจับกุม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลภายในอาคารลุมพินี คอนโดทาวน์ ย่านรามอินทรา ซึ่งจากการตรวจค้นบนชั้น 15 ภายในห้องเลขที่ 69/334 หรือ A 1520 พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเก็บของอีก 88,000 เม็ด
พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับยาบ้ามาจากนายวรวิทย์ หรือบังยิด หวังทอง อาย 28 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงนำกำลังไปตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 133/36 หมู่บ้านรื่นฤดี 3 แขวงสะพานสูง เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของนายวรวิทย์ จากการตรวจค้นพบตู้เซฟ ยี่ห้อ Leeco 1 ใบ โดยนายวรวิทย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้าจริง และมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในตู้เซฟดังกล่าวอีกประมาณ 1 แสนเม็ด นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คน ไม่ทราบชื่อ นามสกุลจริง ที่รู้รหัสเปิดตู้เซฟสามารถหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายวรวิทย์มาสอบสวน พร้อมกับยึดตู้เซฟของกลางเอาไว้ตรวจสอบ
จากการสอบสวนนายอดิเทพ ให้การรับสารภาพว่า ตนกับน้องร่วมกันขายยาบ้ามาได้ประมาณ 5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างเที่ยวละเกือบ 1 แสนบาท โดยนายวรวิทย์ หรือบังยิด เครือข่ายคุกคลองเปรม จะเป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้ที่คอนโดลุมพินี ที่เช่าไว้เพื่อกระจายยาบ้าจำหน่ายให้กับลูกค้าในแถบภาคกลาง ซึ่งตนจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ 3 เดือน เพื่อหลบหนีการจับกุม เมื่อลูกค้าโทรศัพท์มาสั่งยาก็จะขี่รถจยย.ไปส่งตามจุดนัดหมาย พร้อมกับพกปืนไปด้วย 1 กระบอก เพื่อป้องกันตัว เวลาเจอด่านตรวจก็จะทำท่าทีไม่ให้มีพิรุธทำให้รอดพ้นการจับกุมมาได้หลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ต้องหันมาขายยาบ้าเพราะไม่มีงานทำ ต้องเลี้ยงครอบครัว อีกทั้งยังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และโรคกรดไหลย้อน ต้องหาเงินไปรักษาตัวที่รพ.สินแพทย์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำตู้เซฟที่ยึดได้มาตรวจสอบ และ ทำการเปิดตู้เซฟ จนพบยาบ้าที่ซุกไว้ในตู้เซฟเพิ่มอีก 60 มัด จำนวน 120,000 เม็ด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.