xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส”เตือนแม้วปรับครม. อย่าแค่ต่ออายุน้องสาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"สุริยะใส" ค้านวิธีคิด "แม้ว" ที่จะปรับ ครม.แค่ต่อลมหายใจรัฐบาล ย้ำต้องสำนึกรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการบริหารแผ่นดินของน้องสาว แนะดึงคนนอกนั่ง 7 กระทรวงสำคัญ เพื่อฟื้นฟูประเทศ "เทพไท" เย้ยความสามารถ "ปู" เป็นเลขา รมต.ยังไม่ได้ ควรถูกปรับออกเป็นคนแรก แฉ ส.ส.อีสาน เดินเกมปรับ"ยงยุทธ" พ้น มท.1 แต่เชื่อว่า "แม้ว" ไม่เอาด้วย

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงกระแสข่าวการประบครม.ของรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า คงหนีไม่พ้นวิธีคิดเก่า คือต้องการต่ออายุให้รัฐบาลที่บริหารแผ่นดินล้มเหลว โดยเฉพาะการบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยที่เกิดความล้มเหลว ขาดประสิทธิภาพ ทำให้เกิดความหายนะมากที่สุดในประวัติศาสตร์ มีคนเสียชีวิตกว่า 700 คน เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล และปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อมอีกมากมาย

ทั้งนี้ คนที่มีอำนาจเด็ดขาดในการปรับ ครม. คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะรัฐบาลนี้ถือสโลแกน ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ความล้มเหลวในการบริหารจัดการน้ำครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรมีสำนึกรับผิดชอบด้วย ไม่ใช่คิดแต่จะสร้างเสถียรภาพให้รัฐบาลน้องสาว เพื่อจุดมุ่งหมายทางการเมืองของตัวเอง และพรรคพวก หรือลากให้ยาวที่สุด เพื่อส่งไม้ต่อให้บรรดาบ้านเลขที่ 111 ที่จะได้สิทธิคืนในเดือนพฤษภาคมปีหหน้า โดยไม่สนใจชะตากรรมของคนไทยทั้งชาติ

" ผมคิดว่ามีหนทางเดียวที่จะต่ออายุรัฐบาลชุดนี้ไปได้สักระยะคือ การดึงคนนอกเข้าร่วม ครม.ชุดใหม่ โดยมานั่งเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญๆ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูประเทศให้เกิดการยอมรับ โปร่งใส และเป็นธรรมอย่างแท้จริง เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษา กระทรวงต่างปรเทศ กระทรวงทรัพยากรฯ ต้องได้คนที่มีวิสัยทัศน์ เข้าถึง และเข้าใจปัญหาจริงๆ
ที่สำคัญตัวนายกฯ ซึ่งเปลี่ยนตัวยาก ก็ต้องปรับตัว 360 องศา ทำให้ได้เหมือนเมื่อตอนเตรียมตัวเป็นนายกฯ แค่ 45 วันเท่านั้น แม้จะเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง แต่เป็นเหตุผลเดียวที่จะทำให้โฉมหน้า ครม.ชุดใหม่ พอจะลดแรงต้าน และฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากประชาชนได้บ้าง" นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า สิ่งตนเป็นห่วงคือ แผนฟื้นฟูประเทศที่ต้องอาศัยความร่วมร่วมมือ และพลังแผ่นดินจากทุกภาคส่วน แต่อาจจะล้มเหลวไม่เป็นท่า ส่งผลให้กรรมการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิใน กยอ. หรือ กยน. อาจทยอยถอนตัวลาออก ถ้าโฉมหน้า ครม.ไม่ได้รับความเชื่อมั่น และการยอมรับในวงกว้าง เพราะหากพบว่ารัฐบาลชุดนี้คำนึงเฉพาะวาระการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น คนดีๆ ก็คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับรัฐบาล เพราะเปลืองตัว และตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น

** "ปู"แค่หุ่นเชิดไร้อำนาจปรับครม.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข่าวการปรับครม. ที่คนในพรรคเพื่อไทยอ้างว่าอยู่ที่การตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์ คนเดียว ว่า สังคมรู้ดีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีบทบาทและอำนาจในการปรับครม.มากน้อยเพียงใด คนในพรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องออกมากลบเกลื่อน หรือให้เครดิตกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะข้อเท็จจริงเป็นที่รับรู้กันอยู่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นแค่นายกฯหุ่นเชิด ไม่มีอำนาจใดๆ ในการแต่งตั้งครม. อย่าว่าแต่การจัดการ ครม.ของตัวเองเอง แค่แต่งตั้งข้าราชการระดับ 10 ก็ต้องรับฟังสัญญาณจากดูไบ

ดังนั้นเรื่องนี้ ถ้าไม่มีไฟ ก็ย่อมไม่มีควันออกมาให้เห็น การที่คนในพรรคเพื่อไทย บินไปสิงคโปร์ เป็นจำนวนมาก ย่อมแสดงให้เห็นว่า ศูนย์อำนาจที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์

" อย่าว่าแต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะมีอำนาจในการปรับครม.เลย น.ส.ยิ่งลักษณ์ เอง ถ้าไม่ใช่น้องสาวในไส้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่มีสิทธิ์จะเป็นนายกฯ และถ้าว่าไปตามเนื้อผ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ควรจะถูกปรับออกเป็นคนแรก ถ้าดูความสามารถกับตำแหน่งแล้ว แค่ เลขานุการรัฐมนตรี ก็ไม่แน่ใจว่าสามารถเป็นได้หรือไม่" นายเทพไท กล่าว

** ไม่เชื่อ"แม้ว"จะปรับ"ยงยุทธ"ออก

ส่วนการเคลื่อนไหวของ ส.ส.อีสาน ที่ต้องการผลักดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ปรับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย นั้น น่าจะเป็นยุทธการแย่งชิงเจ้ากระทรวงมหาดไทย ของคนในพรรคเพื่อไทยมากกว่า เพราะตำแหน่งนี้เป็นที่หมายปองของหลายคน แต่ไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะปรับนายยงยุทธ ออกจากตำแหน่งนี้ เพราะสถานะนายยงยุทธ ไม่ใช่สมาชิกพรรคธรรมดา แต่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถ้าจะปรับหัวหน้าพรรคของตัวเองออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องแปลกมากในระบบการเมือง

" นายยงยุทธ อยู่ในฐานะนายกฯ ตัวสำรองเสียด้วยซ้ำไป และการที่นายยงยุทธ ได้รับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหลายครั้งหลายคราว ก็ควรจะเป็นที่ไว้วางใจจากพ.ต.ท.ทักษิณ มากที่สุดคนหนึ่ง เพราะฉะนั้นการที่คนบางคนในพรรคเพื่อไทย ให้ส.ส.ในสังกัดของตัวเองออกมาเคลื่อนไหว น่าจะเป็นเรื่องการเมืองภายในพรรคในลักษณะลองของ จากผู้มีอำนาจในพรรคมากกว่า" นายเทพไท กล่าว

** ใบปลิวโจมตี"สันติ"ว่อน

เมื่อวานนี้ (11 ธ.ค.) กลุ่มมาตรฐานจริยธรรมศิษย์พ่อขุน นศ.รามคำแหง ได้จัดทำใบปลิว ในลักษณะหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ โจมตี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แจกจ่ายไปทั่วบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหง และห้างร้านต่างๆ โดยใบปลิวดังกล่าว ได้ทวงถามถึงจริยธรรมของ นายสันติ โดยอ้างว่ามีการทุจริตการสอบปริญญาตรี และปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ทำให้มหาวิทยาลัยรามคำแหง ลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา ตลอดจนการที่ถูกป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกระทำการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้อให้แก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิ์ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วง บางซื่อ บางใหญ่ ในสมัยที่นายสันติ เป็นรมว.คมนาคม นอกจากนี้ ยังมีการโยงใยไปถึงคดีปล้นบ้านของ นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของสังคมอยู่ในขณะนี้ด้วย

ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย กล่าวยอมรับว่า กระทรวงคมนาคม เป็นกระทรวง เกรดเอ ซึ่งมีผลประโยชน์มหาศาล และพัวพันมารัฐมนตรีหลายสมัย ล่าสุด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ยอมรับต่อคณะกรรมาธิการตรวจสอบทุจริต และธรรมาภิบาล วุฒิสภา ว่า ต้องการให้ค้นบ้าน 4 รัฐมนตรี ที่เคยคุมกระทรวงคมนาคม ซึ่งเชื่อว่าร่ำรวยผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม แม้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธถึงกระแสการปรับครม. และเป็นที่รู้กันในวงในว่าจะมีการปรับครม.ในต้นปีหน้า ซึ่งล่าสุดนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้รัฐมนตรีทุกคนทำการบ้านรายงานผลงานให้รอบ 3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อประกอบการพิจารณา โดยการปรับ ครม.ครั้งนี้ ยังคงปรากฏชื่อรัฐมนตรีที่ไร้ผลงาน ที่จะถูกปรับออกจากตำแหน่ง อาทิ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมว.ศึกษาธิการ นางบุญรื่น ศรีธเรศ รมช.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมถึง นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ผิดพลาดการบริหารจัดการน้ำด้วย

** "เด็จพี่"จี้"มาร์ค"ปรามโฆษกพรรค

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ตัวจริง โดยอ้างถึงกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทย และส.ส. เดินทางไปพบเพื่อหารือถึงการปรับครม. ว่า คำพูดของนายชวนนท์ เป็นการใช้จินตนาการ ไม่สร้างสรรค์ การปรับครม.เป็นการตัดสินใจของนายกฯ และกรรมการบริหารพรรค ส่วนกระแสว่าจะมีการปรับครม. 6-7 ตำแหน่งนั้น เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของบางบุคคล ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ แต่จะปรับหรือไม่ปรับตน เห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เหมือนการเล่นฟุตบอล ที่ต้องมีการเปลี่ยนตัวเข้าออก ภาพสะท้อนของผลโพล ก็เห็นแล้วว่า รัฐบาลแก้ปัญหาได้ถูกทาง เชื่อว่าการปรับ ครม. จะมีขึ้นในปีหน้า ไม่ใช่ปีนี้ ส่วนจะปรับใครเข้าออกนั้น นายกฯ กับคณะกรรมบริหารพรรคจะมีการหารือกันอีกครั้ง ไม่อยากให้คนของพรรคประชาธิปปัตย์ ออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ แกว่งปากหาเรื่องรายวัน จึง อยากให้นายอภิสิทธิ์ อบรมสั่งสอนสมาชิกพรรค โดยเฉพาะโฆษกพรรค ช่วยเรียก มาตบปากก็ยังดี.
กำลังโหลดความคิดเห็น