xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่”ฉุนโฆษก ปชป.บอก“แม้ว”นายกฯ ตัวจริง สวน แกว่งปากหาเรื่อง จี้“มาร์ค”สั่งสอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
โฆษกเพื่อไทย ฉุน“ชวนนท์”พูดแทงใจดำ “แม้ว”นายกฯ ตัวจริง แกนนำ-ส.ส.พรรคต้องวิ่งไปพบเรื่องปรับ ครม. สวนกลับ แกว่งปากหาเรื่อง วอน “อภิสิทธิ์”เรียกไปตบปาก อ้างอำนาจตัดสินใจอยู่ที่ “ยิ่งลักษณ์” ทำงง ปชป.ปกป้อง “มาร์ค-สุเทพ”เหตุสลายม็อบแดง


วันที่ 11 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคจะประชุมในวันที่ 13 ธ.ค.เวลา 13.30 น.เพื่อพิจารณากฎหมายเข้าสู่การประชุมสภาที่จะเปิดประชุมในวันที่ 21 ธ.ค. ทั้งนี้จะมีการเตรียมการด้านกฏหมายหลายเรื่อง ส่วนความเห็น ส.ส.บางคนเสนอให้แก้ พ.ร.บ.กลาโหม ส่วนตัวมองว่าเป็นกฎหมายที่ออกจากเผด็จการ เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง เห็นจากการแต่งตั้งโยกย้ายทหารเหมือนล็อกสเปกไว้ โดยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่มีอำนาจ หากมีการแก้ไขก็อาจจะเป็นผลดีกับประชาชน ส่วนข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคเคยใช้หาเสียงไว้ แต่จะแก้มาตราใดบ้าง ยังบอกไม่ได้ แต่จะมุ่งเน้นเพื่อความปรองดอง และประโยชน์ของคนในชาติเป็นหลัก ไม่ได้แก้เพื่อคนเพียงคนเดียว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ตัวจริง จากกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทย และ ส.ส.พรรคเดินทางไปพบเพื่อหารือถึงการปรับ ครม.ว่า คำพูดของนายชวนนท์ เป็นการใช้จินตนาการ ไม่สร้างสรรค์ การปรับ ครม.เป็นการตัดสินใจของนายกฯ และกรรมการบริหารพรรค ส่วนกระแสว่าจะมีการปรับ ครม.6-7 ตำแหน่งนั้น เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของบางบุคคล ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้ แต่จะปรับหรือไม่ปรับตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ เหมีอนการเล่นฟุตบอล ที่ต้องมีการเปลี่ยนตัวเข้าออก ภาพสะท้องของผลโพลล์ก็เห็นแล้วว่า รัฐบาลแก้ปัญหาได้ถูกทาง เชื่อว่าการปรับ ครม.จะมีขึ้นในปีหน้า ไม่ใช่ปีนี้ ส่วนจะปรับใครเข้าออกนั้น นายกฯ กับคณะกรรมบริหารพรรคจะมีการหารือกันอีกครั้ง ไม่อยากให้พรรคประชาธิปปัตย์ รวมถึงคนกลุ่มอื่นออกมาวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นการแกว่งปากหาเรื่องรายวัน เป็นการดิสเครดิสรัฐบาล การให้ข่าวของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งเสริมความปรองดอง อยากให้นายอภิสิทธิ์อบรมสั่งสอนสมาชิกพรรค โดยเฉพาะโฆษกพรรคช่วยเรียกนายชวนนท์มาตบปากก็ยังดี

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อ 10 เม.ย. และ พ.ค.53ว่า รู้สึกแปลกใจที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาปกป้องนายอภิสิทธิ์ทั้งที่ข้อเท็จจริงนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้แต่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ที่มีนายสุเทพเป็น ผอ.ศอฉ.การกระทำอย่างนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการยอมเสียเบี้ยเพื่อรักษาขุน ทั้งที่การเลือกตั้งเมื่อ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า นายอภิสิทธิ์ขายไม่ออก ยังปกป้องกันเหมือนไข่ในหินอีก เป็นการใช้มาตราฐานที่เพี้ยน นายอภิสิทธิ์เป็นผู้ตั้ง ศอฉ. และนายสุเทพก็เป็นผู้สั่งให้มีการใช้กำลังทหารและอาวุธ ตามที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อดีตโฆษก ศอฉ.ที่อยู่ในการประชุมทุกครั้ง ซึ่งออกมายืนยันว่ามีการให้เคลื่อนไหวกำลังทหารและการใช้อาวุธว่า เป็นคำสั่งของรัฐบาลฝ่ายการเมือง ทำให้เห็นว่าความรับผิดชอบในเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ กับนายสุเทพจะปฏิเสธได้อย่างไร แม้กฏหมายจะเอื้อมไปไม่ถึง แต่กระบวนการยุติธรรมยังดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมา

เป็นที่น่าสังเกตว่า การให้สัมภาษณ์ของนายพร้อมพงศ์ในประเด็นนี้ เป็นการพยายามบิดเบือนว่าชี้นำว่า พ.อ.สรรเสริญได้ให้การซัดทอดนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพเป็นผู้สั่งการให้ยิงคนเสื้อแดงในช่วงการชุมนุมปี 2553 ทั้งที่ พ.อ.สรรเสริญเคยชี้แจงแล้วว่า ข้อมูลที่ให้ปากคำกับตำรวจนั้นเป็นเรื่องการแต่งตั้ง ศอฉ.และสายอำนาจการบังคับบัญชา ซึ่งเป็นข้อมูลที่เคยเผยแพร่ทางสื่อมวลชนไปแล้วตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุการณ์

นายพร้อมพงศ์ ยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์การคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณสำนักงานกองสลาก ถ.ราชดำเนิน เมื่อวันที่ 6 ธ.คที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามเรื่องนี้อยู่ แต่ตนได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้เป็นกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มที่เสียประโยชน์ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์เหล่านี้หลังน้ำลด คนที่เคยยึดอำนาจอย่างพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช. ก็ออกมาพูดว่าการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย.49 นั้นเสียเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ อยากให้หน่วยงานทั้ง สตช.และหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ ให้รีบดำเนินคดี และสาวให้ถึงผู้บงการ เบื้องหลังเป็นใครมีไม่กี่คน แต่หนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มคนมีสีนอกแถว และมียศเป็นถึงพลเอก คนเหล่านี้หนักแผ่นดิน ซึ่งคนที่มีสีส่วนใหญ่ผ่านการอบรมมาแล้ว ควรให้ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่กลับเห็นเพียงผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง ไม่คิดถึงประโยชน์ชาติ

ส่วนกรณี นายชุติเดช สุวรรณเกิด คนสนิทของนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ถูกลอบยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายแทนคุณอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าเป็นเรื่องทางการเมือง ซึ่งเป็นการตัดสินใจเร็วเกินไป ขอให้ตำรวจดำเนินการเอาตัวคนผิดมาลงโทษก่อน เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของตำรวจไทยที่จะตามหาตัวคนร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น