ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -วิกฤติน้ำท่วมยังไม่ทันแห้ง ข่าวเกาเหลาชามยักษ์ที่คมนาคม ของ 3 รัฐมนตรี ก็ร้อนฉ่าสวนกระแส ตอกย้ำและเร่งเร้าว่า การปรับครม.ในเวลาอันใกล้นี้น่าจะดุเดือดไม่น้อย
หลัง..เพื่อไทยชนะเลือกตั้ง “ทักษิณ ชินวัตร” จับ ”ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แต่งหน้าทาปาก เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย และส่ง ”พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต” เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 ที่รั้งตำแหน่งจเรทหารทั่วไปกองทัพอากาศ ปลอบใจก่อนเกษียณ หลังจากที่ต้องอกหักจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารอากาศ นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม คุมโครงการรถไฟฟ้าและโปรเจ็กต์ใหญ่ของคมนาคม ที่เข้าคิวจ่อรอประมูล ...หลายหมื่นล้าน
ส่วนตำแหน่ง 2 รัฐมนตรีช่วยคมนาคม ตกเป็นของคนคุ้นเคยอย่าง ”พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก” และ ส.ส.12 สมัย ”กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์” ที่เป็นรองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 อีกตำแหน่งด้วย ส่วนตำแหน่งเลขาฯ และที่ปรึกษารัฐมนตรีเป็นการตบรางวัลให้กับเหล่าคนเสื้อแดง ไล่ตั้งแต่ นายชาญยุทธ เฮงตระกูล เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการคมนาคม,นายชินวัฒน์ หาบุญพาด เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสมบัติ รัตโน เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (เลขาฯ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก), นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก, นายวัน อยู่บำรุง เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (เลขาฯ นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์)
กลิ่นเกาเหลา เริ่มโชย หลัง ”สุกำพล” ในฐานะเจ้ากระทรวงเบอร์ 1 อดีตข้าราชการประจำ แบ่งหน่วยงานในสังกัดให้ 2 รมช.คมนาคมดูแล ซึ่งคนหนึ่งถือเป็นนักการเมืองมืออาชีพ อีกคนเป็นอดีตนายตำรวจแต่ก็ถือว่าเข้ามาในวงการการเมืองก่อน ตอกย้ำว่ารมต.กระทรวงนี้ ทำงานไม่เข้าขากันจริงๆ
จะว่าไปก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ หน่วยงานหลักๆ เจ้ากระทรวง จะดูเอง คุมเอง ซึ่งกระทรวงคมนาคมมี 6 หน่วยงาน 13 รัฐวิสาหกิจ สุกำพล ดูแล 4 หน่วยงาน คือ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.), กรมการบินพลเรือน (บพ.) , กรมทางหลวง (ทล.) ,สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และ 6 รัฐวิสาหกิจ คือ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) , การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) , บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.และบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
ส่วน พล.ต.ท.ชัจจ์ ดูแล 5 หน่วย คือ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) , การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) , องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) , บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด และ บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จำกัด ขณะที่ กิตติศักดิ์ ดูแล 5 หน่วยเท่ากัน คือ กรมเจ้าท่า (จท.) ,บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตลิ้งค์) , สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) , บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (รทส.)
“เจ้ากระทรวงคุม 10 หน่วย ส่วนรมช.คมนาคมแบ่งไปคนละ 5 หน่วยก็ดูเหมาะดี แต่ที่กลายเป็นปมคาใจให้ 2 รมต.เห็นจะเป็น 5 หน่วยที่ให้มานั้น บางหน่วย อย่างบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (รทส.) ที่ขาดทุนอย่างหนัก เพราะไร้การเหลียวแลจากฝ่ายนโยบายมานาน หรืออย่างบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (แอร์พอร์ตลิ้งค์) ที่เป็นบริษัทลูก ร.ฟ.ท. ก็น่าจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรมต.คนเดียวกัน รวมถึงบริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสเอเชีย จำกัด ที่น้อยคนนักที่จะรู้จัก ว่าเป็นหน่วยงานอะไร”
ข้อสงสัยที่ว่า สุกำพล แน่มาจากไหนถึงกล้าแบ่งงานแบบนี้ หรือ...จริงๆ แล้ว เป็นคำสั่งจากแดนไกล ที่ตั้งใจแบ่งงานให้ 2 รมต.แบบนั้น เพราะคนๆ นั้น ต้องการเป็นศูนย์กลางอำนาจ ปล่อยให้เละเทะแบบนี้ ไม่ให้ใครมีอำนาจเบ็ดเสร็จ พอมีเรื่องก็จะต้องวิ่งแจ้นแย่งกันฟ้องนาย...
บ่อยครั้ง จึงได้ยิน 2 รมต. บ่นแบบน้อยใจเล็กๆ ตามประสาคนอายุเลยแซยิดไปแล้ว ว่าทำงานอึดอัด จะตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องรอเจ้ากระทรวงเค้า นโยบายจะทำอย่างนี้ เจ้ากระทรวงก็ออกมาพุดอีกอย่าง กลายเป็นภาพความขัดแย้ง นโยบายสวนกัน เป็นแค่รัฐมนตรีช่วยฯ จะไปสู่รัฐมนตรีว่าการฯ ได้อย่างไร อันนี้ก็น่าเห็นใจ
ไม่เพียงแต่ 2 รมต.จะมีปัญหา บรรดา เลขาฯ และ ที่ปรึกษา ก็ออกอาการ ไม่เอาเจ้ากระทรวงเส้นใหญ่เหมือนกัน ถึงขนาดมีข่าวว่า นายชาญยุทธ เฮงตระกูล เลขานุการรมว.คมนาคม ที่เดินทางไปร่วมทอดกฐินพระราชทานที่วัดป่าพุทธคยา ประเทศอินเดีย พร้อมกับคณะส.ส. และสมาชิกของพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าพล.อ.อ.สุกำพลรวบอำนาจไว้คนเดียว ทั้งที่มีรัฐมนตรีช่วยถึง 2 คน นอกจากนั้นยังรวบอำนาจการบริหารจัดการงบประมาณภายในกระทรวงไว้ด้วย ส่วนตนเองเป็นเลขาฯ จะเข้าพบยังต้องขออนุญาตหน้าห้องก่อน
ปัญหาการทำงานที่เข้ากันไม่ได้อย่างรุนแรง ของรมต.คมนาคม 3 คน และมีการบินไปฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ถึง 2 ครั้ง ล่าสุดมีข่าวว่า พล.ต.ท.ชัจจ์ บินไปฮ่องกง พบทักษิณ ด้วยตัวเอง และทำให้เกาเหลาชามโตนี้เดือดปุดๆ ขึ้นมา จน 3 รมต.ต้องปิดห้องเคลียร์ใจ แว่ว!ว่า นายใหญ่ ไม่พอใจ เรื่องนี้มาก ส่วนไม่พอใจใคร ก็ให้จับสังเกต อาการแต่ละคน เอา...เรื่องแบบนี้ ปิดอย่างไรก็ไม่อยู่
เสียงปรามจากคนไกล...ให้เลิกสร้างเรื่อง สร้างปัญหา ... จึงเป็นที่มา 3 รมต. จับมือเคลียร์ใจ โชว์สื่อ
มีแหล่งข่าวแจ้งว่า ฝ่ายนักการเมืองมืออาชีพหลายสมัย ซึ่งหอบลูกมาช่วยทำงานเต็มหน้าห้อง ไม่พอใจ เจ้ากระทรวงเส้นใหญ่มาก นอกจากเรื่องแบ่งงานที่ได้คุมหน่วยงานเล็กๆ แล้ว ในฐานะที่มีส.ส.อีสานเป็น 100 คนสนับสนุนมา เคยเอ่ยปากให้เจ้ากระทรวงดูแล เหล่าบรรดาส.ส.เหล่านี้ด้วย เพราะส.ส.พวกนี้อยู่ต่างจังหวัด ดูแลประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคทั้งนั้น
ดังนั้นก็ควรจะดูแล เน้นไปที่ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่กระทรวงคมนาคม สามารถจัดสรรให้ได้แบบสบายๆ จะตัดแบ่ง จากงบประมาณกรมไหนสักกรมก็ไม่น่าลำบาก จัดให้คนละ ล้าน สองล้าน 100 คนก็ 200 ล้าน แค่จิ๊บๆ หากเทียบกับงบปีละแสนล้านของกระทรวงคมนาคม... แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากเจ้ากระทรวง
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสปรับครม. “ชัจจ์-กิตติศักดิ์” 2 รมต.คมนาคม ยังมีชื่อติดโผ มีโอกาสถูกปรับออกจาก”ครม.ยิ่งลักษณ์” ส่วน”สุกำพล” เค้าว่า ยังแข็งปั๋ง...