xs
xsm
sm
md
lg

น้ำท่วมฉุดเชื่อมั่นต่ำสุดรอบ10ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ประชาชนยังไม่เชื่อมั่น ค่าดัชนีผู้บริโภคเดือนพ.ย.ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 และต่ำสุดในรอบ 10 ปี หลังเจอวิกฤตน้ำท่วมหนัก คาดแนวโน้มกระเตื้องขึ้น เหตุน้ำท่วมคลี่คลาย ประชาชนทำใจได้ รัฐเริ่มฟื้นฟู ประเมินจะดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีหน้า จับตาจีดีพีปีหน้า หากแบงก์ไม่ปล่อยกู้ เศรษฐกิจโลกซบ การเมืองมีปัญหา โอกาสโตต่ำสูง

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยประจำเดือนพ.ย.2554 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นปรับลดลงทุกรายการเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 61 ลดลงจากเดือนต.ค.2554 ที่ 62.8 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 10 ปี ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 62.5 ลดจาก 63.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 89.5 ลดจาก 90.9 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ย.2554 อยู่ที่ 71 ลดลงจากเดือน ต.ค.2554 ที่ 72.4 ซึ่งลดต่ำสุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบันอยู่ที่ 51.5 ลดจาก 53.6และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 77.8
ลดจาก 79.0

ปัจจัยลบที่มีต่อความเชื่อมั่น มาจากผลกระทบภาวะน้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ตลอดจนนิคมอุตสาหกรรม จนสร้างความเสียหายต่อภาคอุตสาหกรรม ทรัพย์สินของประชาชน การท่องเที่ยว การค้า และการเกษตร รองลงมา คือ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2554จาก 2.7% เหลือ 1.7-2.0% ประกอบกับความกังวลต่อความผันผวนเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของยุโรปที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นภายหลังน้ำลด รวมถึงราคาน้ำมันขายปลีกที่ปรับเพิ่มลิตรละ 1.50 บาท

ส่วนปัจจัยบวกมาจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 3.25% รวมถึงการส่งออกเดือนต.ค.2554 ยังขยายตัว และค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อย

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงยังกระทบให้ความเหมาะสมในการจับจ่ายใช้สอยซื้อรถยนต์คันใหม่ บ้านหลังใหม่ ท่องเที่ยว และการลงทุนทำธุรกิจเอสเอ็มอีลดลง โดยการซื้อรถยนต์เหลือระดับ 89.1 ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน บ้านหลังใหม่ลดเหลือระดับ 68.5 ต่ำสุดในรอบ 30 เดือน การท่องเที่ยวที่ 84.3 ต่ำสุดในรอบ 26 เดือน และการลงทุนธุรกิจเอสเอ็มอีที่ 76.5 ต่ำสุดในรอบ 28 เดือน

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับตัวลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย. ปัจจัยสำคัญจากปัญหาน้ำท่วม แต่ความเชื่อมั่นลดในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน ดังนั้น ในเดือนธ.ค.ความเชื่อมั่นไม่น่าจะปรับลดลงไปกว่านี้ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย ประชาชนปรับตัวได้ ทำให้จะไม่เห็นสัญญาความเชื่อมั่นที่ลดลงอีก

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ และอสังหาริมทรัพย์อาจไม่คึกคักนัก เพราะประชาชนส่วนหนึ่งมีการเดินทางออกไปท่องเที่ยวแล้วในช่วงเกิดน้ำท่วม ขณะเดียวกันก็มีการลังเลใจซื้อบ้านหลังใหม่เพื่อรอดูพื้นที่ที่ไม่ประสบภัยน้ำท่วม จึงอาจเห็นสัญญาณชะลอตัว 3-6 เดือน ส่วนการซื้อรถยนต์จะฟื้นกลับเร็วได้ในปลายปีนี้ หรือต้นปีหน้า

สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจปีหน้าต้องจับตาใน 5 ปัจจัย ได้แก่ การใช้งบประมาณฟื้นฟูหลังน้ำลดจากรัฐบาล การปล่อยกู้ของสถาบันการเงินกว่าแสนล้านบาท การเริ่มจ่ายค่าสินไหมชดเชยประกันภัยภายในเดือนม.ค.2555 สถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปไม่ทรุดตัวอย่างรุนแรง และการเมืองภายในประเทศไม่เกิดการชุมนุมประท้วงบานปลายจนกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและการท่องเที่ยวต่างชาติ โดยหากเป็นไปตามแผนจีดีพีปี 2555 จะเติบโตได้ระดับ 4-5% แต่กลับกันหากการปล่อยกู้สถาบันการเงินติดขัด การจ่ายสินไหมประกันภัยล่าช้า เศรษฐกิจโลกเกิดปัญหารุนแรงจนกระทบต่อการส่งออก และเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจะทำให้จีดีพีปีหน้าของไทยเหลือเติบโตแค่ 2-3%

“น้ำหนักที่มีผลต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ มาจากความรวดเร็วในการฟื้นฟูหลังน้ำลด รองลงมาเป็นความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่ถึงขณะนี้ยังคาดว่าแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะค่อยๆ ฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป และกลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค.ถึงไตรมาส 2 ปี 2555โดยปัจจัยหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเดือนธ.ค.ถึง 1.6 ล้านคน รวมถึงการมีเม็ดเงินจากภาครัฐและเอกชนในการฟื้นฟูน้ำท่วมเข้ามา 7 แสนล้านบาท”นายธนวรรธน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น