ASTVผู้จัดการรายวัน-“บิ๊กโอ๋”ควง”ชัจจ์-กิตติศักดิ์”แถลงเคลียร์ข่าวเกาเหลา อัดพวกเสี้ยมจนเป็นเรื่องใหญ่ ชี้มีปัญหาเล็กน้อยช่วงแรก เพราะทำงานไม่เข้าขา แต่ก็จบไปแล้ว ปัดไม่ได้สร้างภาพ ชี้สื่อคงไม่มีข่าวอะไรมันส์เท่าข่าวนี้ แจงปรับครม.อยู่ที่นายกฯ ให้คะแนน ขณะที่ "กิตติศักดิ์”ให้สมภาษณ์ช่วงเช้า ซัดไม่มีอำนาจตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจ พร้อมปฏิเสธขน 100 ส.ส.อีสานกดดัน แค่ขอให้ช่วยดูแลกันบ้าง ส่วน "ชัจจ์”ออกอาการเซ็งข่าวเกินจริงจนกลายเป็นเรื่องใหญ่
ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ 2 รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน ในช่วงที่มีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนี้ ถึงขั้นมีการบินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกงนั้น
ในช่วงสาย วานนี้ (6 ธ.ค.) พล.อ.อ.สุกำพล ได้ออกมายืนยันว่า การทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ทุกอย่างจบแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ให้ถาม พล.ต.ท.ชัจจ์ จะดีกว่า
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกระแสข่าวปัญหาความขัดแย้งการทำงานในกระทรวงคมนาคม โดยยอมรับว่า เป็นรัฐมนตรีช่วย จึงไม่สามารถไปบอกได้ว่าอยากดูแลทำงานอะไรได้บ้าง รัฐมนตรีว่าการแบ่งงานอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น ก็แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า ส.ส.บางคนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาและช่วยเคลียร์ใจให้ นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า คงเป็นเรื่องระหว่าง ส.ส.และรมว.คมนาคม ส่วนตนขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกับระบุว่า ไม่ได้มีอำนาจแต่งตั้งบอร์ดในรัฐวิสาหกิจใดๆ รมว.คมนาคม เป็นคนแต่งตั้งมาทั้งหมด ซึ่งเมื่อแต่งตั้งมาแล้วก็ค่อยมาว่ากันอีกครั้งว่าทำงานกันอย่างไร ที่พูดก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ และไม่ได้น้อยใจ เพราะบอร์ดต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ซึ่งหากบอร์ดทำงานได้ดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทำไม่ดีเราก็ต้องพิจารณา
"วันนี้ภายในกระทรวงยังไม่มีอะไรที่ติดขัด ผมก็พูดคุยกับท่านชัจจ์ อยู่ตลอดและคิดตรงกันว่าตอนนี้ก็คอยดูงานไปก่อน เมื่อเขาตั้งมาเราก็คอยจับตาดูตลอด ถ้างานไม่เดินก็ต้องคุยกัน แต่ถ้างานเดินเราก็ปล่อยเขาไป ตอนนี้ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรในกระทรวงแล้ว ถ้าเขาอยากบริหารมากก็ให้บริหารไป ผมมาดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนดีกว่า
ยืนยันไม่มีน้อยใจอะไรทั้งนั้น อายุปูนนี้แล้ว ส่วนการปรับ ครม.เป็นเรื่องของพรรค พรรคมีมติอย่างไร เราก็ว่าอย่างนั้น แต่วันนี้ยังไม่มีอะไร เห็นแต่จากข่าวตามสื่อ ยังไม่ได้ยินจากพรรค" นายกิตติศักดิ์กล่าว
ในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ได้เข้าพบพล.อ.อ.สุกำพล และมีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ที่ต้องขอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการร่วมกัน เนื่องจากมีข่าวว่า3 รัฐมนตรีเกาเหลากัน ยืนยันว่า ในห้องนี้ ไม่มีเกาหลา สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเล็กน้อย แต่เอาไปขยายความจนทำให้กระทรวงคมนาคมสะเทือน เหมือนไม่สามัคคีกัน รัฐมนตรี 3 คน ตนถือว่าเป็นน้องสุด ยอมรับว่า แรกๆ อาจจะมีปัญหากันบ้าง เพราะยังไม่เข้าขากัน แต่มาตอนนี้เข้าใจกันดี ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนที่แต่ละท่านให้สัมภาษณ์นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว มีเอาไปขยายความเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารมช.กิตติศักดิ์ จะนำ ส.ส. 100 คนมาไล่ตนนั้น ก็ได้สอบถามแล้วว่าไม่มี อย่ามาผูกเรื่อง กระทรวงคมนาคมไม่มีแบบนี้
“ผมยืนยันว่ารัฐมนตรี 3 คนอยู่กันแบบพี่แบบน้อง แม้ว่าผมจะเป็นว่าการฯ แต่ก็เป็นน้อง ผมให้เกียรติพี่ 2 คน ซึ่งเราเข้าใจกัน วันนี้ไม่ได้มาสร้างภาพ แล้วไปเกาหลากันต่อ การสัมภาษณ์ที่ยุให้เรามีอะไรกัน ซึ่งผมก็ไม่ใช่นักให้สัมภาษณ์ที่ดีนัก ขอยืนยันว่าเรา 3 คน ไม่ได้มาสร้างภาพ นี่คือความจริงของกระทรวงคมนาคม เราทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน เข้ามาทำงาน 4 เดือน มี 1 เดือนกว่าที่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะปัญหาน้ำท่วม ตอนนี้กลับมาแล้วก็เข้าใจกันมากขึ้น ส่วน ส.ส.ต่างๆ ผมก็ไปพบ ไปคุยด้วย ไม่ใช่ไม่สนใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจ อย่ามาเสี้ยมพวกผม ขอให้เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ผมเป็นทหารถ้าไม่ชอบใจจะบอกตรงๆ ไม่อ้อมค้อม กรณีที่ท่านกิตติศักดิ์ให้สัมภาษณ์เรื่องส.ส. 100 คนนั้น ท่านก็บอกผมว่า ท่านมีส.ส.ภาคอีสาน 100 คน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอามาไล่ผม”พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
ส่วนการแบ่งงานของกระทรวงคมนาคมและการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ พล.อ.อ. สุกำพลกล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นไปตามโควตา เช่น บอร์ดโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ ซึ่งรมช.กิตติศักดิ์ ดูแลนั้น จะตั้งโดยผู้ถือหุ้น คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย ซึ่งงานในกระทรวงคมนาคม ในภาพรวมตนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนรมช. 2 ท่านก็รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล เป็นผู้แถลงข่าวคนเดียว ส่วนพล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ ไม่ได้กล่าวอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถาม โดยขอคำยืนยันจาก 2 รมช.คมนาคมว่า คุยกันเคลียร์แล้ว ไม่ติดใจใช้หรือไม่ พล.อ.อ. สุกำพล กล่าวว่า ตนพูดแล้วไม่เชื่อกันเลย ให้นายกิตติศักดิ์ ต้องยืนยันว่า ได้คุยและตกลงกันมอบให้พล.อ.อ.สุกำพลเป็นผู้แถลง อย่าให้ต้องพูดซ้ำ เพราะเป็นสิ่งที่คุยกันจบแล้ว โดยยืนยันอีกครั้งถึงเรื่อง สส. 100 คนว่า ไม่ได้มากดดัน ตนบอกแค่ว่า มีสส. อีสานกว่า 100 คน ดูแลกันหน่อย เพราะมันมาก ท่านก็บอกว่าพร้อมดูแลให้ ก็จบ ก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวถามพยายามสอบถามพล.ต.ท.ชัจจ์ ซึ่งไม่ยอมตอบคำถามโดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รมว.คมนาคมพูดไปแล้ว สบายใจแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกาวใจในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่มี และถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีเรียกคุยหรือไม่ ก็ยืนยันว่า ไม่มี เมื่อเป็นข่าวก็คุยกัน ข่าวลงกันสนุกสนาน เพราะข่าวคงไม่มี เรื่องพวกตนเลยมันส์ที่สุด ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไร สื่อเอามาจับชนกันให้เป็นข่าวใหญ่ การทำงานก็มีบ้างที่ไม่เข้าใจกันแต่เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว คุยกันได้ ส่วนสาเหตุที่เป็นข่าวเพราะใกล้ปรับครม.นั้น ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่เรื่องปรับครม.ต้องแล้วแต่ นายกฯ ที่จะดูการทำงานและให้คะแนน ซึ่งตนคงให้คะแนนตัวเองไม่ได้
อย่างไรก็ตาม โครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ รถไฟฟ้าแต่ละสี จะเสร็จเมื่อไรนั้น ขณะนี้ให้แต่ละหน่วยงานทำตารางการทำงานและความคืบหน้า เพราะถือว่าเป็น KPI ของผู้บริหารที่จะทำได้หรือไม่ด้วย และในเดือนม.ค. 2555 ได้เชิญนายกฯ มาตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะมีการรายงานถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ รวมถึงปัญหาอุปสรรคและงานที่จะทำเพิ่มนอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว พล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ ได้กลับเข้าห้องทำงานทันที โดยผู้สื่อข่าวตามไปสอบถามพล.ต.ท.ชัจจ์ เพิ่มเติมซึ่งได้รับการยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ออกมาเกินความเป็นจริง กลายเป็นตนเอาเสื้อแดงมาไปกันใหญ่ เป็นภาพที่ไม่ดีทั้งๆ ที่เรื่องจบไปแล้ว
ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ 2 รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงคมนาคม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน ในช่วงที่มีกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในขณะนี้ ถึงขั้นมีการบินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกงนั้น
ในช่วงสาย วานนี้ (6 ธ.ค.) พล.อ.อ.สุกำพล ได้ออกมายืนยันว่า การทำงานร่วมกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ทุกอย่างจบแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแถลงข่าวเพื่อความชัดเจนหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ให้ถาม พล.ต.ท.ชัจจ์ จะดีกว่า
ขณะที่นายกิตติศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงกระแสข่าวปัญหาความขัดแย้งการทำงานในกระทรวงคมนาคม โดยยอมรับว่า เป็นรัฐมนตรีช่วย จึงไม่สามารถไปบอกได้ว่าอยากดูแลทำงานอะไรได้บ้าง รัฐมนตรีว่าการแบ่งงานอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น ก็แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า มีข่าวว่า ส.ส.บางคนเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาและช่วยเคลียร์ใจให้ นายกิตติศักดิ์ ตอบว่า คงเป็นเรื่องระหว่าง ส.ส.และรมว.คมนาคม ส่วนตนขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร พร้อมกับระบุว่า ไม่ได้มีอำนาจแต่งตั้งบอร์ดในรัฐวิสาหกิจใดๆ รมว.คมนาคม เป็นคนแต่งตั้งมาทั้งหมด ซึ่งเมื่อแต่งตั้งมาแล้วก็ค่อยมาว่ากันอีกครั้งว่าทำงานกันอย่างไร ที่พูดก็ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ และไม่ได้น้อยใจ เพราะบอร์ดต่างๆ ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ซึ่งหากบอร์ดทำงานได้ดีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทำไม่ดีเราก็ต้องพิจารณา
"วันนี้ภายในกระทรวงยังไม่มีอะไรที่ติดขัด ผมก็พูดคุยกับท่านชัจจ์ อยู่ตลอดและคิดตรงกันว่าตอนนี้ก็คอยดูงานไปก่อน เมื่อเขาตั้งมาเราก็คอยจับตาดูตลอด ถ้างานไม่เดินก็ต้องคุยกัน แต่ถ้างานเดินเราก็ปล่อยเขาไป ตอนนี้ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรในกระทรวงแล้ว ถ้าเขาอยากบริหารมากก็ให้บริหารไป ผมมาดูแลแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนดีกว่า
ยืนยันไม่มีน้อยใจอะไรทั้งนั้น อายุปูนนี้แล้ว ส่วนการปรับ ครม.เป็นเรื่องของพรรค พรรคมีมติอย่างไร เราก็ว่าอย่างนั้น แต่วันนี้ยังไม่มีอะไร เห็นแต่จากข่าวตามสื่อ ยังไม่ได้ยินจากพรรค" นายกิตติศักดิ์กล่าว
ในวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ได้เข้าพบพล.อ.อ.สุกำพล และมีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ที่ต้องขอแถลงข่าวอย่างเป็นทางการร่วมกัน เนื่องจากมีข่าวว่า3 รัฐมนตรีเกาเหลากัน ยืนยันว่า ในห้องนี้ ไม่มีเกาหลา สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเล็กน้อย แต่เอาไปขยายความจนทำให้กระทรวงคมนาคมสะเทือน เหมือนไม่สามัคคีกัน รัฐมนตรี 3 คน ตนถือว่าเป็นน้องสุด ยอมรับว่า แรกๆ อาจจะมีปัญหากันบ้าง เพราะยังไม่เข้าขากัน แต่มาตอนนี้เข้าใจกันดี ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนที่แต่ละท่านให้สัมภาษณ์นั้นเป็นเรื่องส่วนตัว มีเอาไปขยายความเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารมช.กิตติศักดิ์ จะนำ ส.ส. 100 คนมาไล่ตนนั้น ก็ได้สอบถามแล้วว่าไม่มี อย่ามาผูกเรื่อง กระทรวงคมนาคมไม่มีแบบนี้
“ผมยืนยันว่ารัฐมนตรี 3 คนอยู่กันแบบพี่แบบน้อง แม้ว่าผมจะเป็นว่าการฯ แต่ก็เป็นน้อง ผมให้เกียรติพี่ 2 คน ซึ่งเราเข้าใจกัน วันนี้ไม่ได้มาสร้างภาพ แล้วไปเกาหลากันต่อ การสัมภาษณ์ที่ยุให้เรามีอะไรกัน ซึ่งผมก็ไม่ใช่นักให้สัมภาษณ์ที่ดีนัก ขอยืนยันว่าเรา 3 คน ไม่ได้มาสร้างภาพ นี่คือความจริงของกระทรวงคมนาคม เราทำงานให้เกียรติซึ่งกันและกัน เข้ามาทำงาน 4 เดือน มี 1 เดือนกว่าที่ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะปัญหาน้ำท่วม ตอนนี้กลับมาแล้วก็เข้าใจกันมากขึ้น ส่วน ส.ส.ต่างๆ ผมก็ไปพบ ไปคุยด้วย ไม่ใช่ไม่สนใจ ขอให้ทุกคนเข้าใจ อย่ามาเสี้ยมพวกผม ขอให้เสนอข่าวอย่างสร้างสรรค์ ผมเป็นทหารถ้าไม่ชอบใจจะบอกตรงๆ ไม่อ้อมค้อม กรณีที่ท่านกิตติศักดิ์ให้สัมภาษณ์เรื่องส.ส. 100 คนนั้น ท่านก็บอกผมว่า ท่านมีส.ส.ภาคอีสาน 100 คน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเอามาไล่ผม”พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
ส่วนการแบ่งงานของกระทรวงคมนาคมและการแต่งตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ พล.อ.อ. สุกำพลกล่าวว่า การแต่งตั้งเป็นไปตามโควตา เช่น บอร์ดโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิ ซึ่งรมช.กิตติศักดิ์ ดูแลนั้น จะตั้งโดยผู้ถือหุ้น คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย ซึ่งงานในกระทรวงคมนาคม ในภาพรวมตนเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ส่วนรมช. 2 ท่านก็รับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล เป็นผู้แถลงข่าวคนเดียว ส่วนพล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ ไม่ได้กล่าวอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถาม โดยขอคำยืนยันจาก 2 รมช.คมนาคมว่า คุยกันเคลียร์แล้ว ไม่ติดใจใช้หรือไม่ พล.อ.อ. สุกำพล กล่าวว่า ตนพูดแล้วไม่เชื่อกันเลย ให้นายกิตติศักดิ์ ต้องยืนยันว่า ได้คุยและตกลงกันมอบให้พล.อ.อ.สุกำพลเป็นผู้แถลง อย่าให้ต้องพูดซ้ำ เพราะเป็นสิ่งที่คุยกันจบแล้ว โดยยืนยันอีกครั้งถึงเรื่อง สส. 100 คนว่า ไม่ได้มากดดัน ตนบอกแค่ว่า มีสส. อีสานกว่า 100 คน ดูแลกันหน่อย เพราะมันมาก ท่านก็บอกว่าพร้อมดูแลให้ ก็จบ ก็ไม่ติดใจอะไรแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้สื่อข่าวถามพยายามสอบถามพล.ต.ท.ชัจจ์ ซึ่งไม่ยอมตอบคำถามโดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า รมว.คมนาคมพูดไปแล้ว สบายใจแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกาวใจในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่มี และถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีเรียกคุยหรือไม่ ก็ยืนยันว่า ไม่มี เมื่อเป็นข่าวก็คุยกัน ข่าวลงกันสนุกสนาน เพราะข่าวคงไม่มี เรื่องพวกตนเลยมันส์ที่สุด ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไร สื่อเอามาจับชนกันให้เป็นข่าวใหญ่ การทำงานก็มีบ้างที่ไม่เข้าใจกันแต่เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว คุยกันได้ ส่วนสาเหตุที่เป็นข่าวเพราะใกล้ปรับครม.นั้น ก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่เรื่องปรับครม.ต้องแล้วแต่ นายกฯ ที่จะดูการทำงานและให้คะแนน ซึ่งตนคงให้คะแนนตัวเองไม่ได้
อย่างไรก็ตาม โครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ รถไฟฟ้าแต่ละสี จะเสร็จเมื่อไรนั้น ขณะนี้ให้แต่ละหน่วยงานทำตารางการทำงานและความคืบหน้า เพราะถือว่าเป็น KPI ของผู้บริหารที่จะทำได้หรือไม่ด้วย และในเดือนม.ค. 2555 ได้เชิญนายกฯ มาตรวจเยี่ยมกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะมีการรายงานถึงความคืบหน้าโครงการต่างๆ รวมถึงปัญหาอุปสรรคและงานที่จะทำเพิ่มนอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว พล.ต.ท.ชัจจ์และนายกิตติศักดิ์ ได้กลับเข้าห้องทำงานทันที โดยผู้สื่อข่าวตามไปสอบถามพล.ต.ท.ชัจจ์ เพิ่มเติมซึ่งได้รับการยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร ข่าวที่ออกมาเกินความเป็นจริง กลายเป็นตนเอาเสื้อแดงมาไปกันใหญ่ เป็นภาพที่ไม่ดีทั้งๆ ที่เรื่องจบไปแล้ว
