ASTVผู้จัดการรายวัน-"นพเหล่"ปัด "แม้ว"ไม่ยุ่งเรื่องปรับครม. อ้างเป็นการตัดสินใจของ"ปู" คนเดียว ด้านปชป.จี้ปรับทันที ไม่ต้องรอพวกบ้านเลขที่ 111 พ้นโทษ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังปีใหม่ ว่า โดยกติกาและมารยาทแล้ว ผู้ที่จะเป็นคนตัดสินใจว่ามีการปรับครม. เมื่อใด และปรับใครบ้าง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะเป็นนายกรัฐมนตรี และทำงานกับรัฐมนตรีทุกวัน ย่อมรู้ดีว่าใครทำงานเป็นอย่างไร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เสมือนเป็นกัปตันทีม ย่อมเป็นผู้กำหนดคนให้ตรงกับงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคตามที่ได้หาเสียงไว้ และผลักดันนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภา ดังนั้น ขอร้องสารพัดแหล่งข่าวทั้งหลาย กรุณาอย่าสร้างความสับสนในการให้ข่าวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย
ทั้งนี้ การปรับครม. เป็นเรื่องปกติธรรมดาทางการเมือง คนที่ทำงานเก่งก็ทำต่อ คนที่ไม่มีผลงาน ก็ควรเปิดอกาสให้คนอื่นเข้าไปทำงานให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ และมีคนเก่งหลายคน ถ้าจะมีการปรับ ตัวชี้วัด คือ เนื้องาน ไม่ใช่เนื้อโวหาร เพราะบุคลิกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินคนที่ฝีมือไม่ใช่ฝีปาก
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีภาวะผู้นำนั้น ไม่ทราบว่าเอาอะไรมาพูด เพราะยังไม่รู้จักน.ส.ยิ่งลักษณ์ดีพอ รับรองว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ มีภาวะผู้นำแน่นอน และจะได้เห็นมากยิ่งขึ้น ในการนำพาการฟื้นฟูประเทศขนานใหญ่
นายนพดลกล่าวถึงการเดินทางของส.ส. และนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่ไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเรื่องปกติที่คนที่เคารพรักกันจะไปมาหาสู่กัน เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่และมีประสบการณ์มากมาย การพูดคุย ปรึกษาหารือกันในเรื่องต่างๆ ก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ส.ส. และรัฐมนตรีของพรรค ต้องดำเนินการตามนโยบายของพรรค และนโยบายของรัฐบาล ถ้ามีเรื่องงานใดๆ ก็สามารถขอหารือ และรับนโยบายจากท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้อยู่แล้ว
** "เหลิม"ไม่กลัวถูกปรับพ้นครม.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวการปรับครม. ช่วงหลังปีใหม่ว่า ไม่ทราบจริงๆ ตนไปปักกิ่งไม่เจอใคร เจอเเต่หิมะตก หนาวจริงๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า หนาวนี่ คือ หนาวๆ ร้อนๆ กลัวโดนปรับออกหรือ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่เคยคิดอยู่เเล้ว จะอยู่ก็อยู่ จะไปก็ไป
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนไปเตียหยูไถ่ ไม่น่าเชื่อข้าราชการบางระดับ เขาบอกมีนักการเมืองไทยบางคนไปที่ปักกิ่ง เขาด่าเช็ดเลย จะไปเอาเงินเอาทองเขามาลงทุน ก่อนอื่นขอ 2 พันล้าน ถ้าใครได้ยินเเล้วโปรดทราบ ถ้าใครไปคิดไปพูดเอาไว้ ขอให้ความวิบัติจงเกิดขึ้น
"เขาดูถูกประเทศไทยเหลือเกิน น่าเกลียด บางคนเห็นสภาพอย่านึกว่าหล่อ โอ้โห มันชาติชั่วจริงๆ เขาด่ากันเช็ดเลย ฟังเเล้วไม่น่าเชื่อ เอ๊ะทำไมเมืองไทยคนชื่นชมกันนักนะ ที่นั้นไปเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เลย เขาไม่ต้อนรับ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
**ปชป.จี้ปรับครม.ทันที ไม่ต้องรอ 111
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการตั้งครม.ชุดนี้ ผิดฝาผิดตัวมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังมีลักษณะที่ว่า คนคิดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้เป็นผู้คิด อาทิ ในกรณีของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่มีส่วนจัดทำนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่มีส่วนร่วมคิดค้นนโยบายค่าแรง 300 บาทต่อวัน นายประภัสร์ จงสงวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีส่วนร่วมในการคิดนโยบายด้านการคมนาคม
"ผู้ที่มีรายชื่อดังกล่าว กลับไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ ในครม. เหมือนกับเป็นการหลอกใช้คนเหล่านี้ ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคน และได้รับข้อมูลว่า ต่างอึดอัดและรู้สึกเสียดาย เพราะการที่จะเป็นรัฐมนตรีได้ ไม่ได้อยู่ที่ความรู้ความสามารถ แต่อยู่ที่เป็นคนของใครเท่านั้น"
นายเทพไทกล่าวว่า ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ดำเนินการปรับครม. ตามความรู้ความสามารถเลยทันที โดยไม่ต้องรอการพ้นโทษของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 แต่คิดว่าคงจะไปคาดหวังไมได้ เพราะพรรคเพื่อไทย มีการบริหารงานแบบบริษัทจำกัด ทุกอย่างล้วนขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังปีใหม่ ว่า โดยกติกาและมารยาทแล้ว ผู้ที่จะเป็นคนตัดสินใจว่ามีการปรับครม. เมื่อใด และปรับใครบ้าง คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะเป็นนายกรัฐมนตรี และทำงานกับรัฐมนตรีทุกวัน ย่อมรู้ดีว่าใครทำงานเป็นอย่างไร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เสมือนเป็นกัปตันทีม ย่อมเป็นผู้กำหนดคนให้ตรงกับงานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคตามที่ได้หาเสียงไว้ และผลักดันนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภา ดังนั้น ขอร้องสารพัดแหล่งข่าวทั้งหลาย กรุณาอย่าสร้างความสับสนในการให้ข่าวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย
ทั้งนี้ การปรับครม. เป็นเรื่องปกติธรรมดาทางการเมือง คนที่ทำงานเก่งก็ทำต่อ คนที่ไม่มีผลงาน ก็ควรเปิดอกาสให้คนอื่นเข้าไปทำงานให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ และมีคนเก่งหลายคน ถ้าจะมีการปรับ ตัวชี้วัด คือ เนื้องาน ไม่ใช่เนื้อโวหาร เพราะบุคลิกของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ตัดสินคนที่ฝีมือไม่ใช่ฝีปาก
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มีภาวะผู้นำนั้น ไม่ทราบว่าเอาอะไรมาพูด เพราะยังไม่รู้จักน.ส.ยิ่งลักษณ์ดีพอ รับรองว่านายกรัฐมนตรีคนนี้ มีภาวะผู้นำแน่นอน และจะได้เห็นมากยิ่งขึ้น ในการนำพาการฟื้นฟูประเทศขนานใหญ่
นายนพดลกล่าวถึงการเดินทางของส.ส. และนักการเมืองพรรคเพื่อไทย ที่ไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเรื่องปกติที่คนที่เคารพรักกันจะไปมาหาสู่กัน เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่และมีประสบการณ์มากมาย การพูดคุย ปรึกษาหารือกันในเรื่องต่างๆ ก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม ส.ส. และรัฐมนตรีของพรรค ต้องดำเนินการตามนโยบายของพรรค และนโยบายของรัฐบาล ถ้ามีเรื่องงานใดๆ ก็สามารถขอหารือ และรับนโยบายจากท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้อยู่แล้ว
** "เหลิม"ไม่กลัวถูกปรับพ้นครม.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวการปรับครม. ช่วงหลังปีใหม่ว่า ไม่ทราบจริงๆ ตนไปปักกิ่งไม่เจอใคร เจอเเต่หิมะตก หนาวจริงๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า หนาวนี่ คือ หนาวๆ ร้อนๆ กลัวโดนปรับออกหรือ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ ตนไม่เคยคิดอยู่เเล้ว จะอยู่ก็อยู่ จะไปก็ไป
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ตนไปเตียหยูไถ่ ไม่น่าเชื่อข้าราชการบางระดับ เขาบอกมีนักการเมืองไทยบางคนไปที่ปักกิ่ง เขาด่าเช็ดเลย จะไปเอาเงินเอาทองเขามาลงทุน ก่อนอื่นขอ 2 พันล้าน ถ้าใครได้ยินเเล้วโปรดทราบ ถ้าใครไปคิดไปพูดเอาไว้ ขอให้ความวิบัติจงเกิดขึ้น
"เขาดูถูกประเทศไทยเหลือเกิน น่าเกลียด บางคนเห็นสภาพอย่านึกว่าหล่อ โอ้โห มันชาติชั่วจริงๆ เขาด่ากันเช็ดเลย ฟังเเล้วไม่น่าเชื่อ เอ๊ะทำไมเมืองไทยคนชื่นชมกันนักนะ ที่นั้นไปเป็นฝ่ายค้านไม่ได้เลย เขาไม่ต้อนรับ" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
**ปชป.จี้ปรับครม.ทันที ไม่ต้องรอ 111
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการตั้งครม.ชุดนี้ ผิดฝาผิดตัวมาตั้งแต่ต้น อีกทั้งยังมีลักษณะที่ว่า คนคิดไม่ได้ทำ คนทำไม่ได้เป็นผู้คิด อาทิ ในกรณีของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ที่มีส่วนจัดทำนโยบายทางเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยในช่วงหาเสียง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่มีส่วนร่วมคิดค้นนโยบายค่าแรง 300 บาทต่อวัน นายประภัสร์ จงสงวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มีส่วนร่วมในการคิดนโยบายด้านการคมนาคม
"ผู้ที่มีรายชื่อดังกล่าว กลับไม่ได้รับตำแหน่งใดๆ ในครม. เหมือนกับเป็นการหลอกใช้คนเหล่านี้ ซึ่งที่ผ่านมา ตนได้พูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหลายคน และได้รับข้อมูลว่า ต่างอึดอัดและรู้สึกเสียดาย เพราะการที่จะเป็นรัฐมนตรีได้ ไม่ได้อยู่ที่ความรู้ความสามารถ แต่อยู่ที่เป็นคนของใครเท่านั้น"
นายเทพไทกล่าวว่า ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย ดำเนินการปรับครม. ตามความรู้ความสามารถเลยทันที โดยไม่ต้องรอการพ้นโทษของสมาชิกบ้านเลขที่ 111 แต่คิดว่าคงจะไปคาดหวังไมได้ เพราะพรรคเพื่อไทย มีการบริหารงานแบบบริษัทจำกัด ทุกอย่างล้วนขึ้นตรงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น