00 ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นทำให้สังคมได้เห็นความ “ไม่มีมาตรฐาน” ในทุกด้านของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งในเรื่องความเชี่ยวชาญ ความรอบรู้ ทักษะในการบริหารจัดการ ทั้งในเรื่องงานบุคคลและงานเอกสาร ทุกอย่างที่ปรากฏออก มาทำให้คนจับได้ว่าเธอไม่มีคุณสมบัติแม้สักนิดเดียวสำหรับการเป็นผู้นำประเทศ โดยเฉพาะในภาวะที่สังคมกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
00 ที่น่าเห็นใจที่สุดยามนี้กลับกลายเป็นพวกที่เคยเชียร์เธอ เชียร์พรรคเพื่อไทย อย่างออกนอกหน้า กลายเป็นว่าเริ่มเงียบเสียง อาการแบบ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” คงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ที่สำคัญสังคมไทยยังต้องการหวังพึ่งผู้นำเป็นหลัก ถ้าผู้นำไม่เข้าท่า นำใครไม่ได้ หรือไม่มีภาวะผู้นำ มันก็ยิ่งทำให้คนที่ตามหลังขวัญเสีย ที่ผ่านมาไม่เคยมีแนวโน้มสร้างความโดดเด่นได้เลย มีแต่ความผิดพลาดรายวัน ส่วนเรื่องผลงานนั้นอย่าไปพูดถึงเลย เพราะไม่มีมาตั้งนานแล้ว
00 อย่างไรก็ดี จะเรียกว่า “เวรกรรมมีจริง” ก็อาจพูดแบบนั้นได้ เพราะความล้มเหลวในลักษณะแบบ “รูดทะราด” ของ ยิ่งลักษณ์ มันก็ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังคอยอุ้มชูขึ้นมาอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการใช้อำนาจรัฐเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิด ยิ่งทำได้ยาก และส่งผลต่อความรู้สึกของคนไทยมากขึ้น อารมณ์ที่ออกมาเหมือนกับว่า “เอาเปรียบ” มากเกินไป เหมือนกับว่าทำงานไม่ได้เรื่อง แล้วยังคิดจะมาขอโบนัส “เดี๋ยวยันโครมไปโน่น” อะไรประมาณนั้น ในทางตรงข้าม ถ้ารัฐบาลน้องสาวโชว์ผลงานได้เข้าตามาอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าถึงจะทำเรื่องชั่วๆ อย่างไร บางทีชาวบ้านเขาอาจยอมหรี่ตาให้บ้าง แต่นี่มีแต่เรื่องชวนให้หงุดหงิด
00 ทำท่าจะเกิดอาการหมั่นไส้จนเก็บอาการกันไม่อยู่แล้ว สำหรับกระทรวงคมนาคม ระหว่าง รมว.คือ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต กับ รมช.ทั้งสอง จากพรรคเดียวกัน คือ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก โดยมีเรื่องพิลึกกันก็คือ รมช.ทั้งสองคนแท็กทีมกันชน รมว. ที่เพิ่งผ่านชีวิตข้าราชการมาหมาดๆ แต่ส้มหล่นได้เป็นเบอร์หนึ่งเพราะเป็น “เพื่อนแม้ว” ก็เท่านั้น แต่ปัญหาก็คือ ในเมื่อเป็นกระทรวงที่มีผลประโยชน์มหาศาล บางทีถ้า “ล้ำเส้น” มากเกินไป มันก็ต้องโวยวายกันเสียหน่อย แต่เชื่อเถอะในที่สุดก็ตกลงกันได้ ยกเว้น “กินไม่แบ่ง” นี่สิจะเป็นปัญหาให้ลากยาว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกรณีของ “ทรัพย์ล้อม” หรือไม่ ลองถามไถ่กันเอาเอง โดยเฉพาะ “สองนายพล” ทำนองว่า คนหนึ่ง “ได้แล้ว” ทำไมข้าไม่ได้มั่ง ฮิ ก็ได้แต่รอลุ้นว่านายแม้ว จะตัดสินอย่างไรเพราะแว่วมาว่าน่าหนักใจไม่เบา !!
00 เห็นความเคลื่อนไหวของข่าวดังกล่าวก็คือบรรดา ส.ส. และรัฐมนตรีเมื่อมีปัญหาก็จะบินไปฟ้อง ทักษิณ ต่อไปเชื่อหลายปัญหาจะเกิดขึ้นและบานปลาย เกิดความขัดแย้งกันภายในขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ แม้ว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจชี้นิ้วของ “แม้ว” เพียงคนเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวลานี้กำลังเกิดปัญหาขึ้นในพรรคเพื่อไทย มีรอยปริรอวันระเบิดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้บริหารขาดบารมี ทำให้เวลาเกิดปัญหาก็ต้องโร่ไฟฟ้องนายทุกที มันก็น่ารำคาญเหมือนกัน !!
00 ที่น่าเห็นใจที่สุดยามนี้กลับกลายเป็นพวกที่เคยเชียร์เธอ เชียร์พรรคเพื่อไทย อย่างออกนอกหน้า กลายเป็นว่าเริ่มเงียบเสียง อาการแบบ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก” คงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ ที่สำคัญสังคมไทยยังต้องการหวังพึ่งผู้นำเป็นหลัก ถ้าผู้นำไม่เข้าท่า นำใครไม่ได้ หรือไม่มีภาวะผู้นำ มันก็ยิ่งทำให้คนที่ตามหลังขวัญเสีย ที่ผ่านมาไม่เคยมีแนวโน้มสร้างความโดดเด่นได้เลย มีแต่ความผิดพลาดรายวัน ส่วนเรื่องผลงานนั้นอย่าไปพูดถึงเลย เพราะไม่มีมาตั้งนานแล้ว
00 อย่างไรก็ดี จะเรียกว่า “เวรกรรมมีจริง” ก็อาจพูดแบบนั้นได้ เพราะความล้มเหลวในลักษณะแบบ “รูดทะราด” ของ ยิ่งลักษณ์ มันก็ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังคอยอุ้มชูขึ้นมาอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการใช้อำนาจรัฐเพื่อช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิด ยิ่งทำได้ยาก และส่งผลต่อความรู้สึกของคนไทยมากขึ้น อารมณ์ที่ออกมาเหมือนกับว่า “เอาเปรียบ” มากเกินไป เหมือนกับว่าทำงานไม่ได้เรื่อง แล้วยังคิดจะมาขอโบนัส “เดี๋ยวยันโครมไปโน่น” อะไรประมาณนั้น ในทางตรงข้าม ถ้ารัฐบาลน้องสาวโชว์ผลงานได้เข้าตามาอย่างต่อเนื่อง รับรองว่าถึงจะทำเรื่องชั่วๆ อย่างไร บางทีชาวบ้านเขาอาจยอมหรี่ตาให้บ้าง แต่นี่มีแต่เรื่องชวนให้หงุดหงิด
00 ทำท่าจะเกิดอาการหมั่นไส้จนเก็บอาการกันไม่อยู่แล้ว สำหรับกระทรวงคมนาคม ระหว่าง รมว.คือ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต กับ รมช.ทั้งสอง จากพรรคเดียวกัน คือ กิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก โดยมีเรื่องพิลึกกันก็คือ รมช.ทั้งสองคนแท็กทีมกันชน รมว. ที่เพิ่งผ่านชีวิตข้าราชการมาหมาดๆ แต่ส้มหล่นได้เป็นเบอร์หนึ่งเพราะเป็น “เพื่อนแม้ว” ก็เท่านั้น แต่ปัญหาก็คือ ในเมื่อเป็นกระทรวงที่มีผลประโยชน์มหาศาล บางทีถ้า “ล้ำเส้น” มากเกินไป มันก็ต้องโวยวายกันเสียหน่อย แต่เชื่อเถอะในที่สุดก็ตกลงกันได้ ยกเว้น “กินไม่แบ่ง” นี่สิจะเป็นปัญหาให้ลากยาว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกรณีของ “ทรัพย์ล้อม” หรือไม่ ลองถามไถ่กันเอาเอง โดยเฉพาะ “สองนายพล” ทำนองว่า คนหนึ่ง “ได้แล้ว” ทำไมข้าไม่ได้มั่ง ฮิ ก็ได้แต่รอลุ้นว่านายแม้ว จะตัดสินอย่างไรเพราะแว่วมาว่าน่าหนักใจไม่เบา !!
00 เห็นความเคลื่อนไหวของข่าวดังกล่าวก็คือบรรดา ส.ส. และรัฐมนตรีเมื่อมีปัญหาก็จะบินไปฟ้อง ทักษิณ ต่อไปเชื่อหลายปัญหาจะเกิดขึ้นและบานปลาย เกิดความขัดแย้งกันภายในขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ แม้ว่าทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจชี้นิ้วของ “แม้ว” เพียงคนเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้ว เวลานี้กำลังเกิดปัญหาขึ้นในพรรคเพื่อไทย มีรอยปริรอวันระเบิดมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้บริหารขาดบารมี ทำให้เวลาเกิดปัญหาก็ต้องโร่ไฟฟ้องนายทุกที มันก็น่ารำคาญเหมือนกัน !!
