“ยงยุทธ” ปัดตอบเป็นเป้าปรับ ครม. หลุดเก้าอี้ มท.1 โยนถามคนวิจารณ์ บอกไม่ท้อ ขอทำงานเพื่อบ้านเมือง ด้าน “สุรพงษ์” โวนั่งคุมบัวแก้วผลงานเพียบ แต่พร้อมม้วนเสื่อกลับบ้าน หากงานไม่เข้าตา “นายกฯ ปู”
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้และไม่ขอตอบอะไร เพราะขณะนี้ตนก็เร่งทำงานในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายอยู่ ซึ่งงานในส่วนของน้ำท่วมตนก็ทำอยู่ แต่ไม่ขอประเมินตนเอง เพราะเรื่องแบบนี้ต้องไปถามคนอื่นมากกว่า จะมาพูดโอ้อวดตนเองคงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรีให้ส่งผลงานในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานั้น คิดว่าเป็นการประเมินเพื่อปรับ ครม.หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ขอออกความคิดเห็น เมื่อถามว่าท้อใจหรือไม่ ที่มีการวิจารณ์ว่าเป็นเป้าหมายในการปรับ ครม. นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่มี ไม่ท้อใจแต่อย่างใด ได้มีโอกาสทำงานให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนตนก็มีความสุขแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่เคยหารือกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด เป็นเรื่องส่วนตัว และตนก็ไม่สนใจ สนใจแต่ทำงานเพื่อประชาชนเท่านั้น คงต้องไปถามคนที่วิจารณ์มากกว่า อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายวันนี้ (2 พ.ย.) ตนก็จะเดินทางไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กับนายกรัฐมนตรีด้วย
เมื่อถามว่ามีการส่งสัญญาณจากแดนไกลว่าการแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่เข้าตามองอย่างไร นายยงยุทธปฏิเสธที่จะตอบคำถามและเดินเลี่ยงขึ้นรถยนต์ส่วนตัวไปทันที
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีกระแสว่ากระทรวงการต่างประเทศเป็นกระทรวงหนึ่งที่อยู่ในข่าย และหลายคนในพรรคให้ความสนใจอยากเป็นว่า ไม่เป็นไร ตนพร้อมหากจะถูกปรับออก ไม่ยึดติดตำแหน่ง เพราะคนเราทำได้ดีที่สุดเท่าไหร่ก็แค่นั้น คิดว่าใครที่มีความสามารถและพร้อมก็ต้องเปิดโอกาสให้ขึ้นมา ไม่เช่นนั้นหากตนอยู่จนแก่ คนใหม่ก็ไม่มีโอกาสได้ทำงาน
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดให้รัฐมนตรีแต่ละคนส่งผลงานของตัวเอง เพื่อมาประกอบการพิจารณาในการปรับ ครม.นั้น นายสุรพงษ์กล่าวว่า นายกฯ กำหนดให้ส่งผลงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งผลงานของตนที่เด่นๆ ที่ทำมาแล้วเช่นเรื่องการไปเยือนพม่าและมีข้อตกลงในการก่อสร้างถนนจากด่านแม่น้ำเมยไปจนถึงกอกาเร็ก ซึ่งผ่านเทือกเขาตะนาวศรี และการซ่อมสะพานที่ข้ามระหว่างชายแดนแม่สอดกับพม่า ซึ่งเป็นไปได้ที่จะมีการเจรจาเพื่อขอเปิดด่านก่อนที่การซ่อมสะพานจะเสร็จ
ส่วนผลงานชิ้นต่อมาคือ การเดินทางไปเยือนอาบุดาบี ของยูเออี ที่เป็นประเทศแรกหลังจากเป็น รมว.ต่างประเทศ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดีจากชีค อับดุลลา รมว.ต่างประเทศ ของยูเออี และได้รับปากจะมาเยือนประเทศไทยในไตรมาสแรกของปีหน้า และผลงานอีกอย่างหนึ่งคือความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ที่ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมาเพราะไม่มีการสู้รบกันแล้ว และถือเป็นผลงานของรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลงานที่ทำมาคิดว่าจะสามารถการันตีตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศให้อยู่ต่อไปได้หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ตนจะทำให้ดีที่สุด เพราะที่เข้ามาก็ถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่คะแนนต่ำสุดแล้ว คงไม่มีอะไรดีกว่านั้นอีกแล้ว วันนี้ก็พยายามทำให้ดีที่สุด อย่างการไปประชุมอาเซียน ก็สามารถที่จะมีความคิดริเริ่มในการทำสเตรทเม้นท์ของผู้นำประเทศให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาอุทกภัย ซึ่งเป็นสเตรทเม้นท์ที่ผู้นำประเทศในอาเซียนต่างให้การยอมรับ เพราะไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยจะใช้เวลาแค่ 7 วันในการนำเสนอแนวคิดอย่างนี้และได้รับการตอบสนองจากผู้นำในอาเซียน ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่มาก