xs
xsm
sm
md
lg

“สุวัจน์” เลี่ยงตอบ พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ “ทักษิณ” - ชี้ ทุกเรื่องเป็นสาธารณะแสดงความเห็นได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “สุวัจน์” เลี่ยงตอบ พ.ร.ฎ.อภัยโทษเอื้อ “ทักษิณ” สร้างความขัดแย้งเกิดการเผชิญหน้าของ ปชช.อ้างไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องลับของรัฐบาล แต่ชี้ทุกเรื่องเป็นสาธารณะ และทุกคนแสดงความคิดเห็นได้ ระบุ การปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯ ปู ตัดสินใจ หากเห็นว่าปรับแล้วดีควรทำได้ ระบุ เห็นรัฐมนตรีทุกคนตั้งใจทำงานดี

วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ห้องประชุม สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ชั้น 3 อาคาร 9 ชั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) เปิดเผยถึงการวิพากษ์วิจารณ์ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษของรัฐบาลในความไม่ถูกต้อง และเอื้อประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียดของ พ.ร.ฎ.นี้ ว่ารายละเอียดเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ถ้าเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณา และเป็นวโรกาสที่สำคัญๆ รัฐบาลที่ผ่านมาก็จะมีการทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ในรายละเอียดก็ไม่ทราบ เนื่องจากว่าเป็นเรื่องลับ ตนจึงไม่ทราบ เพียงแต่ทราบว่าเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ได้มีการพูดคุยกัน มีการชี้แจงกันในสภาผู้แทนราษฎร ไปแล้ว

ต่อข้อถามที่ว่า พ.ร.ฎ.ฉบับนี้จะสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในสังคมไทยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า คิดว่า วันนี้บ้านเมืองต้องการความปรองดอง และเรามีหลายเรื่อง อยู่ตอนนี้ ทั้งเรื่องเก่า เรื่องความขัดแย้ง เรื่องปัญหาน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดแล้ว ฉะนั้น วันนี้ความปรองดองหรือความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ ที่จะช่วยกันฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ

ส่วน พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษของรัฐบาลนี้จะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันของประชาชนอีกหรือไม่ นั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองเราเป็นสังคมเปิดการแสดงความคิดเห็นในทุกๆ เรื่อง วันนี้ก็จะมีมากกว่าเดิม และมีการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณหลากหลายวิธีมากขึ้น ฉะนั้น ทุกคนก็แสดงความคิดเห็นกันไป เป็นเรื่องของผู้ที่จะได้ตัดสินใจในแต่ละเรื่อง แต่ตนคิดว่าวันนี้สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องยึดหลักของความเข้าใจกันว่า ทำอย่างไรให้บ้านเมืองเรียบร้อยที่สุด แต่ว่ารายละเอียดต่างๆ ของ พ.ร.ฎ.นี้ ตนไม่ทราบว่ามีเนื้อหาอะไร ซึ่งเมื่อวานมีการชี้แจงกันในสภาไปแล้ว แต่ตนไม่ทราบเพราะไปประชุมต่างประเทศเพิ่งกลับมา

ต่อข้อถามว่า กรณีที่หลายฝ่ายมองว่าการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษนี้เป็นการช่วยเหลือคนเพียงคนเดียวนั้นมองเรื่องนี้อย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบในรายละเอียด คงยังไม่มีความเห็น เพราะยังไม่เห็นข้อมูล และรายละเอียดต่างๆ จึงขอไม่พูดถึง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฐานะที่คร่ำหวอดในทางการเมืองมานาน การออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ สามารถเปิดเผยให้ประชาชนรับทราบได้หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกเรื่องที่เป็นเรื่องของสาธารณะ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาหรือเรื่องกฎหมายต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนแสดงความคิดเห็นกันได้ แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด

นายสุวัจน์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่า เรื่องนี้แล้วแต่นายกรัฐมนตรี เพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล ถ้าท่านเห็นว่ามันจำเป็นจะต้องปรับ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาท่านก็สามารถดำเนินการได้ ถ้าเห็นว่าอะไรที่มันจำเป็นจะต้องทำให้มันกระฉับกระเฉง ให้ทันใจ และให้เป็นประโยชน์และป้องกันความเสียหายต่างๆ แล้ว ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นก็อยู่ในดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่มีกระแสออกมาว่าเป้าหมายการปรับมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโควตาของพรรคชาติพัฒนาด้วยนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เท่าที่ดูรู้ว่า ทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ แต่ว่าอะไรก็ต้องแล้วแต่ผู้บังคับบัญชาคือนายกรัฐมนตรีที่จะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจเอง การปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ ถ้าปรับแล้วดีขึ้น ได้คนดีมาทำงานแล้วรัฐบาลกระฉับกระเฉงขึ้น พี่น้องประชาชนมีความสุขขึ้น ต่างชาติเชื่อถือมากขึ้นก็น่าที่จะปรับ การปรับ ครม.ต้องปรับในทางที่ดีขึ้น แต่ว่าจะปรับหรือไม่ปรับขึ้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรี และการปรับ ครม.เป็นเรื่องปกติ การยุบสภาเป็นเรื่องปกติถ้าจะเกิดก็คือในกลไกของระบอบประชาธิปไตยมันเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไร เพียงแต่ว่าถ้าจะปรับเปลี่ยนอะไรกันก็ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

ตนเชื่อว่า ครม.ทุกคนเขาทำงานกันเต็มที่ ไม่มีใครอยากเห็นประชาชนเดือดร้อน ไม่มีใครอยากเห็นน้ำท่วม เพียงแต่ภาวะครั้งนี้น้ำมากเหลือเกิน สะสมมานาน และเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศใหม่ๆ ดูเหมือนว่า วันนี้เราหยุด ประเทศไทยเลยไม่ค่อยมีกิจกรรมเรื่องอื่น ทุกคนมาสาละวนเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เพื่อให้น้ำลงทะเลให้เร็วที่สุด เหนื่อยกันมาก และตอนนี้เหนื่อยเท่าไรหลังน้ำลดจะเหนื่อยมากกว่านั้น เพราะอาฟเตอร์ช็อก หลังจากนั้นจะรุนแรงกว่านี้และจากนี้ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร การส่งออกที่ลดลง โรงงานอุตสาหกรรมที่หยุดการว่าจ้างแรงงานที่อาจจะตกงานกัน การย้ายฐานการลงทุนหากเราไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุนได้ นักท่องเที่ยวที่หายไปด้วย

“ฉะนั้น มาตรการหลังจากนี้จะต้องมีความร่วมมือกันช่วยกันทำงาน มีทิศทางไปทางเดียวกันในการแก้ไขปัญหาน้ำและเร่งระบายน้ำ ไม่ขัดแย้งกันเอง รีบเอาน้ำให้หายไป เสร็จแล้วมาช่วยกันกู้เรื่องโครงสร้างพื้นฐานและช่วยเหลือประชาชน สร้างแผนโครงการหลักๆ ในการป้องกันน้ำท่วมอย่างถาวร” นายสุวัจน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น