xs
xsm
sm
md
lg

นิสสันกังวลรัฐไร้แผนกันน้ำท่วมซ้ำ "วรรณรัตน์"โชว์ฟื้นฟู7นิคมฯคืบหน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“นิสสัน”ยันไทยยังคงเป็นฐานผลิตรถยนต์ในภูมิภาคที่สำคัญไม่ย้ายหนี แต่กังวลฤดูฝนที่จะมาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รัฐบาลมีแผนบริหารป้องกันไม่ให้น้ำท่วมซ้ำอีกอย่างไร “วรรณรัตน์”โชว์แผนฟื้นฟูนิคมฯ 7 แห่งคืบหน้า ด้าน "ทียูเอฟ"เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำใกล้ชิด หวั่นการผลิตสะดุด
นายฮิโรโตะ ไซกาวา รองประธานบริหารบริษัทนิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น เปิดเผยภายหลังการเข้าพบน.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม วานนี้ (15พ.ย.) ว่า นิสสันยังคงมองไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน โดยไม่มีแผนที่จะลดการลงทุน แต่ยังกลับมีแผนการลงทุนในอนาคตเพิ่มขึ้นอีก โดยเห็นว่าปัญหาน้ำท่วมรัฐบาลไทยได้มีการเร่งแก้ไขระยะสั้น กลาง และยาว แต่สิ่งที่กังวล คือ ฤดูฝนที่จะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนั้น รัฐบาลจะมีแผนบริหารจัดการอย่างไรในการป้องกันที่จะไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำเพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน
“นิสสันได้รับผลกระทบทางอ้อมจากชิ้นส่วนเจอน้ำท่วม ขณะนี้ได้มีการกลับมาผลิตแล้วระดับหนึ่ง โดยที่ผ่านมา หยุดไป 1 เดือนแล้ว คาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้ น่าจะกลับมาผลิตได้เต็มกำลังการผลิต และภาพรวมการผลิตปีนี้น่าจะหายไป 40,000 คัน”นายฮิโรโตะกล่าว
นางเพียงใจ แก้วสุวรรณ นายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ และรองผู้จัดการใหญ่ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เริ่มกลับมาผลิตอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ย.โดยผลิตประมาณ 30-40% โดยเป้าหมายวางการผลิตไว้ปีนี้ประมาณ 2 แสนกว่าคัน โดยหวังว่าเมื่อน้ำลดลงเร็วก็จะเร่งผลิตให้ได้ตามเป้า
“เรามีซัปพลายเออร์สำคัญเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จึงมาพบกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะสอบถามความคืบหน้าว่าจะสูบน้ำได้เร็วมากน้อยเพียงใด และทางผู้บริหารนิสสันจากญี่ปุ่นที่เป็นประธานสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นจึงได้เสนอตัวที่จะให้ความช่วยเหลือกระทรวงอุตสาหกรรมในการฟื้นฟูนิคมฯ ต่างๆ เพราะเขาห่วงมากว่า 5-6 เดือนนี้ ฝนจะมาอีกแล้ว จึงพยายามมาเสนอการช่วยเหลือขอมีอะไรก็บอกได้ทันที”นางเพียงใจกล่าว
น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นิสสันได้แจ้งว่าผู้ประกอบการยานยนต์ในญี่ปุ่นพร้อมที่จะช่วยเหลือในการเร่งฟื้นฟูนิคมฯ ซึ่งได้แจ้งถึงนโยบายการฟื้นฟูนิคมฯต่างๆ ว่ามีความคืนหน้าแล้ว โดยภาวะน้ำท่วมทำให้นิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการจำนวน 7 แห่งกระทบ โรงงานต้องหยุดกิจการชั่วคราว 840 แห่ง คาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้ โรงงาน 70-80% หรือประมาณ 600 โรงงานจะกลับมาเดินเครื่องผลิตได้ เนื่องจากขณะนี้นิคมฯ หลายแห่งมีความคืบหน้าในการสูบน้ำออกแล้ว
ทั้งนี้ เขตอุตสาหกรรมแฟคทอรี่ แลนด์ น้ำแห้งแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.โรงงานเริ่มทะยอยกลับมาผลิตต่อเนื่อง ส่วนนิคมฯบางปะอิน คาดน้ำจะสูบหมดภายใน 20 พ.ย. นิคมฯ บ้านหว้า (ไฮเทค) 25 พ.ย. และนิคมฯ โรจนะ 30 พ.ย. ส่วนนิคมฯ ที่เหลือได้แก่ นวนคร สวนอุตสาหกรรมบางกะดี ต้องรอให้น้ำภายนอกลดลงก่อนจึงจะสูบได้ เนื่องจากเป็นนิคมฯ อยู่ด้านล่างจึงยังคงมีปริมาณน้ำมาก
สำหรับนิคมฯ สหรัตนนคร นั้น คาดว่าจะสามารถสูบน้ำได้ช่วงเดือนธ.ค. เนื่องจากถนนด้านเหนือที่เป็นคันกันน้ำในตัวเสียหาย ทำให้น้ำไหลเข้ามาโดยน้ำยังคงสูงกว่าคันดิน 2.20 เมตรจึงยังคงสูบไม่ได้ โดยเมื่อระดับน้ำลดมีแผนที่จะเจาะถนนด้านใต้เพื่อเร่งระบายน้ำออกเพื่อเร่งสูบ โดยคาดว่าสัปดาห์แรกของธ.ค.น่าจะแห้งได้
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนียนโฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (TUF ) กล่าวว่า อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังโรงงานผลิตปลาทูน่ากระป๋องและกุ้งแช่แข็งที่จังหวัดสมุทรสาครตลอดช่วงสัปดาห์นี้ หลังปริมาณน้ำท่วมอยู่ห่างจากโรงงานประมาณ 9 กิโลเมตร โดยเชื่อว่าหากผ่านสัปดาห์นี้ไปได้ ก็คงไม่มีปัญหาจนถึงขั้นต้องหยุดโรงงานแต่อย่างใด และในปัจจุบันโรงงานดังกล่าวยังผลิตตามปกติอยู่ ทั้งนี้ ได้ประเมินว่า หากสถานการณ์เลวร้ายสุดก็คงต้องปิดโรงงานไม่เกิน 2-3 สัปดาห์
กำลังโหลดความคิดเห็น