xs
xsm
sm
md
lg

สนอง“แม้ว”ย้ายเมืองหลวง คุณชายจวก“เพื่อไทย”ชงนครนายกฯ-เพชรบูรณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-สมอง! 20 ส.ส.เพื่อไทย คิดกันได้ เสนอญัตติด่วน! ศึกษา“ย้ายเมืองหลวง”ไป“นครนายกฯ เพชรบูรณ์”เข้าสภา อ้างหนีน้ำท่วม เหตุสภาวะแวดล้อมเปลี่ยน ไร้แววส.ส.กทม.ร่วม “ส.ส.ลำพูน” โว!สนองนโยบายเดิม “แม้ว”ชู “นิวไทยแลนด์” ส่วน“คุณชาย”จวกต้องแยกให้ชัด

วานนี้ (15 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย พร้อมส.ส.อีก 20 คน ได้ลงนามเตรียมเสนอญัตติด่วนต่อสภาฯ เรื่อง ขอให้สภาฯตั้งคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเพื่อย้ายเมืองหลวงจากรุงเทพฯ ไปจ.นครนายก จ.เพชรบูรณ์ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีความเหมาะสม โดยจะเสนอให้วิปรัฐบาล ภายในวันที่ 16 พ.ย. เพื่อเสนอเป็นญัตติเร่งด่วน

ในญัตติดังกล่าวระบุว่า ด้วยสภาวะแวดล้อมของโลกและของประเทศไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน ส่งผลให้เกิดวิกฤตภัยธรรมชาติทั้งการเกิดน้ำท่วม แผ่นดินทรุด รอยเลื่อนแผ่นดินไหว ภัยสึนามิ และจะต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูสภาเป็นจำนวนมหาศาล เป็นต้น

จากกรณีข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่ากทม.ในฐานเมืองหลวงของประเทศไทย แผ่นดินทรุดโดยเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20 ซม. และประกอบกับภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่กทม. จะกลายเป็นเมืองบาดาล ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชนและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในเขตกทม.ได้

จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจึงเห็นได้ว่าควรมีการพิจารณาศึกษาการย้ายเมืองหลวงจากกทม.ไปยังพื้นที่เหมาะสม เช่น จ.นครนายก เพชรบูรณ์ หรือจังหวัดอื่นที่มีความเหมาะสมต่อไป เพื่อเตรียมการและรับมือแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต

นายสถาพร ให้สัมภาษณ์ว่า ญัตตินี้พรรคได้รับหลักการให้เสนอตามที่ส.ส.ได้เข้าชื่อเสนอให้เป็นเรื่องของสภาฯ โดยแนวคิดย้ายเมืองหลวง สมัยรัฐบาลทักษิณ เคยมีแนวคิดจะย้ายไปยังจ.นครนายก และสั่งการให้สภาพัฒน์ฯ ไปศึกษาข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จ.นครนายก มีความเหมาะสมทั้งทางกายภาพ และภูมิศาสตร์ พื้นที่เป็นแนวลาดชัน หากน้ำมาก็จะไหลระบายได้เร็ว ไม่เหมือนกับกทม.ที่เป็นแอ่ง น้ำมาจึงเป็นพื้นที่รับน้ำอย่างเดียว

ทั้งนี้ การย้ายเมืองหลวงไปแห่งใหม่ดีกว่าจะไปทำนิวไทยแลนด์อยู่แล้ว มองทั้งเชิงโครงสร้างและแผนงานอย่างไรก็คุ้มค่ากว่า กทม.จะมีอะไรเป็นนิวได้อีก เราควรวางแผนสร้างความหวังให้ประชาชนใหม่ นครนายก เหมาะสม ไปถึงก็วางโครงสร้าง ผังเมืองใหม่ ทั้งส่วนราชการ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การขนส่ง ระบบคมนาคม ก็ไปทำรถไฟความเร็วสูงเชื่อมไปภูมิภาคตะวันออก เหนือ อีสาน หรือแม้กระทั่งทำรถไฟความเร็วสูงมายังสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ไกลมาก กลับมากทม.ก็ห่างกันเพียง 40 กม.เท่านั้น ส่วนนิคมอุตสาหกรรมหากคิดระยะยาวก็กระจายให้มาอยู่รอบนอก ทั้งสระบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทราก็ได้

ส่วนแนวคิดในจังหวัดเพชรบูรณ์นั้น ก็เหมาะสมเช่นกัน ทั้งทางภูมิศาสตร์และกายภาพ ไม่อย่างนั้นยุคจอมพล ป พิบูลย์สงคราม คงไม่มีแนวคิดจะย้ายเมืองหลวงไป เช่นเดียวกันกับยุคคอมมิวนิสต์ถ้าไม่ดีจริง คงไม่ยึดเป็นฐานที่มั่น เราต้องสร้างแนวคิดใหม่ จุดให้เป็นประเด็นใหญ่ให้เป็นเรื่องทอล์ก ออฟ เดอะทาวน์ไปเลย ใครไม่เชื่อก็อย่าเชื่อนะ กทม.เคยมีคำทำนายว่ากทม.จะจมบาดาลอีก 10 ปี จึงต้องย้ายไปที่แห่งใหม่

สำหรับรายชื่อส.ส.ทั้ง 20 คนที่ร่วมเสนอญัตติ อาทิ นายวาสิต พยัคฆบุตร ส.ส.ลำปาง นายวิทยา ทรงคำ ส.ส.เชียงใหม่ นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส.เพชรบูรณ์ เป็นต้น แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมลงชื่อด้วย

 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. กล่าวว่า เรื่องย้ายเมืองไปจังหวัดเพชรบูรณ์มีมาตั้งแต่สมัยจอมพลป.พิบูลย์สงคราม จึงต้องแยกกันระหว่างการจะมีการย้ายเมืองหลวง กับศูนย์ราชการ อย่างประเทศมาเลเซีย ก็มีการแยกระหว่างศูนย์ราชการกับเมืองหลวงอย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องการย้ายเมืองหลวงกับศูนย์ราชการนั้น เป็นคนละเรื่อง เพราะเมืองหลวงของประเทศไทย ต้องมีสถานที่ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ออกท้องพระโรง อย่างเช่นพระที่นั่งอนันตสมาคม หรือมีพื้นที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญได้ แต่ศูนย์ราชการสามารถย้ายได้ ดังนั้นต้องแยกแยะว่ามีการย้ายเมืองหลวง หรือศูนย์ราชการ แต่ในหลักการตนไม่ได้ขัดข้อง แต่ต้องมีความชัดเจนว่าจะต้องมีการย้ายเมืองหลวง หรือศูนย์ราชการ โดยเฉพาะหากมีการย้ายเมืองหลวง หรือศูนย์ราชการต้องมีการวางระบบทั้งหมดเชื่อมต่อกัน ทั้งระบบสายไฟ อาคารเชื่อมต่อ ระบบสาธารณูปโภค ระบบโรงเรียน โรงพยาบาล เพื่อให้ทั้งข้าราชการและประชาชนสามารถใช้บริการได้สะดวก หากรวมกันได้ก็จะทำให้การบริหารจัดการอย่างเช่นศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
กำลังโหลดความคิดเห็น