ส.ส.เพื่อไทย เตรียมเสนอวิปรัฐบาลเลื่อนญัตติขอตั้ง กมธ.ศึกษาย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพฯ หนีน้ำท่วม ไปนครนายกฯ หรือเพชรบูรณ์ ให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาเร็วขึ้น ด้านส.ว.หนุนย้ายเมืองชี้เวนคืนงานเป็นที่หลวง
นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนและ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้รวบรวมรายชื่อ 20 รายชื่อ เพื่อยื่นญัตติด่วนต่อสภา เสนอตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเพื่อย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพมหานครไป จ.นครนายก และ จ.เพชรบูรณ์ และจังหวัดอื่นที่เหมาะสม ไปแล้ววานนี้ (15 พ.ย.) โดยในญัตติที่เนื่องจากสภาวะแวดล้อมของโลกและของประเทศไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปหลายด้าน ส่งผลให้เกิดวิกฤตภัยธรรมชาติ ทั้งการเกิดน้ำท่วม แผ่นดินทรุด รอยเลื่อนแผ่นดินไหว ภัยสึนามิ และจะต้องใช้งบประมาณฟื้นฟูเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่ากรุงเทพฯ ในฐานะเมืองหลวง แผ่นดินทรุดโดยเฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า 20 ซม. และประกอบกับภาวะโลกร้อนทำให้น้ำทะเลหนุนสูงขึ้น จึงเป็นไปได้ว่ากรุงเทพมหานครจะกลายเป็นเมืองบาดาล ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชนและบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯได้
นายสถาพรกล่าวว่า ญัตตินี้พรรคได้รับหลักการให้เสนอตามที่ ส.ส.ได้เข้าชื่อเสนอให้เป็นเรื่องของสภาฯ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 ข้อ 41 และข้อ 42 ซึ่งญัตติดังกล่าวถูกยื่นไปแล้ว โดยในวันนี้จะทราบว่าจะถูกเสนอญัตติเป็นลำดับเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ลำดับท้ายๆ ตนก็คงจะมีการประสานกับทางวิปรัฐบาลเพื่อให้เลื่อนเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน และในเบื้องต้นที่ได้พูดคุยกันก็น่าจะมีความเป็นไปได้ เพราะมีหลายๆ คนเห็นด้วย ส่วนตัวแล้วยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวต่อทางหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเอกสิทธิของทาง ส.ส.ที่จะเสนอญัตติได้อยู่แล้ว
ด้านนายธวัชชัย บุญมา ส.ว.นครนายก กล่าวสนับสนุนว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง และในอดีตสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยศึกษาโครงการย้ายเมืองหลวงมาที่ จ.นครนายกแล้ว ขณะเดียวกันสถาบันการศึกษาหลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาศรีนครินทร์วิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ ที่ทำการศึกษาวิจัย ก็เห็นว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด ด้วยปัจจัยหลายอย่างทั้งอยู่ใกล้ กทม.ใช้เวลาเดินทางไม่นาน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตทหาร และเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ไม่ต้องไปเวนคืนที่ประชาชน ดังนั้นหากต้องลงทุนวางผังเมือง และวางระบบคมนาคม รถไฟฟ้า โลจิสติกส์ ก็ไม่ต้องลงทุนมาก ที่สำคัญยังเป็นพื้นที่ภูเขาปลอดภัยจากน้ำท่วม เป็นเส้นทางเชื่อมทั้งภาคกลางและภาคอีสาน มีทัศนียภาพสวยงามเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องมีการวางผังเมืองใหม่เกือบทั้งหมด นายธวัชชัย กล่าวว่า ส่วนราชการและสถาบันการศึกษาเคยทำวิจัยร่วมกัน มีแปลนผังเมืองภาพรวมอยู่แล้ว และจากการสอบถามความเห็นประชาชนส่วนใหญ่ให้การสนับสนุน
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าอาจเป็นเพียงการจุดประเด็นใหม่ๆขึ้นมาแล้วก็หายไปเหมือนเดิม นายธวัชชัย กล่าวว่า คิดว่าการเมืองบ้านเราต้องมองผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ที่ผ่านมาก็เกือบจะเป็นจริง แต่ก็โดนการเมืองที่ขัดแย้งกันสูงทำลายไป ซึ่งตนก็เกรงเหมือนกันว่าครั้งนี้จะเป็นแบบนั้นอีก บ้านเมืองเราย่ำอยู่กับที่ก็เพราะการเมืองที่ขัดแย้งแย่งชิงผลประโยชน์กันสูง เราต้องคิดดีทำดีเพื่อประเทศ ต้องแยกการเมืองออกจากผลประโยชน์ชาติ
