**ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูหรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ยิ่งกับข้าราชการด้วยแล้ว พร้อมทำงานสนองทุกเรื่อง โดยเฉพาะตำรวจ
ทำได้ทุกอย่างถ้าฝ่ายการเมือง แค่ขยับ ไม่ต้องเอ่ยปากก็วิ่งโร่ไปรับใช้ถึงตีนบันไดบ้าน
ไม่อย่างงั้นจะมีหรือที่ จู่ๆ พนักงานสอบสวน กองปราบปราม จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ปรึกษา นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในคดีที่ พสิษฐ์ไปก่อเรื่องไว้ตอนเป็นเลขานุการ ชัช ชลวร ช่วงเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ
คดีพสิษฐ์โดยตัวแทนสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม ให้เอาผิด พสิษฐ์ กรณีร่วมมือกับ น.ส.ชุติมา หรือ พิมพ์พิจญ์ แสนสินรังสี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับ 3 สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันล่วงรู้ความลับในราชการ เปิดเผยความลับโดยประกาศให้เกิดความเสียหาย ตามกฎหมายอาญา มาตรา 164 และ ความผิดฐานร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประกาศ น่าจะเกิดความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่มีการเผยแพร่คลิปลับหลายตอน ผ่านเว็บไซต์ยูทูป ก่อนการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหาคลิปหลายตอนพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายคน
ดูจากคลิปแล้ว ต้องเป็นคนในที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ถึงสามารถเข้าไปบันทึกภาพในห้องประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่ตำรวจก็อ้างว่า ผลการสอบสวนไม่มีพยานปากใดเห็นผู้ต้องหาเป็นผู้นำกล้องไปซ่อนในห้องประชุม หรือบันทึกภาพ และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า
**ผู้ต้องหา นำคลิปไปเผยแพร่ทางยูทูป มีแต่ผู้ใช้ยูสเนมว่า “โอ้ มายก็อด 3009” โดยไม่ระบุอีเมล์แอดเดรส จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ตำรวจจึงยุติการสอบสวน พร้อมทำความเห็นเสนออัยการ สมควร สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง
จบกันง่ายๆ แบบนี้ในชั้นตำรวจ ต่อไปก็ต้องไปดูว่าอัยการจะว่าอย่างไร ก็ยังไม่อยากไปคาดการณ์ไว้ล้วงหน้า แม้หลายคนจะประเมินไปก่อนแล้วว่า คดีนี้ก็คงเข้าอีหรอบเดียวกัน คืออัยการ น่าจะเห็นด้วยกับตำรวจ คือ
**สั่งไม่ฟ้อง
คดีนี้ไม่ใช่คดีใหญ่อะไร คงไม่ต้องถึงกับให้ระดับ จุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุดลงมาดูด้วยตัวเอง เอาแค่ระดับอัยการสำนักฯ ก็พอแล้ว และหากอัยการเห็นด้วย สั่งไม่ฟ้อง เรื่องก็จบ
ก๊วนทำคลิปลับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ข่าวว่ามีบางคนบางพวกในพรรคเพื่อไทยและพวกเสื้อแดง ร่วมรู้เห็นกับเรื่องนี้ รวมทั้ง “ปอย พสิษฐ์” ก็เฮกันไป
โดยเฉพาะ พสิษฐ์ ได้ทำงานสนองคนอยู่เบื้องหลังเต็มที่แล้ว แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคไม่ได้ จนต้องหลบไปอยู่ฮ่องกงนานหลายเดือน ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ
หลังฟ้าเปลี่ยนสี อำนาจเปลี่ยมมือกลับมาก็มีคนคอยดูแลเป็นพิเศษ แถมได้เก้าอี้ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กินเงินเดือนหลวงอีกหลายหมื่นบาท แบบไม่ต้องทำงานอะไร
**งานไม่สำเร็จ แต่ก็มีโบนัสให้ แล้วใครไม่อยากช่วยงาน ทักษิณ-เพื่อไทยอีก
เช่นเดียวกับรายนี้ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และที่ปรึกษาต่างประเทศ ของพวกเสื้อแดง-นปช.
รายนี้ก็ทำงานรับใช้ ทักษิณ-เสื้อแดง สุดตัว ท่าทางคงได้เงินอัดฉีดไปเยอะ แม้ผลงานยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนพวกนปช. หลายคน ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ทักษิณ จะโดนไอ้ฝรั่งรายนี้หลอกหารับประทานหรือเปล่า
ที่น่าอดสูไม่น้อยก็พวกนปช. ทั้งหลายโดยเฉพาะทีมงานทนายความนปช. พวกนี้ไปรับงานสู้คดีให้คนเสื้อแดง ในเรื่องการสลายการชุมนุมสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันนี้ก็พอเข้าใจได้อยู่ ถือเป็นต่างคนต่างทำหน้าที่
แต่การที่ทีมทนายความนปช. และฝ่ายต่างประเทศของคนเสื้อแดง เล่นพาทนายฝรั่งคนนี้ ไปนั่งแถลงข่าว ตำหนิกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมถึงแถลงยกย่องแนวคิดของคณะนิติราษฏร์ ที่ให้ยกเลิกผลพวงจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49
เท่านั้นไม่พอ ยังพาเจ้า อัมสเตอร์ดัม ไปบริเวณพื้นที่การชุมนุมของเสื้อแดงตามจุดต่างๆ เช่น สี่แยกคอกวัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัดปทุมวนาราม แล้วก็พาอัมสเตอร์ดัมไปยังเรือนจำต่างๆ เพื่อพบและเยี่ยมผู้ต้องหาคดีความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ กรณีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี ไม่ว่าจะเป็น สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย -สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยาม- นางดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดาตอร์ปิโด
ข่าวว่าทุกจุดที่ทนายนปช. และอัมสเตอร์ดัม เดินทางไปมีเจ้าหน้าที่ทั้งของเรือนจำและตำรวจมาคอยดูแลสถานที่ให้เป็นอย่างดีด้วย แถมไอ้เจ้าฝรั่งรายนี้ ยังอวดดี มาเสนอหน้าให้สัมภาษณ์ว่าเรือนจำของไทยไม่ได้มาตรฐานสากล
นอกจากนั้น ยังโวว่า มีพยานหลักฐานเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ –สุเทพ เทือกสุบรรณ ในกรณีการสั่งสลายการชุมนุมได้
พวกเสื้อแดง–ทีมทนายความนปช. และทีมฝ่ายต่างประเทศของนปช. ที่ไปเที่ยวเดินประกบยกย่อง อัมสเตอร์ดัม ปล่อยให้ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้มาเที่ยวด่าคนไทย ด่ากระบวนการยุติธรรมของไทยในแผ่นดินไทยได้อย่างไร
มิหนำซ้ำยังให้เครดิตว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม มีหลักฐานลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าเอาผิดคนสั่งให้มีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 ได้แน่นอน
ใครเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เพราะหากมีหลักฐานพวกนี้จริง ป่านนี้คงไม่ต้องรอสร้างภาพ พาไอ้เจ้าอัมสเตอร์ดัม ไปเที่ยวเดินตามสี่แยกคอกวัว-ราชประสงค์-วัดปทุมวนาราม-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เสียเวลา
**ถ้ามีของดีจริง มีหรือ อัมสเตอร์ดัม จะไม่รีบแถลงข่าวเปิดหลักฐานทันที เมื่อมาถึงเมืองไทยวันแรก
หากอัมสเตอร์ดัมมีหลักฐานอยู่ในมือจริง แล้วทำไม ทีมทนายความนปช. ถึงหาเองไม่ได้ ต้องให้พวกทนายต่างชาติ เป็นคนหาหลักฐานได้ในเมืองไทย ก็แสดงว่าพวกทนายความนปช.ทั้งหลาย มันไม่ได้เรื่องใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับไอ้ฝรั่งคนนี้ โดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรณีที่ อัมสเตอร์ดัม ออกหนังสือที่ชื่อว่า “สมุดปกขาว การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ
สาเหตุที่ต้องแจ้งความเป็นคดี เป็นเพราะเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ มีคำพูดที่หมิ่นศาล และหมิ่นสถาบันฯ เช่น ข้อเขียนที่ระบุว่า “ครอบงำศาล ยึดทรัพย์ทักษิณ” โดยหนังสือเล่มดังกล่าวที่ก็มีการวางขายอยู่ในตอนนี้พบว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้เขียนคำนำ และยังเป็นคนว่าจ้างให้อัมสเตอร์ดัม เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะมีการแปลเป็นภาษาไทย
**จึงถือว่า อัมสเตอร์ดัม ก็มีคดีเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ แล้วก่อนจะเพิกถอนคำสั่งห้ามให้ อัมสเตอร์ดัม เดินทางเข้าประเทศ ตำรวจได้มีการเรียกตัวไปสอบสวนก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าประเทศไทยหรือไม่
กรณีของ พสิษฐ์ และ อัมสเตอร์ดัม ทนายฝรั่งที่มากล่าวหาให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยถึงแผ่นดินไทย รวมถึงมีข้อเขียนและคำให้สัมภาษณ์หลายครั้งที่ไม่เหมาะสมเช่น พูดเรื่องมือที่มองไม่เห็น แต่ก็สามารถเดินทางเข้าออกในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย มี ส.ส.ไทย – แกนนำนปช.-ทีมทนายความคนไทย คอยเทคแคร์ ดูแลอย่างดี ยกก้นจับนั่งแถลงข่าวราวกับเป็นศาสตาจารย์กระบวนการยุติธรรมระดับโลก ที่มาเยือนเมืองไทย
ทั้งที่ก็เป็นแค่ไอ้ทนายฝรั่ง ที่ทำงานรับใช้นักโทษหนีคดี หัวหน้าแก๊งเผาบ้านเผาเมือง เพื่อหวังเอาเศษเงินจากทักษิณ แล้วก็มาวิจารณ์ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทยแบบเสียหาย
สะใจทักษิณ ที่จ้างคนต่างชาติมาด่าคนไทยด้วยกันเองได้
**กรณีตำรวจสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ก็ดี หรือกรณีของอัมสเตอร์ดัม ที่ทำเหมือนกระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีศักดิ์ศรี ไม่เห็นทักษิณ –ส.ส.เพื่อไทย และพวกเสื้อแดง จะออกมาโวยว่า สองมาตรฐาน ทำอะไรก็ผิด ให้ได้ยินเลยสักครั้ง
ทำได้ทุกอย่างถ้าฝ่ายการเมือง แค่ขยับ ไม่ต้องเอ่ยปากก็วิ่งโร่ไปรับใช้ถึงตีนบันไดบ้าน
ไม่อย่างงั้นจะมีหรือที่ จู่ๆ พนักงานสอบสวน กองปราบปราม จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ปรึกษา นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในคดีที่ พสิษฐ์ไปก่อเรื่องไว้ตอนเป็นเลขานุการ ชัช ชลวร ช่วงเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ
คดีพสิษฐ์โดยตัวแทนสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเข้าแจ้งความกับกองปราบปราม ให้เอาผิด พสิษฐ์ กรณีร่วมมือกับ น.ส.ชุติมา หรือ พิมพ์พิจญ์ แสนสินรังสี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับ 3 สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันล่วงรู้ความลับในราชการ เปิดเผยความลับโดยประกาศให้เกิดความเสียหาย ตามกฎหมายอาญา มาตรา 164 และ ความผิดฐานร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประกาศ น่าจะเกิดความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่มีการเผยแพร่คลิปลับหลายตอน ผ่านเว็บไซต์ยูทูป ก่อนการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหาคลิปหลายตอนพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายคน
ดูจากคลิปแล้ว ต้องเป็นคนในที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ถึงสามารถเข้าไปบันทึกภาพในห้องประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่ตำรวจก็อ้างว่า ผลการสอบสวนไม่มีพยานปากใดเห็นผู้ต้องหาเป็นผู้นำกล้องไปซ่อนในห้องประชุม หรือบันทึกภาพ และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า
**ผู้ต้องหา นำคลิปไปเผยแพร่ทางยูทูป มีแต่ผู้ใช้ยูสเนมว่า “โอ้ มายก็อด 3009” โดยไม่ระบุอีเมล์แอดเดรส จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ตำรวจจึงยุติการสอบสวน พร้อมทำความเห็นเสนออัยการ สมควร สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง
จบกันง่ายๆ แบบนี้ในชั้นตำรวจ ต่อไปก็ต้องไปดูว่าอัยการจะว่าอย่างไร ก็ยังไม่อยากไปคาดการณ์ไว้ล้วงหน้า แม้หลายคนจะประเมินไปก่อนแล้วว่า คดีนี้ก็คงเข้าอีหรอบเดียวกัน คืออัยการ น่าจะเห็นด้วยกับตำรวจ คือ
**สั่งไม่ฟ้อง
คดีนี้ไม่ใช่คดีใหญ่อะไร คงไม่ต้องถึงกับให้ระดับ จุลสิงห์ วสันต์สิงห์ อัยการสูงสุดลงมาดูด้วยตัวเอง เอาแค่ระดับอัยการสำนักฯ ก็พอแล้ว และหากอัยการเห็นด้วย สั่งไม่ฟ้อง เรื่องก็จบ
ก๊วนทำคลิปลับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ข่าวว่ามีบางคนบางพวกในพรรคเพื่อไทยและพวกเสื้อแดง ร่วมรู้เห็นกับเรื่องนี้ รวมทั้ง “ปอย พสิษฐ์” ก็เฮกันไป
โดยเฉพาะ พสิษฐ์ ได้ทำงานสนองคนอยู่เบื้องหลังเต็มที่แล้ว แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคไม่ได้ จนต้องหลบไปอยู่ฮ่องกงนานหลายเดือน ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ
หลังฟ้าเปลี่ยนสี อำนาจเปลี่ยมมือกลับมาก็มีคนคอยดูแลเป็นพิเศษ แถมได้เก้าอี้ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กินเงินเดือนหลวงอีกหลายหมื่นบาท แบบไม่ต้องทำงานอะไร
**งานไม่สำเร็จ แต่ก็มีโบนัสให้ แล้วใครไม่อยากช่วยงาน ทักษิณ-เพื่อไทยอีก
เช่นเดียวกับรายนี้ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และที่ปรึกษาต่างประเทศ ของพวกเสื้อแดง-นปช.
รายนี้ก็ทำงานรับใช้ ทักษิณ-เสื้อแดง สุดตัว ท่าทางคงได้เงินอัดฉีดไปเยอะ แม้ผลงานยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนพวกนปช. หลายคน ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ทักษิณ จะโดนไอ้ฝรั่งรายนี้หลอกหารับประทานหรือเปล่า
ที่น่าอดสูไม่น้อยก็พวกนปช. ทั้งหลายโดยเฉพาะทีมงานทนายความนปช. พวกนี้ไปรับงานสู้คดีให้คนเสื้อแดง ในเรื่องการสลายการชุมนุมสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันนี้ก็พอเข้าใจได้อยู่ ถือเป็นต่างคนต่างทำหน้าที่
แต่การที่ทีมทนายความนปช. และฝ่ายต่างประเทศของคนเสื้อแดง เล่นพาทนายฝรั่งคนนี้ ไปนั่งแถลงข่าว ตำหนิกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมถึงแถลงยกย่องแนวคิดของคณะนิติราษฏร์ ที่ให้ยกเลิกผลพวงจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49
เท่านั้นไม่พอ ยังพาเจ้า อัมสเตอร์ดัม ไปบริเวณพื้นที่การชุมนุมของเสื้อแดงตามจุดต่างๆ เช่น สี่แยกคอกวัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัดปทุมวนาราม แล้วก็พาอัมสเตอร์ดัมไปยังเรือนจำต่างๆ เพื่อพบและเยี่ยมผู้ต้องหาคดีความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ กรณีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี ไม่ว่าจะเป็น สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย -สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยาม- นางดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือ ดาตอร์ปิโด
ข่าวว่าทุกจุดที่ทนายนปช. และอัมสเตอร์ดัม เดินทางไปมีเจ้าหน้าที่ทั้งของเรือนจำและตำรวจมาคอยดูแลสถานที่ให้เป็นอย่างดีด้วย แถมไอ้เจ้าฝรั่งรายนี้ ยังอวดดี มาเสนอหน้าให้สัมภาษณ์ว่าเรือนจำของไทยไม่ได้มาตรฐานสากล
นอกจากนั้น ยังโวว่า มีพยานหลักฐานเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ –สุเทพ เทือกสุบรรณ ในกรณีการสั่งสลายการชุมนุมได้
พวกเสื้อแดง–ทีมทนายความนปช. และทีมฝ่ายต่างประเทศของนปช. ที่ไปเที่ยวเดินประกบยกย่อง อัมสเตอร์ดัม ปล่อยให้ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้มาเที่ยวด่าคนไทย ด่ากระบวนการยุติธรรมของไทยในแผ่นดินไทยได้อย่างไร
มิหนำซ้ำยังให้เครดิตว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม มีหลักฐานลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าเอาผิดคนสั่งให้มีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 ได้แน่นอน
ใครเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เพราะหากมีหลักฐานพวกนี้จริง ป่านนี้คงไม่ต้องรอสร้างภาพ พาไอ้เจ้าอัมสเตอร์ดัม ไปเที่ยวเดินตามสี่แยกคอกวัว-ราชประสงค์-วัดปทุมวนาราม-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เสียเวลา
**ถ้ามีของดีจริง มีหรือ อัมสเตอร์ดัม จะไม่รีบแถลงข่าวเปิดหลักฐานทันที เมื่อมาถึงเมืองไทยวันแรก
หากอัมสเตอร์ดัมมีหลักฐานอยู่ในมือจริง แล้วทำไม ทีมทนายความนปช. ถึงหาเองไม่ได้ ต้องให้พวกทนายต่างชาติ เป็นคนหาหลักฐานได้ในเมืองไทย ก็แสดงว่าพวกทนายความนปช.ทั้งหลาย มันไม่ได้เรื่องใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับไอ้ฝรั่งคนนี้ โดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรณีที่ อัมสเตอร์ดัม ออกหนังสือที่ชื่อว่า “สมุดปกขาว การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ
สาเหตุที่ต้องแจ้งความเป็นคดี เป็นเพราะเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ มีคำพูดที่หมิ่นศาล และหมิ่นสถาบันฯ เช่น ข้อเขียนที่ระบุว่า “ครอบงำศาล ยึดทรัพย์ทักษิณ” โดยหนังสือเล่มดังกล่าวที่ก็มีการวางขายอยู่ในตอนนี้พบว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้เขียนคำนำ และยังเป็นคนว่าจ้างให้อัมสเตอร์ดัม เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษ ก่อนที่จะมีการแปลเป็นภาษาไทย
**จึงถือว่า อัมสเตอร์ดัม ก็มีคดีเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ แล้วก่อนจะเพิกถอนคำสั่งห้ามให้ อัมสเตอร์ดัม เดินทางเข้าประเทศ ตำรวจได้มีการเรียกตัวไปสอบสวนก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าประเทศไทยหรือไม่
กรณีของ พสิษฐ์ และ อัมสเตอร์ดัม ทนายฝรั่งที่มากล่าวหาให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยถึงแผ่นดินไทย รวมถึงมีข้อเขียนและคำให้สัมภาษณ์หลายครั้งที่ไม่เหมาะสมเช่น พูดเรื่องมือที่มองไม่เห็น แต่ก็สามารถเดินทางเข้าออกในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย มี ส.ส.ไทย – แกนนำนปช.-ทีมทนายความคนไทย คอยเทคแคร์ ดูแลอย่างดี ยกก้นจับนั่งแถลงข่าวราวกับเป็นศาสตาจารย์กระบวนการยุติธรรมระดับโลก ที่มาเยือนเมืองไทย
ทั้งที่ก็เป็นแค่ไอ้ทนายฝรั่ง ที่ทำงานรับใช้นักโทษหนีคดี หัวหน้าแก๊งเผาบ้านเผาเมือง เพื่อหวังเอาเศษเงินจากทักษิณ แล้วก็มาวิจารณ์ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทยแบบเสียหาย
สะใจทักษิณ ที่จ้างคนต่างชาติมาด่าคนไทยด้วยกันเองได้
**กรณีตำรวจสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ก็ดี หรือกรณีของอัมสเตอร์ดัม ที่ทำเหมือนกระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีศักดิ์ศรี ไม่เห็นทักษิณ –ส.ส.เพื่อไทย และพวกเสื้อแดง จะออกมาโวยว่า สองมาตรฐาน ทำอะไรก็ผิด ให้ได้ยินเลยสักครั้ง