ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูหรืออยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล ยิ่งกับข้าราชการด้วยแล้ว พร้อมทำงานสนองทุกเรื่อง โดยเฉพาะตำรวจ
ทำได้ทุกอย่าง ถ้าฝ่ายการเมืองแค่ขยับ ไม่ต้องเอ่ยปากก็วิ่งโร่ไปรับใช้ถึงตีนบันไดบ้าน
ไม่อย่างงั้นจะมีหรือ ที่จู่ๆ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ซึ่งตอนนี้เป็นที่ปรึกษา นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข ในคดีที่พสิษฐ์ไปก่อเรื่องไว้ตอนเป็นเลขานุการ ชัช ชลวร ช่วงเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ
คดีพสิษฐ์โดยตัวแทนสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเข้าแจ้งความต่อกองปราบปราม ให้เอาผิดพสิษฐ์กรณีร่วมมือกับ น.ส.ชุติมา หรือพิมพ์พิจญ์ แสนสินรังสี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับ 3 สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันล่วงรู้ความลับในราชการ เปิดเผยความลับโดยประการให้เกิดความเสียหายตามกฎหมายอาญา มาตรา 164 และความผิดฐานร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการน่าจะเกิดความเสียหาย ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14
คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายน ที่มีการเผยแพร่คลิปลับหลายตอนผ่านเว็บไซด์ยูทิวบ์ก่อนการตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื้อหาคลิปหลายตอนพาดพิงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหลายคน
ดูจากคลิปแล้วต้องเป็นคนในที่ไม่ธรรมดาแน่นอนถึงสามารถเข้าไปบันทึกภาพในห้องประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้
แต่ตำรวจก็อ้างว่าผลการสอบสวนไม่มีพยานปากใดเห็นผู้ต้องหาเป็นผู้นำกล้องไปซ่อนในห้องประชุม หรือบันทึกภาพ และไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า
ผู้ต้องหานำคลิปไปเผยแพร่ทางยูทิวบ์ มีแต่ผู้ใช้ยูสเซอร์เนมว่า “โอ้ มายก็อด 3009” โดยไม่ระบุอีเมลแอดเดรส จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ตำรวจจึงยุติการสอบสวน พร้อมทำความเห็นเสนออัยการสมควร สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง
จบกันง่ายๆ แบบนี้ในชั้นตำรวจ ต่อไปก็ต้องไปดูว่าอัยการจะว่าอย่างไร ก็ยังไม่อยากไปคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แม้หลายคนจะประเมินไปก่อนแล้วว่าคดีนี้ก็คงเข้าอีหรอบเดียวกัน คืออัยการน่าจะเห็นด้วยกับตำรวจ คือ
สั่งไม่ฟ้อง
คดีนี้ไม่ใช่คดีใหญ่อะไร คงไม่ต้องถึงกับให้ระดับ จุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดลงมาดูด้วยตัวเอง เอาแค่ระดับอัยการสำนักฯ ก็พอแล้ว และหากอัยการเห็นด้วยสั่งไม่ฟ้อง เรื่องก็จบ
ก๊วนทำคลิปลับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ข่าวว่ามีบางคนบางพวกในพรรคเพื่อไทยและพวกเสื้อแดงร่วมรู้เห็นกับเรื่องนี้ รวมทั้ง “ปอย พสิษฐ์” ก็เฮกันไป
โดยเฉพาะ พสิษฐ์ ได้ทำงานสนองคนอยู่เบื้องหลังเต็มที่แล้ว แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ประชาธิปัตย์ถูกยุบพรรคไม่ได้ จนต้องหลบไปอยู่ฮ่องกงนานหลายเดือนตั้งแต่หลังเกิดเหตุ หลังฟ้าเปลี่ยนสีอำนาจเปลี่ยนมือกลับมาก็มีคนคอยดูแลเป็นพิเศษ แถมได้เก้าอี้ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กินเงินเดือนหลวงอีกหลายหมื่นบาทแบบไม่ต้องทำงานอะไร
งานไม่สำเร็จ แต่ก็มีโบนัสให้ แล้วใครไม่อยากช่วยงานทักษิณ-เพื่อไทยอีก
เช่นเดียวกับรายนี้ โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และที่ปรึกษาต่างประเทศของพวกเสื้อแดง-นปช.
เจ้านี้ก็ทำงานรับใช้ทักษิณ-เสื้อแดงสุดตัว ท่าทางคงได้เงินอัดฉีดไปเยอะ แม้ผลงานยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนพวก นปช.หลายคน ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าทักษิณ จะโดนไอ้ฝรั่งรายนี้หลอกหารับประทานหรือเปล่า
ที่น่าอดสูไม่น้อยก็พวก นปช.ทั้งหลายโดยเฉพาะทีมงานทนายความ นปช. พวกนี้ไปรับงานสู้คดีให้คนเสื้อแดงในเรื่องการสลายการชุมนุมสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันนี้ก็พอเข้าใจได้อยู่ ถือเป็นต่างคนต่างทำหน้าที่
แต่การที่ทีมทนายความ นปช.และฝ่ายต่างประเทศของคนเสื้อแดง เล่นพาทนายฝรั่งคนนี้ไปนั่งแถลงข่าวตำหนิกระบวนการยุติธรรมของไทย รวมถึงแถลงยกย่องแนวคิดของคณะนิติราษฎร์ ที่ให้ยกเลิกผลพวงจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.49
เท่านั้นไม่พอ ยังพาเจ้าอัมสเตอร์ดัมไปบริเวณพื้นที่การชุมนุมของเสื้อแดงตามจุดต่างๆ เช่น สี่แยกคอกวัว บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วัดปทุมวนารามฯ
แล้วก็พาอัมสเตอร์ดัมไปยังเรือนจำต่างๆ เพื่อพบและเยี่ยมผู้ต้องหาคดีความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ กรณีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดี ไม่ว่าจะเป็น สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยาม นางดารณี ศิลปะชาญกุล หรือดา ตอร์ปิโด
ข่าวว่าทุกจุดที่ทนาย นปช.และอัมสเตอร์ดัมเดินทางไป มีเจ้าหน้าที่ทั้งของเรือนจำ และตำรวจมาคอยดูแลสถานที่ให้เป็นอย่างดีด้วย แถมไอ้เจ้าฝรั่งรายนี้ยังอวดดีมาเสนอหน้าให้สัมภาษณ์ว่าเรือนจำของไทยไม่ได้มาตรฐานสากล
นอกจากนั้นยังโวว่า มีพยานหลักฐานเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ ในกรณีการสั่งสลายการชุมนุมได้
พวกเสื้อแดง-ทีมทนายความ นปช.และทีมฝ่ายต่างประเทศของ นปช.ที่ไปเที่ยวเดินประกบยกย่องอัมสเตอร์ดัม ปล่อยให้ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวคนนี้มาเที่ยวด่าคนไทยด่ากระบวนการยุติธรรมของไทยในแผ่นดินไทยได้อย่างไร
มิหนำซ้ำยังให้เครดิตว่า โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม มีหลักฐานลายลักษณ์อักษร ซึ่งเป็นหลักฐานใหม่ที่อ้างว่าเอาผิดคนสั่งให้มีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 53 ได้แน่นอน
ใครเห็นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ เพราะหากมีหลักฐานพวกนี้จริง ป่านนี้คงไม่ต้องรอสร้างภาพพาไอ้เจ้าอัมสเตอร์ดัมไปเที่ยวเดินตามสี่แยกคอกวัว-ราชประสงค์-วัดปทุมวนาราม-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เสียเวลา
ถ้ามีของดีจริง มีหรืออัมสเตอร์ดัมจะไม่รีบแถลงข่าวเปิดหลักฐานทันทีเมื่อมาถึงเมืองไทยวันแรก
หากอัมสเตอร์ดัมมีหลักฐานอยู่ในมือจริง แล้วทำไม ทีมทนายความ นปช.ถึงหาเองไม่ได้ ต้องให้พวกทนายต่างชาติ เป็นคนหาหลักฐานได้ในเมืองไทย ก็แสดงว่าพวกทนายความนปช.ทั้งหลาย มันไม่ได้เรื่องใช่ไหม
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีการแจ้งความตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับไอ้ฝรั่งคนนี้ โดยนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.ประชาธิปัตย์ กรณีที่อัมสเตอร์ดัม ออกหนังสือที่ชื่อว่า “สมุดปกขาว การสังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ” ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ
สาเหตุที่ต้องแจ้งความเป็นคดีเป็นเพราะเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ มีคำพูดที่หมิ่นศาล และหมิ่นสถาบันฯ เช่น ข้อเขียนที่ระบุว่า “ครอบงำศาลยึดทรัพย์ทักษิณ” โดยหนังสือเล่มดังกล่าวที่ก็มีการวางขายอยู่ในตอนนี้พบว่า ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้เขียนคำนำ และยังเป็นคนว่าจ้างให้อัมสเตอร์ดัมเขียนหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาอังกฤษก่อนที่จะมีการแปลเป็นภาษาไทย
จึงถือว่าอัมสเตอร์ดัมก็มีคดีเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ แล้วก่อนจะเพิกถอนคำสั่งห้ามให้อัมสเตอร์ดัมเดินทางเข้าประเทศ ตำรวจได้มีการเรียกตัวไปสอบสวนก่อนที่จะอนุญาตให้เข้าประเทศไทยหรือไม่
กรณีของ พสิษฐ์ และอัมสเตอร์ดัม ทนายฝรั่งที่มากล่าวหาให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของไทยถึงแผ่นดินไทย รวมถึงมีข้อเขียนและคำให้สัมภาษณ์หลายครั้งที่ไม่เหมาะสมเช่นพูดเรื่องมือที่มองไม่เห็น แต่ก็สามารถเดินทางเข้าออกในประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย มี ส.ส.ไทย-แกนนำ นปช.-ทีมทนายความคนไทยคอยเทกแคร์ดูแลอย่างดี ยกก้นจับนั่งแถลงข่าวราวกับเป็นศาสตาจารย์กระบวนการยุติธรรมระดับโลกที่มาเยือนเมืองไทย
ทั้งที่ก็เป็นแค่ไอ้ทนายฝรั่งที่ทำงานรับใช้นักโทษหนีคดี หัวหน้าแก๊งเผาบ้านเผาเมือง เพื่อหวังเอาเศษเงินจากทักษิณแล้วก็มาวิจารณ์ให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมไทยแบบเสียหาย
สะใจทักษิณ ที่จ้างคนต่างชาติมาด่าคนไทยด้วยกันเองได้
กรณีตำรวจสั่งไม่ฟ้อง พสิษฐ์ ก็ดีหรือกรณีของอัมสเตอร์ดัม ที่ทำเหมือนกระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีศักดิ์ศรี ไม่เห็นทักษิณ-ส.ส.เพื่อไทยและพวกเสื้อแดง จะออกมาโวยว่า สองมาตรฐานทำอะไรก็ผิด ให้ได้ยินเลยสักครั้ง