xs
xsm
sm
md
lg

น้ำท่วมฉุดจีดีพีแสนล้าน คน2แสนตกงานหยุดยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - แบงก์ชาติประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมพุ่ง 1% ของจีดีพี คิดเป็นมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท แต่อาจลามทุ่ง จ่อปรับลดการประมาณการเศรษฐกิจ จับตาผลกระทบปีหน้า พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจให้แบงก์พาณิชย์-สาขาธนาคารต่างชาติ หวั่นน้ำท่วมหนักทำระบบการเงินล่ม เผย 29 จังหวัดเสียหาย 2.9 หมื่นล้าน แรงงานกระทบ 2.05แสนคน คาดแรงงานส่อหยุดยาว 3-10 เดือน ขณะที่งานบีโอไอแฟร์เลื่อนแน่นอน พร้อมประชุมหารืออีกครั้ง 17 ต.ค.นี้

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้หนักกว่าที่ธปท.คาดการณ์ไว้ ซึ่งความเสียหายน้ำท่วมได้กระจายวงกว้างมากขึ้น เพราะปริมาณน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่อุตสาหกรรมสำคัญเพิ่มเติมทั้งในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมโรจนะเฟส 2 และ 3 พร้อมทั้งนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ทำให้ขณะนี้มูลค่ากิจกรรมเศรษฐกิจเสียหายจาก 6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท หรือส่งผลกระทบประมาณ 1%ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

“สถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ยังไม่จบและไม่รู้ว่าอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์น้ำจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้มองว่าปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้เริ่มขยายไปสู่สายการผลิตที่ต้องหยุดผลิตชั่วคราวจากการที่ขาดแคลนอะไหล่ ดังนั้น ผลจากน้ำท่วมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจแค่ไหนก็ต้องประเมินกันอีกทีหนึ่ง เพราะเราต้องติดตามด้วยว่าหลังน้ำลด เม็ดเงินในการฟื้นฟูจะต้องใช้เยอะขนาดไหนและมาตรการเยียวยาของภาครัฐ และการฟื้นฟูภาคเอกชนต่อไปจะเป็นอย่างไร”

ผู้ว่าการธปท.กล่าวว่า ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ธปท.จะมีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจใหม่ จากปัจจุบันประเมินว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอยู่ที่ระดับ 4.1%แต่มองว่าสถานการณ์น้ำท่วมเกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง และอีกทั้งยังต้องมีการประเมินการชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศด้วย โดยในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ธปท.กับติดตามและประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิด

ส่วนการประมาณการเศรษฐกิจปี 55 ก็ต้องพิจารณาแผนหรือมาตรการฟื้นฟูที่จะเข้ามาเป็นตัวเสริมด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น หากสถานการณ์น้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 2.50-2.80 เมตร ถือเป็นจุดเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมรุนแรง โดยขณะนี้ธปท.ได้มีการหารือกับธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาธนาคารต่างชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ระบบการเงินและธุรกรรมต่างๆ เดินหน้าได้ตามปกติ พร้อมทั้งเตรียมแผนรองรับเหตุการณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยทั้งในส่วนของธปท.และสถาบันการเงินต่างๆ

โดย ธปท.มีการหารือผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์กับธนาคารพาณิชย์ทุก 2 ในเวลา 15.00 น. เช่นเดียวกับสาขาธนาคารต่างชาติก็จะชี้แจงทุกวันศุกร์ ในเวลา 17.30 น.เพื่อทำความเข้าใจและสร้างมั่นใจให้แก่ระบบเศรษฐกิจไทยให้แก่นักลงทุนต่างชาติอีกทางหนึ่งด้วย

***คนตกงาน 2 แสนหยุดยาว

นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย(War Room )กระทรวงอุตสาหกรรมได้สรุปผลกระทบจากโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมล่าสุดมีทั้งสิ้น 1,299 แห่ง ใน 29 จังหวัดโดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเพิ่มคือ จ.ลำปางและลำพูน ผลกระทบแรงงาน 2.05 แสนคน มูลค่าเสียหายทั้งทางตรงและอ้อมรวม 2.93หมื่นล้านบาทโดยมูลค่าไม่ได้รวมผลกระทบจากนิคมฯโรจนะ นิคมฯบ้านหว้า(ไฮเทค) เนื่องจากไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

“ เหตุการณ์ครั้งนี้ผมถือว่าเป็นครั้งที่วิกฤตใหญ่มากของภาคอุตสาหกรรมและคงจะต้องเรียนประชาชนทั่วไปที่มองว่าเราให้ความสำคัญกับธุรกิจมากไปนั้นต้องเข้าใจว่าอุตสาหกรรมหากได้รับผลกระทบแล้วจะกระทบทุกภาคส่วนทั้งการจ้างงาน เศรษฐกิจประเทศ”นายสุภาพกล่าว

**แรงงานส่อหยุดงานยาว3-10เดือน

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวหลังการหารือกับนายเซ็ตซิโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร ) และหอการค้าญี่ปุ่น (เจซีซี) วานนี้(14 ต.ค.) ว่า ปัญหาที่น่ากังวลนับจากนี้ คือ ปัญหาการว่างงานของแรงงานหลักแสนคน ในพื้นที่จังหวัดพระนครอยุธยา ที่อาจต้องหยุดงาน 3 -10 เดือนแล้วแต่ธุรกิจโดยบางแห่งอาจหยุดยาวหากเครื่องจักรเสียหายเพราะการฟื้นฟูโรงงานแต่ละแห่งไม่เท่ากัน โดยกลุ่มที่น่ากังวลคือพนักงานเอาท์ซอส์ ที่มีสัดส่วนกว่า 30 %-40% ของการจ้างงานทั้งหมด 2.15 แสนคนหรือคิดเป็นจำนวนประมาณ 9 หมื่นคน เพราะไม่มีสัญญาจ้างระยะยาว

ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้ยืนยันต่อนักลงทุนญี่ปุ่นว่ารัฐบาลไทยได้ดำเนินการแก้ภาวะวิกฤตน้ำท่วมอย่างเต็มที่ทุกๆ ด้านโดยเฉพาะส่วนของนิคมฯและเขตประกอบการต่างๆ ซึ่งนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าใจว่าเป็นเหตุจากภัยธรรมชาติจึงยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆ กับไทย ญี่ปุ่นต้องการข้อมูลภาษาอังกฤษ

นายเซ็ทซึโอะ อิอูจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร สำนักงานกรุงเทพ ยืนยันว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นักลงทุนญี่ปุ่นยังไม่ได้คิดย้ายฐานการลงทุนจากไทย เพราะยังเป็นประเทศฐานการผลิตที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยสิ่งที่ต้องการคือข้อมูลข่าวสารที่เป็นภาษาอังกฤษโดยอาจให้ บีโอไอและการนิคมอุตสาหกรรมแห่ประเทศไทย(กนอ.) เป็นศูนย์กลางกระจายข่าวสาร เพราะขณะนี้ข้อมูลสถานการณ์น้ำค่อนข้างสับสน และหวังว่าระดับน้ำจะลดโดยเร็ว เพื่อที่จะได้เข้าไปสำรวจความเสียหาย และเร่งฟื้นฟูเพื่อเดินหน้าสายการผลิตต่อไป

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) และเอกชนส่วนใหญ่เห็นว่าคงจะต้องเลื่อนการจัดงานบีโอไอแฟร์ 2011 ที่จะมีขึ้นระหว่าง 10-25 พ.ย. 2554 นี้ที่อิมแพค เมืองทองธานี ออกไปก่อนแต่รายละเอียดเวลาจัดงานที่ชัดเจน สถานที่ จะมีการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งวันที่ 17ต.ค.นี้เพื่อเร่งสรุปภายในสัปดาห์หน้าในการประกาศให้ทุกฝ่ายอย่างเป็นทางการอีกครั้งกระทบแรงงาน2แสนคนแล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น